Healthcare ผู้อยู่รอดช่วง Recession

file

 

ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022 ตลาดหุ้นยังคงเผชิญกับความผันผวนต่อเนื่อง นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น และได้ส่งผลให้ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น โดยราคาน้ำมัน WTI ได้เร่งตัวขึ้นไปแตะระดับ 110 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในช่วงปลายเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นไปแล้วกว่า 45% นับตั้งแต่ต้นปี

นอกเหนือจากนั้น ยังมีประเด็นการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯจากเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับสูง รวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ BA.4/ BA.5 หลังจำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ โดยมีอัตราการแพร่ระบาดที่เร็วขึ้นเมื่อเทียบกับสายพันธุ์ก่อนหน้า ประกอบกับมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อในปอดมากขึ้น ประเด็นเหล่านี้ได้ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนกลับมากังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจจะกลับมาชะลอตัวอีกครั้ง จึงเกิดแรงเทขายหุ้นออกมาจำนวนมากและได้หันกลับมาถือเงินสดเพิ่มขึ้น

แม้หลายอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบจากประเด็นข้างต้น แต่ก็มีบางอุตสาหกรรมที่ยังคงมีความน่าสนใจจากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง นั่นก็คือ กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Healthcare จะเห็นได้ว่าช่วงที่ผ่านมาแนวโน้มการใช้จ่ายด้านการแพทย์ทั่วโลกยังคงเติบโตได้ดีต่อเนื่อง แรงหนุนจากจำนวนประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศ การหันมาให้ความสนใจในการดูแลสุขภาพมากขึ้น และเรื่องของความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรคต่างๆ และช่วยลดต้นทุนในการเข้ารับบริการ ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้ารับการรักษาได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น

 

แผนภาพที่ 1: ช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ผลการดำเนินงานของกลุ่ม Healthcare ได้รับผลกระทบที่จำกัด

 

file

ที่มา: Bloomberg ข้อมูล ณ วันที่ 27 มิ.ย. 2022

ทำไมกลุ่ม Biotechnology จึงมีความน่าสนใจมากขึ้น 

Biotechnology หรือ เทคโนโลยีชีวภาพ คือ การนำความรู้ในด้านต่างๆทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับสิ่งมีชีวิต เพื่อพัฒนาหรือสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นประโยชน์ต่อมนุษย์ในด้านต่างๆโดยเฉพาะในด้านการแพทย์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาโรคต่างๆได้ดียิ่งขึ้น จากการวิจัยและพัฒนาตัวยาใหม่ๆที่ไม่เคยถูกคิดค้นมาก่อน ซึ่งรวมถึงการพัฒนาวัคซีนเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เป็นต้น โดยกลุ่มอุตสาหกรรมนี้ยังมีแนวโน้มการเติบโตของรายได้ที่สูง แม้จะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน ประกอบกับเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการทำ M&A ต่อเนื่อง 

 

แผนภาพที่ 2: คาดการณ์ผลการดำเนินงานของกลุ่ม Biotechnology* 2020 - 2023

 

file
file

ที่มา: Bloomberg ข้อมูล ณ วันที่ 23 มิ.ย. 2022,*คำนวณจากหุ้นในพอร์ตของกองทุน Polar Capital Funds -Biotechnology Fund

กลุ่ม Digital Health ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่น่าสนใจ  

Digital Health คือ การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยยกระดับการให้บริการทางการแพทย์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่ง Healthcare แห่งอนาคต ที่จะมาช่วยในเรื่องการลดต้นทุนในการรักษา เพิ่มการเข้าถึงการรักษา ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาโรคที่มีความซับซ้อนต่างๆ โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดจะเติบโตถึง $657 bn. ในปี 2025 ในขณะที่ผลการดำเนินงานคาดว่าจะเติบโตได้ดีต่อเนื่อง ด้วยรายได้ (CAGR) ที่เติบโตเฉลี่ย +21% ต่อปี (คำนวณระหว่างปี 2020 - 2023)

 

แผนภาพที่ 3: คาดการณ์ผลการดำเนินงานของกลุ่ม Digital Health* 2020 - 2023

 

file
file

ที่มา: Bloomberg ข้อมูล ณ วันที่ 23 มิ.ย. 2022, ,*คำนวณจากหุ้นในพอร์ตของกองทุน Credit Suisse Digital Health Equity Fund

ราคาหุ้นกลุ่ม Healthcare ปรับลงมาทำให้ Valuation เทรดต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี 

จากภาพด้านล่างจะเห็นได้ว่าหุ้นกลุ่ม Healthcare เทรดที่ fwd P/E ปรับลงมาจากระดับสูงสุดในรอบนี้จากที่เคยเทรดที่ P/E เกือบ 20 เท่า ปัจจุบันเหลือเพียง 16.5 เท่า ซึ่งหากมองย้อนกลับไปในช่วง 5 ปี พบว่าการปรับลดลงมาที่ระดับ P/E ปัจจุบันมักจะเป็นจุดที่ นลท.เริ่มกลับเข้าลงทุนทยอยลงทุนอีกครั้ง และถือว่าเป็นระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีอีกด้วย  

file

ที่มา: Bloomberg ข้อมูล ณ วันที่ 1 ก.ค. 2022

 

ในภาพรวม เรามองว่าการลงทุนในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Healthcare ยังคงมีความน่าสนใจ และถือเป็นหนึ่งในธีมการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ซึ่งนอกจากจะเป็นการช่วยในเรื่องการกระจายการลงทุนแล้ว เราเชื่อว่าการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Healthcare นั้นจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดี จากผลประกอบการที่ไม่ผันผวนไปตามเศรษฐกิจมากนัก ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เศรษฐกิจทั่วโลกยังเผชิญกับความไม่แน่นอนสูง และยังคงได้รับแรงกดดันจากทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่อง อีกทั้งมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อต่อ ประกอบกับ valuation ปัจจุบันที่อยู่ในระดับที่ยังไม่แพง จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่หนุนการลงทุนในระยะถัดไป

ที่มา: Bloomberg, Credit Suisse, Polar Capital Biotechnology

ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว

 

บทความโดย Wealth Manager บลจ.ทิสโก้

บทความล่าสุด

หุ้นกลุ่ม Healthcare ทวงคืนตำแหน่ง Top Performer บนเวทีหุ้นโลก

โพสต์เมื่อ 19 เมษายน 2567

ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา หุ้นกลุ่ม Healthcare กลับมาสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น จากแนวโน้มการเติบโตที่คาดว่าจะสูงกว่าตลาดโดยรวมในปีนี้ ในขณะที่ยังซื้อขายในระดับราคาที่ไม่แพงโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกลุ่มเทคโนโลยีที่เติบโตในระดับใกล้เคียงกัน ทำให้ปีนี้มีโอกาสสูงที่กลุ่ม Healthcare จะกลับมาทวงคืนตำแหน่ง Top Performer บนเวทีตลาดหุ้นโลก

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตสร้างกำไร ขายหุ้นสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น เบนเข็มลงทุน “หุ้น Asia ex Japan”

โพสต์เมื่อ 19 เมษายน 2567

ในปี 2024 เศรษฐกิจโลกภาพรวมเติบโตดีกว่าคาด โดยภูมิภาคที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดคือ ภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่จะเติบโตได้ดีในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว และยังเป็นปีแห่งโอกาส

อ่านต่อ >>

จับจังหวะทำกำไร กับขาขึ้นรอบใหม่ของตลาดหุ้น Asia

โพสต์เมื่อ 19 เมษายน 2567

ตลาดหุ้นเอเชีย (Asia ex Japan) ถือเป็นตลาดหุ้นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงไม่แพ้ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets) โดยเฉพาะในฝั่งของภาคการผลิตที่บริษัทยักษ์ใหญ่จากภูมิภาคเอเชีย ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรมการผลิตของโลก

อ่านต่อ >>