Financial Planning The Series Ep.1 : เปิดโลก “การวางแผนการเงิน” ยานพาหนะวิเศษที่พาคุณรอดทุกวิกฤต

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1639474445675

การวางแผนการเงิน หรือ “Financial Planning” อาจแปลความหมายได้ว่า เป็นการจัดการเรื่องเงิน แต่จริงๆ แล้วการวางแผนการเงินนั้นครอบคลุมแทบทุกเรื่อง ตั้งแต่เกิดจนถึงเสียชีวิต อีกทั้งการวางแผนการเงินจะเป็นเหมือนยานพาหนะที่พาผู้วางแผนแต่ละรายเดินทางจากปัจจุบันไปยังเป้าหมายที่ต้องการในอนาคต

ซึ่งที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่มักจะเห็นถึงคุณค่าของการวางแผนการเงินก็ต่อเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันบางอย่างที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การระบาดของไวรัส  COVID-19 ที่ได้ส่งผลต่อรายได้ของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอาชีพที่พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก เนื่องจากการปิดประเทศที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางได้ แน่นอนว่าหากคุณเป็นเสาหลักของครอบครัว มีภาระหนี้สินที่ต้องดูแล และมีค่าใช้จ่ายคงที่ คงต้องปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่น้อย

แต่หากคุณวางแผนการเงินไว้ล่วงหน้าแล้ว ไม่ว่าจะเจอวิกฤตใดๆ ก็ย่อมได้เปรียบกว่าคนที่ไม่ได้วางแผนการเงินอย่างแน่นอน เพราะนอกจากคุณจะจัดเตรียมค่าใช้จ่ายกรณีฉุกเฉินไว้ล่วงหน้าแล้ว ยังช่วยลดความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งในชีวิตประจำวัน และภาระหนี้สินที่ต้องรับผิดชอบอีกด้วย  

จึงอาจกล่าวได้ว่า คนที่วางแผนการเงินจะมี “ภูมิคุ้มกันด้านการเงินที่ดี” ซึ่งจำเป็นสำหรับุการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่ “เงิน” คือสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต…

การวางแผนการเงินเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล  

การออกแบบแผนทางการเงินที่ดีควรจัดทำแผนเป็นแบบองค์รวม โดยคำนึงถึงด้านต่างๆ ตามพีรามิดการเงิน (ดังแผนภาพที่ 1) ทั้งการวิเคราะห์สถานภาพทางการเงิน การวางแผนบริหารความเสี่ยง การวางแผนการลงทุน การวางแผนภาษี การวางแผนเกษียณ และการวางแผนมรดก

แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถใช้แผนการเงินเดียวกันได้ เพราะการวางแผนการเงินที่ดีนั้น ควรเป็นการวางแผนที่จำเพาะต่อบุคคลหรือครอบครัวนั้นๆ เนื่องจากแต่ละบุคคล แต่ละครอบครัวก็จะมีความต้องการและเงื่อนไขของชีวิตที่ต่างกัน และแต่ละช่วงอายุก็จะให้ความสำคัญกับการวางแผนในแต่ละด้านที่ไม่เท่ากัน แต่ความแตกต่างกันนี้จะอยู่บนพื้นฐานเดียวกัน คือจะต้องยึดหลักการตามพีระมิดการเงิน เพื่อให้ครบถ้วนในทุกด้านของชีวิต

แล้วเราจะเริ่มวางแผนการเงินอย่างไร?

ตามหลักการแล้วผมแนะนำให้เริ่มจากการตรวจสอบสถานะทางการเงินส่วนบุคคล ซึ่งเป็นการวิเคราะห์สถานภาพทางการเงินก่อน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งและความแข็งแกร่งทางการเงินในปัจจุบัน ต่อด้วยการวางแผนบริหารความเสี่ยง เพื่อปกป้องความมั่งคั่งที่มีไม่ให้ลดลงจากความไม่แน่นอนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น จากนั้นจึงจะเริ่มการวางแผนการออมและการลงทุนเพื่อต่อยอดความมั่งคั่งหรือวางแผนการศึกษาบุตร การวางแผนเกษียณ หรือการวางแผนการลงทุน เพื่อเป้าหมายอื่นๆ ตามต้องการ ลำดับถัดไปคือการวางแผนการส่งต่อมรดกให้แก่คนในครอบครัว และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้ คือการวางแผนภาษี ซึ่งจำเป็นสำหรับทุกช่วงของการวางแผนการเงิน

ผมขอย้ำว่า คุณควรให้ความสำคัญต่อองค์ประกอบต่างๆ ตามช่วงอายุเป็นหลัก เนื่องจากแต่ละช่วงอายุจะมีการให้ลำดับความสำคัญต่อเป้าหมายที่แตกต่างกัน เช่น หากคุณอยู่ในวัยที่เพิ่งจะเริ่มทำงาน อาจให้ความสำคัญกับการเริ่มวางแผนค่าใช้จ่ายและการออมเป็นหลัก เพราะในช่วงแรกของการเริ่มทำงาน อาจจะยังมีรายได้ที่ไม่สูงมากนัก ซึ่งหากมีการใช้จ่ายที่เกินตัวหรือก่อหนี้ที่เกินกำลังก็จะส่งผลต่อสถานภาพทางการเงินในระยะยาวได้ ดังนั้น จึงควรวางแผนรายรับรายจ่ายให้ดี โดยยึดหลัก “ออมก่อนใช้” คือ หัก 10% ของรายได้รวมมาเป็นเงินออม ก่อนที่จะใช้จ่ายต่างๆ เพื่อสร้างนิสัยและวินัยทางการเงินที่ดี

ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณอยู่ในช่วงอายุ 35 ปีขึ้นไป ควรเริ่มให้ความสำคัญกับการวางแผนเกษียณแล้ว เพราะหากเริ่มวางแผนเกษียณที่อายุมากกว่านี้ คุณอาจจะเตรียมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณได้ไม่เพียงพอกับความต้องการ เพราะจากข้อมูลในปี 2650 ได้สะท้อนปัญหาของคนไทยกว่า 19% ว่ามีเงินไม่พอต่อการเกษียณอายุ ดังนั้น หากเริ่มวางแผนเกษียณอายุช้าเกินไปอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตหลังเกษียณได้

แผนภาพที่ 1: พีระมิดการเงิน

1639474646138

ที่มา: TISCO Advisory ธนาคารทิสโก้

จะเห็นได้ว่า การวางแผนการเงินนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การจัดสรรเงินหรือการลงทุน แต่ความหมายของการวางแผนการเงินนั้นครอบคลุมทุกส่วนของชีวิต อีกทั้งการวางแผนการเงินยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การเดินทางจากสถานะในปัจจุบันไปถึงยังเป้าหมายในอนาคตได้ตามที่ต้องการ พร้อมทั้งมีภูมิคุ้มกันทางการเงินต่อสภาวะแวดล้อมที่มีความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะด้วย ซึ่งภูมิคุ้มกันนี้จะเป็นตัวช่วยชั้นยอดที่ทำให้คุณรอดพ้นวิกฤตการเงินในทุกสถานการณ์

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้คุณเห็นภาพและเข้าใจถึงการวางแผนที่เจาะลึกในแต่ละพาร์ท ในครั้งต่อไปผมจะมาบอกเล่าถึงรายละเอียดของการวางแผนการเงินในขั้นตอนต่างๆ แบบเจาะลึกยิ่งขึ้น โปรดติดตามใน Financial Planning The Series ที่ไทยรัฐ พลัส 

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการวางแผนการเงิน ส่งคำถามของท่านมาได้ที่ prtisco@tisco.co.th  หรือ Facebook: TISCO Advisory 

===================================

บทความโดย : นรุตม์ สีแสงสุวรรณชัย CFP®

Assistant Wealth Manager ธนาคารทิสโก้

บทความล่าสุด

ล็อก Yield ดี หนีความผันผวน เข้า Global Bond

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่รุนแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรงและให้ผลตอบแทนติดลบ

อ่านต่อ >>

กางสถิติหุ้นสหรัฐฯ บ่งชี้เข้าใกล้จุดซื้อลงทุน

หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศวันปลอดปล่อย (Liberation day) เมื่อวันที่ 2 เม.ย. เปรียบเสมือนประกาศทำสงครามการค้าอย่างเป็นทางการด้วยการคิดอัตราภาษีตอบโต้การค้า (Reciprocal tariff) กับทุกประเทศทั่วโลก 10% ถึง 145% ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 วันลดลงแรง -10.73% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดอันดับ 11 นับตั้งแต่เก็บสถิติช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

อ่านต่อ >>

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด

อ่านต่อ >>

ล็อก Yield ดี หนีความผันผวน เข้า Global Bond

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่รุนแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรงและให้ผลตอบแทนติดลบ

อ่านต่อ >>

กางสถิติหุ้นสหรัฐฯ บ่งชี้เข้าใกล้จุดซื้อลงทุน

หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศวันปลอดปล่อย (Liberation day) เมื่อวันที่ 2 เม.ย. เปรียบเสมือนประกาศทำสงครามการค้าอย่างเป็นทางการด้วยการคิดอัตราภาษีตอบโต้การค้า (Reciprocal tariff) กับทุกประเทศทั่วโลก 10% ถึง 145% ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 วันลดลงแรง -10.73% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดอันดับ 11 นับตั้งแต่เก็บสถิติช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

อ่านต่อ >>

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า