ลงทุนกลุ่ม Global Quality สร้างผลตอบแทนได้แม้ในยามผันผวน

file

ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญความผันผวนสูงในช่วงเดือนที่ผ่านมา เป็นสัญญาณชี้ว่าตลาดหุ้นมีความอ่อนไหวต่อตัวเลขเศรษฐกิจและประเด็นต่าง ๆ มากขึ้น การลงทุนในช่วงนี้จึงควรเน้นลงทุนในกลุ่มหุ้นที่มีคุณภาพสูง (Quality) มีความแข็งแกร่งและยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ท่ามกลางความผันผวน

กลุ่มหุ้นคุณภาพ (Quality Equities) คือกลุ่มหุ้นที่มีความแข็งแกร่งทั้งในแง่ของลักษณะธุรกิจที่เติบโตได้ในระยะยาว ความได้เปรียบในแง่การกำหนดราคา อัตราการทำกำไร และสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดย MSCI ได้กำหนดคุณสมบัติสำคัญของกลุ่มหุ้นคุณภาพเพื่อคัดหุ้นเข้าดัชนี MSCI World Quality Index ไว้ 3 ข้อคือ 

  1. มีอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Return on Equity : ROE) ในระดับสูง ซึ่งจะบ่งบอกความสามารถของบริษัทในการนำเงินลงทุนของผู้ถือหุ้นไปสร้างกำไรได้ดี 
  2. ความมีเสถียรภาพของอัตราการเติบโตทางกำไร (Stable Earnings Growth) โดยจะวัดเทียบเป็นรายปีเพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทเหล่านั้นยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง  
  3. มีภาระหนี้สินในระดับต่ำ (Low Financial Leverage) โดยพิจารณาจาก อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น (Debt to Equity Ratio: D/E) 

 

กลุ่มหุ้นคุณภาพที่มีลักษณะตรงตามเกณฑ์ 3 ข้อดังกล่าวจะมีความแข็งแกร่งและสามารถต้านทานได้แม้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนมีความผันผวน ในขณะเดียวกันยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในอัตราสูงเมื่อเทียบกับหุ้นทั่วไป โดยหากเทียบผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี ของกลุ่มหุ้นคุณภาพทั่วโลก (MSCI World Select Neutral Quality Net Total Return USD EOD Index) พบว่าสามารถสร้างผลตอบแทนได้กว่า 170% ในขณะที่กลุ่มหุ้นโลกทั่วไป (MSCI ACWI Net Total Return USD Index) ให้ผลตอบแทนราว 129% 

ตัวอย่างของหุ้นคุณภาพทั่วโลกในปัจจุบันที่เรารู้จักกันดีกระจายในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น APPLE, Microsoft, NVIDIA, Meta และ ASML กลุ่มอุตสาหกรรมทางการเงิน เช่น VISA และ Mastercard กลุ่มเฮลท์แคร์ เช่น Eli Lilly และ Novo Nordisk รวมไปถึงกลุ่มค้าปลีกอย่าง COSTCO ซึ่งบริษัทเหล่านี้ล้วนเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งและสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง 

ดังนั้น ในช่วงนี้ที่ตัวเลขเศรษฐกิจเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง แม้จะยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย แต่อาจส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น การลงทุนในกลุ่มหุ้นหรือกองทุนที่เน้นลงทุนในกลุ่มหุ้นคุณภาพทั่วโลก (Global Quality) จะช่วยให้พอร์ทลงทุนไม่ผันผวนจนเกินไปและยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับสูงในระยะยาว 

เปรียบเทียบผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี ของกลุ่มหุ้น Global Quality และหุ้น Global ทั่วไป 

เปรียบเทียบผลตอบแทนย้อนหลัง 10 ปี ของกลุ่มหุ้น Global Quality และหุ้น Global ทั่วไป ที่มา: Bloomberg, TISCO Wealth Advisory
file

 

บทความโดย ณัฐพร ธรวงศ์ธวัช AFPT™

Wealth Manager ธนาคารทิสโก้

บทความล่าสุด

4 ปัจจัยหนุนหุ้นไทยขึ้นต่อ รับดอกเบี้ยโลกขาลง

โพสต์เมื่อ 8 ตุลาคม 2567

ตลาดหุ้นไทยกลายเป็นตลาดที่น่าจับตามองหลังดัชนี SET Index ปรับตัวขึ้นมาบริเวณ 1,460 จุด หรือปรับตัวขึ้นนับจากจุดต่ำสุดกว่า 200 จุด ส่งผลให้ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยสร้างผลตอบแทนสูงถึง 8.8% และสูงสุดในประเทศกลุ่มอาเซียน

อ่านต่อ >>

4 เหตุผลที่ต้องมีหุ้น Healthcare ติดพอร์ตในไตรมาส 4

โพสต์เมื่อ 8 ตุลาคม 2567

วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ หลังจากที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากถึง 0.5% จากระดับ 5.25 - 5.5% สู่ระดับ 4.75 - 5% ซึ่งถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่มากกว่าตลาดคาด

อ่านต่อ >>

เปิดนโยบาย Trump vs Harris จับทิศการลงทุน

โพสต์เมื่อ 8 ตุลาคม 2567

ผ่านไปแล้วกับการขึ้นเวทีดีเบตระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ และ คามาลา แฮร์ริส ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้ง 2 ฝ่ายต่างแสดงวิสัยทัศน์และนโยบายที่จะใช้บริหารประเทศที่โดดเด่นและมีความแตกต่างกัน นโยบายของผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้นำคนสำคัญของโลกจะเป็นเข็มทิศสำคัญต่อการวางแผนการลงทุน

อ่านต่อ >>