กำไรแบบไม่สนตลาด ด้วย Complex Fund ตอบโจทย์การวางแผนเกษียณ

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1677828643764 1

     อยากลงทุนให้มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูงไม่ว่าตลาดจะขึ้นหรือลง แต่ก็ไม่อยากรับความเสี่ยงขาดทุนเงินต้น เพื่อแก้ปัญหาผู้สูงอายุในปัจจุบัน การลงทุนในกองทุน Complex Fund คือคำตอบ

     ด้วยปัจจุบันสถานการณ์ผู้สูงอายุในไทยยังทวีความรุนแรง จากสัดส่วนประชากรไทยในปี 2565 มีคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี สูงถึง 18.3% ในขณะเดียวกันจากผลสำรวจพบว่า ราว 60% ของคนไทยมีฐานะทางการเงินที่เปราะบาง ทำให้การวางแผนการเงินในช่วงหลังเกษียณอายุการทำงานจำป็นที่จะต้องให้ความสำคัญถึงความปลอดภัยของเงินต้น ตลอดจนได้รับผลตอบแทนที่เพียงพอ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนเงินต้นและให้มีเงินเพียงพอเพื่อใช้จ่ายในช่วงหลังเกษียณอายุ การลงทุนในตราสารที่มีความซับซ้อนหรือ Complex Product จะช่วยปิดข้อจำกัดการลงทุนแบบเดิมที่ยังสามารถขาดทุนเงินต้นหรือได้รับผลตอบแทนที่ไม่เพียงพอได้

การลงทุนในกองทุนตราสารซับซ้อน (Complex Fund) เกิดจากการรวมการลงทุนหลายรูปแบบเข้าด้วยกัน เช่น ลงทุนในตราสารหนี้ 98 – 99% ของเงินลงทุน และเมื่อเวลาผ่านไปกองทุนจะได้รับดอกเบี้ย ซึ่งทำให้เงินลงทุนจำนวนดังกล่าวกลับมาเป็น 100% ส่วนเงินลงทุนที่เหลืออีก 1 – 2% จะลงทุนในตราสารอนุพันธ์ประเภทสัญญาใช้สิทธิ์ หรือ Option ซึ่งจะอ้างอิงผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลงของดัชนีหรือราคาสินทรัพย์อ้างอิง อาทิ Stock Index ราคาหุ้นรายตัว ราคาทองคำ หรือแม้กระทั่งราคากองทุนอื่นด้วยเช่นกัน

โดยกองทุนประเภท Complex Fund มีด้วยกันหลายชื่อ หลายแบบ ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของแต่ละกองทุน อาทิ Bullish / Bearish Shark Fin เพื่อเปิดโอกาสรับผลตอบแทนในช่วงที่สินทรัพย์อ้างอิงเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง และ Double / Duo Shark Fins ที่สามารถได้กำไรทั้งในช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง และถึงแม้จะมีหลายรูปแบบ แต่ใจความสำคัญมีความคล้ายกัน คือการลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินต้น รวมถึงได้รับผลตอบแทนส่วนหนึ่งจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์อ้างอิง

ในการลงทุนกองทุน Complex Fund มีประเด็นที่เราต้องให้ความสำคัญอยู่หลายด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ระยะเวลาของกองทุน (มักมีระยะเวลาการลงทุนที่แน่นอน) สินทรัพย์อ้างอิง ผู้รับประกันการชำระเงิน สัดส่วนการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ กรอบการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์อ้างอิง (Barrier) ตลอดจนส่วนร่วมของผลตอบแทนที่เราได้รับ (Participation Ratio)

ตัวอย่างเช่น เราลงทุนในกองทุนซับซ้อนแบบ Duo Shark Fins / Double Shark Fins ที่มีอายุ 1 ปี ซึ่งจะได้รับผลตอบแทน 40% (Participation Ratio) จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี MSCI All Country World Index ทำให้ไม่ว่าดัชนี MSCI All Country World Index จะขึ้นหรือลงที่ 10% นักลงทุนจะได้ผลตอบแทนที่ราว 4% นั่นเอง

จะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันนักลงทุนมีทางเลือกทางการลงทุนใหม่ ๆ มากมาย โดยเฉพาะนักลงทุนที่ต้องการวางแผนเกษียณอายุ จะเหมาะกับการลงทุนใน Complex Fund อย่าง Bullish / Bearish Shark Fin และ Double / Duo Shark Fins เพราะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ รวมถึงมีลักษณะพิเศษที่ช่วยลดและปิดความเสี่ยงของเงินต้นอีกด้วย

เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ TNN WEALTH

บทความล่าสุด

ล็อก Yield ดี หนีความผันผวน เข้า Global Bond

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่รุนแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรงและให้ผลตอบแทนติดลบ

อ่านต่อ >>

กางสถิติหุ้นสหรัฐฯ บ่งชี้เข้าใกล้จุดซื้อลงทุน

หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศวันปลอดปล่อย (Liberation day) เมื่อวันที่ 2 เม.ย. เปรียบเสมือนประกาศทำสงครามการค้าอย่างเป็นทางการด้วยการคิดอัตราภาษีตอบโต้การค้า (Reciprocal tariff) กับทุกประเทศทั่วโลก 10% ถึง 145% ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 วันลดลงแรง -10.73% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดอันดับ 11 นับตั้งแต่เก็บสถิติช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

อ่านต่อ >>

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด

อ่านต่อ >>

ล็อก Yield ดี หนีความผันผวน เข้า Global Bond

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่รุนแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรงและให้ผลตอบแทนติดลบ

อ่านต่อ >>

กางสถิติหุ้นสหรัฐฯ บ่งชี้เข้าใกล้จุดซื้อลงทุน

หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศวันปลอดปล่อย (Liberation day) เมื่อวันที่ 2 เม.ย. เปรียบเสมือนประกาศทำสงครามการค้าอย่างเป็นทางการด้วยการคิดอัตราภาษีตอบโต้การค้า (Reciprocal tariff) กับทุกประเทศทั่วโลก 10% ถึง 145% ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 วันลดลงแรง -10.73% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดอันดับ 11 นับตั้งแต่เก็บสถิติช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

อ่านต่อ >>

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า