Asia's Growth is Getting Back

file

ในปี 2023 ประเด็นความไม่แน่นอนของปีที่ผ่านมาน่าจะเริ่มเห็นความชัดเจนมากขึ้น หลังจากตลาดหุ้นหลายประเทศปรับตัวลดลงอย่างมากทั้งในปี 2022 โดยเกิดจากความกังวลในเรื่องของเงินเฟ้อและนโยบายการเงินที่เข้มงวดของ Fed ที่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วและรุนแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังมีความกังวลในเรื่องการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหลักกดดันอัตรากำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีแนวโน้มปรับลดคาดการณ์กำไรลงในหลายประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม ความกังวลทางด้านเงินเฟ้อในปีหน้าจะเริ่มลดลง หลังจากการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อในแต่ละประเทศที่ออกมาได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และจะเริ่มปรับตัวลดลงอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2023 ทำให้ธนาคารกลางในประเทศต่าง ๆ อาจเริ่มกลับมาชะลอความร้อนแรงในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและหันมาให้ความสำคัญกับตัวเลขทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง

สำหรับกลยุทธ์ส่วนหนึ่งของเรา มองว่าทางเลือกที่น่าสนใจในการลงทุนในปี 2023 คือการเน้นลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตสวนกระแสการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลก โดยตลาดหุ้นที่มีแนวโน้มจะ Outperform จะต้องเป็นตลาดหุ้นของประเทศที่เศรษฐกิจยังมีอัตราการเติบโตของ GDP อยู่ในระดับที่สูง มีการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ที่แข็งแกร่ง และที่สำคัญคือ มี Valuation ที่อยู่ระดับต่ำเพียงพอที่จะทำให้เกิด Margin of Safety ในการลงทุน เช่น จีน และ เวียดนาม

IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนในปี 2023 จะเติบโตได้ 4.4% จากการที่ภาครัฐเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายมาตรการ Zero Covid ของจีน ซึ่งถือเป็นอัตราการขยายตัวที่โดดเด่น เมื่อเทียบกับขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกในปี 2023 ที่คาดว่าจะขยายตัวที่ 2.7% โดย ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2022 ดัชนี CSI 300 มี อัตราส่วนราคาต่อกำไรล่วงหน้า (Forward P/E Ratio) อยู่ที่ 11.7 เท่า และ ดัชนี HSCEI มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรล่วงหน้า (Forward P/E Ratio) อยู่ที่ 6.97 เท่า โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่า กำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในจีนปี 2023 จะเติบโตกว่า 17% ซึ่งเห็นได้ว่าราคาปัจจุบันตลาดหุ้นจีนถือเป็นระดับที่ “Undervalue” และด้วยอัตราการเติบโตที่โดดเด่นของจีน ทั้งในด้านเศรษฐกิจและกำไรที่กล่าวมา จึงทำให้ตลาดหุ้นจีนน่าสนใจที่จะเข้าลงทุน

นอกจากนี้ IMF ยังได้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเวียดนามในปี 2023 จะเติบโตได้ถึง 6.2% สูงที่สุดในอาเซียน โดยปัจจุบันตลาดหุ้นเวียดนามปรับฐานลงมาจากจุดสูงสุดราว -32% และซื้อขายในระดับอัตราส่วนราคาต่อกำไรล่วงหน้า (Forward P/E Ratio) ประมาณ 9 เท่า ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวกว่า -2 S.D. โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่า กำไรต่อหุ้นของบริษัทจดทะเบียนในเวียดนามปี 2023 ยังเติบโตได้ถึง +13.2% YoY สูงเป็นลำดับต้น ๆ ของอาเซียน เมื่อพิจารณาจากสถิติดังกล่าว ประกอบกับ Valuation และ การเติบโตของกำไรต่อหุ้น ทำให้เรามองว่า ราคาหุ้นเวียดนาม ณ ระดับปัจจุบัน ถือเป็นระดับที่ “Undervalue” และมี “Margin of Safety” ที่สูงเพียงพอในการเข้าลงทุน

จากข้อมูลในข้างต้น มีปัจจัยสนับสนุนหลายอย่าง ทั้งในด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเติบโตของรายได้และกำไรของบริษัทจดทะเบียน รวมถึงการที่ตลาดมี Valuation ที่ถูก จนเกิด “Margin of Safety” ซึ่งทำให้ทั้งจีนและเวียดนาม เป็นประเทศที่สามารถเติบโตสวนกระแสของการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยมีโอกาสฟื้นตัวและให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นกว่าประเทศอื่นได้ในปี 2023

 

======================

 

บทความโดย จตุรพร ระวิงทอง AFPT Assistant Wealth Manager ธนาคารทิสโก้

เผยแพร่ครั้งแรกในคอลัมน์ Make Money Make Healthy ของ TNN

บทความล่าสุด

หุ้นกลุ่ม Healthcare ทวงคืนตำแหน่ง Top Performer บนเวทีหุ้นโลก

โพสต์เมื่อ 18 เมษายน 2567

ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา หุ้นกลุ่ม Healthcare กลับมาสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น จากแนวโน้มการเติบโตที่คาดว่าจะสูงกว่าตลาดโดยรวมในปีนี้ ในขณะที่ยังซื้อขายในระดับราคาที่ไม่แพงโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกลุ่มเทคโนโลยีที่เติบโตในระดับใกล้เคียงกัน ทำให้ปีนี้มีโอกาสสูงที่กลุ่ม Healthcare จะกลับมาทวงคืนตำแหน่ง Top Performer บนเวทีตลาดหุ้นโลก

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตสร้างกำไร ขายหุ้นสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น เบนเข็มลงทุน “หุ้น Asia ex Japan”

โพสต์เมื่อ 18 เมษายน 2567

ในปี 2024 เศรษฐกิจโลกภาพรวมเติบโตดีกว่าคาด โดยภูมิภาคที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดคือ ภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่จะเติบโตได้ดีในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว และยังเป็นปีแห่งโอกาส

อ่านต่อ >>

จับจังหวะทำกำไร กับขาขึ้นรอบใหม่ของตลาดหุ้น Asia

โพสต์เมื่อ 18 เมษายน 2567

ตลาดหุ้นเอเชีย (Asia ex Japan) ถือเป็นตลาดหุ้นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงไม่แพ้ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets) โดยเฉพาะในฝั่งของภาคการผลิตที่บริษัทยักษ์ใหญ่จากภูมิภาคเอเชีย ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรมการผลิตของโลก

อ่านต่อ >>