เปิด Check List ประกัน ที่คนวัยทำงานต้องห้ามพลาด

file

การลงทุนช่วยเพิ่มความมั่งคั่งให้แก่ชีวิต แต่การมีความมั่งคั่งเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอสำหรับการดูแลคุณภาพชีวิตทุกด้านได้ ซึ่งสิ่งที่จะเข้ามาเติมเต็มการดูแลคุณภาพชีวิตของคุณให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น คือ การวางแผนการเงิน ในส่วนของการปกป้องความมั่งคั่งอย่างการวางแผน “ประกัน” เพราะนอกจากจะเป็นตัวช่วยในเรื่องของการปกป้องความมั่งคั่งจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพแล้ว ยังเป็นตัวช่วยในการวางแผนภาษี การวางแผนเกษียณ และการส่งต่อมรดกอีกด้วย 

อย่างไรก็ตาม ประกันแต่ละประเภท แต่ละแบบ ก็มีความสำคัญและความเหมาะสมแตกต่างกันไปตามช่วงวัยและความต้องการของแต่ละบุคคลในที่นี้จะขอเจาะลึกลงมาที่วิธีการเลือกประกันของวัยทำงานกันก่อน เพราะวัยทำงานเป็นวัยที่ถือเป็นช่วงสำคัญที่จะพิจารณาแบบประกันที่เหมาะสมเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการและช่วยรักษาความมั่งคั่งให้ยังคงอยู่ วัยนี้จะเป็นกลุ่มอายุระหว่าง 15 - 59 ปี ซึ่งอาจแบ่งออกเป็น วัยทำงานตอนต้น (อายุ 15 - 29 ปี) วัยทำงานตอนกลาง (อายุ 30 - 44 ปี) และวัยทำงานตอนปลาย (อายุ 45 - 59 ปี) โดยครั้งนี้จะขอเน้นที่กลุ่มวัยทำงานตอนกลาง เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่เริ่มมีความมั่งคั่ง  ในขณะที่ความต้องการทำประกันในวัยนี้ก็เพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วงวัยทำงานตอนต้น

ช่วงอายุ 30 - 44 ปี แม้จะเป็นช่วงอายุที่มีรายได้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็มีภาระมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากเป็นวัยที่เริ่มสร้างครอบครัว ทำให้มีค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น ค่าบ้าน ค่ารถ ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว รวมถึงพ่อแม่ และยังต้องเก็บออมหรือลงทุนให้ได้ตามเป้าหมาย ในช่วงวัยนี้การป้องกันความเสี่ยงด้วยการทำประกันจึงสำคัญมาก โดยประกันที่ควรจะต้องมี คือ ประกันชีวิต  เพื่อจัดการกับความเสี่ยงกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น สมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ก็ยังสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ด้วยทุนประกันตามแต่ที่ทำประกันไว้

ประกันชีวิตมีทั้งแบบชั่วระยะเวลา แบบสะสมทรัพย์ แบบบำนาญ และแบบตลอดชีพ ซึ่งแต่ละแบบมีวัตถุประสงค์แตกต่างกันออกไป สำหรับคนวัยทำงานโดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัว หรือมีบุตร มีบุคคลในอุปการะที่ต้องเลี้ยงดู ควรจะต้องมีประกันชีวิตแบบตลอดชีพเป็นอย่างแรก เนื่องจากประกันชีวิตประเภทนี้จะคุ้มครองไปตลอดช่วงชีวิต และยิ่งทำเร็วยิ่งมีความคุ้มค่าทั้งในแง่เบี้ยประกันที่ยิ่งทำเร็ว เบี้ยยิ่งถูก ในขณะที่ความคุ้มครองชีวิตจะได้รับเป็นเงินก้อนใหญ่ เพื่อให้ผู้รับประโยชน์อย่างสมาชิกในครอบครัวสามารถดำรงชีวิตภายใต้มาตรฐานชีวิตที่ดีเพียงพอและสามารถดูแลค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งในชีวิตประจำวัน และค่าผ่อนชำระภาระต่างๆ ตามที่จำเป็นได้ด้วย

นอกจากนั้น ในช่วงวัยนี้ ประกันสุขภาพก็นับเป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน ทั้งประกันสุขภาพแบบทั่วไป และประกันสุขภาพที่คุ้มครองโรคร้ายแรง เผื่อในกรณีเจ็บป่วยจะได้สามารถจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ ยิ่ง ณ ปัจจุบัน เทคโนโลยีทางการแพทย์มีความก้าวหน้ามาก ทำให้มีวิธีการรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่แน่นอนย่อมตามมาด้วยค่าใช้จ่ายก้อนโต ซึ่งหากไม่มีการทำประกันสุขภาพไว้ ก็อาจต้องใช้เงินทั้งหมดไปกับการรักษาพยาบาล และอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการดูแลค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ รวมถึงเป้าหมายทางการเงินที่อาจสะดุดไปด้วย และยิ่งไปกว่านั้น หากไม่มีความสามารถในการชำระค่ารักษาพยาบาลตลอดการรักษา ก็อาจทำให้ไม่สามารถรักษาตัวได้ตามที่ควรจะเป็น

ดังนั้น จะเห็นว่าการทำประกันสุขภาพทั้งแบบทั่วไปและประกันสำหรับโรคร้ายแรง มีความสำคัญกับคนทำงานในช่วงวัยประมาณ 30 - 44 ปี ไม่น้อยไปกว่าประกันชีวิตเลย และแม้ว่าบริษัทส่วนใหญ่จะมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลให้กับพนักงานอยู่แล้ว แต่อาจไม่เพียงพอหากเกิดการเจ็บป่วยจริง โดยเฉพาะหากต้องเป็นผู้ป่วยในหรือต้องเข้ารับการผ่าตัด หรือเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรง

ดังนั้น จึงควรมองหาประกันสุขภาพเพิ่มเติมไว้เผื่อกรณีเกิดการเจ็บป่วยขึ้น นอกจากนี้ยังควรมองหาประกันสุขภาพที่คุ้มครองต่อเนื่อง ไม่ปฏิเสธการต่ออายุ เพื่อให้มีความคุ้มครองต่อเนื่องได้ เพราะหากอายุมากขึ้นเริ่มตรวจพบโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อถึงเวลานั้น หากเรายังไม่มีประกันสุขภาพเลยตั้งแต่ช่วงที่เริ่มตั้งตัวได้และยังมีสุขภาพแข็งแรงอย่างช่วงวัยทำงานตอนกลาง เราก็อาจไม่สามารถทำประกันสุขภาพได้อีกเลย เนื่องจากบริษัทประกันมักไม่รับทำประกันหรือหากรับก็จะตามมาด้วยเงื่อนไขมากมายกับบุคคลที่มีประวัติการเจ็บป่วยรุนแรงหรือมีโรคประจำตัว

วัยทำงานตอนกลาง ช่วงอายุ 30 - 44 ปี จึงเป็นช่วงวัยที่สำคัญอย่างมากทั้งในด้านการสร้างครอบครัว สร้างความมั่งคั่ง และปกป้องความมั่งคั่งด้วยการทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพ เพื่อให้ทั้งแผนการเงินและแผนการดูแลสุขภาพสามารถดำเนินไปอย่างราบรื่นได้ตามที่ต้องการ

 

====================================================

 

เผยแพร่ครั้งแรกที่คอลัมน์ Health is Wealth ใน กรุงเทพธุรกิจ

 

บทความล่าสุด

หุ้นกลุ่ม Healthcare ทวงคืนตำแหน่ง Top Performer บนเวทีหุ้นโลก

โพสต์เมื่อ 20 เมษายน 2567

ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา หุ้นกลุ่ม Healthcare กลับมาสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น จากแนวโน้มการเติบโตที่คาดว่าจะสูงกว่าตลาดโดยรวมในปีนี้ ในขณะที่ยังซื้อขายในระดับราคาที่ไม่แพงโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกลุ่มเทคโนโลยีที่เติบโตในระดับใกล้เคียงกัน ทำให้ปีนี้มีโอกาสสูงที่กลุ่ม Healthcare จะกลับมาทวงคืนตำแหน่ง Top Performer บนเวทีตลาดหุ้นโลก

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตสร้างกำไร ขายหุ้นสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น เบนเข็มลงทุน “หุ้น Asia ex Japan”

โพสต์เมื่อ 20 เมษายน 2567

ในปี 2024 เศรษฐกิจโลกภาพรวมเติบโตดีกว่าคาด โดยภูมิภาคที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดคือ ภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่จะเติบโตได้ดีในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว และยังเป็นปีแห่งโอกาส

อ่านต่อ >>

จับจังหวะทำกำไร กับขาขึ้นรอบใหม่ของตลาดหุ้น Asia

โพสต์เมื่อ 20 เมษายน 2567

ตลาดหุ้นเอเชีย (Asia ex Japan) ถือเป็นตลาดหุ้นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงไม่แพ้ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets) โดยเฉพาะในฝั่งของภาคการผลิตที่บริษัทยักษ์ใหญ่จากภูมิภาคเอเชีย ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรมการผลิตของโลก

อ่านต่อ >>