พลังงานหมุนเวียน เติบโตเด่นสวนกระแสเศรษฐกิจถดถอย

file

จากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อ  การปิดท่อส่งก๊าซจากรัสเซียมาฝั่งยุโรปเพื่อซ่อมบำรุงยังคงเป็นปัญหาที่ไม่มีท่าทีว่าจะซ่อมเสร็จเมื่อใด อีกทั้งความพยายามใช้มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันและพลังงานจากรัสเซีย ของสหภาพยุโรป กำลังส่งผลให้ราคาก๊าซและถ่านหินทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ กดดันทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าปรับตัวสูงขึ้น กลายเป็นปัญหาที่มีผลกระทบเศรษฐกิจที่กำลังเข้าสู่สภาวะถดถอย

ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นทำให้แต่ละประเทศต้องพยายามพึ่งพา “พลังงานหมุนเวียน” ในประเทศตัวเองกันมากขึ้น ที่จะกลายเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกที่สำคัญสำหรับสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว จนเป็นเมกะเทรนด์ที่น่าลงทุน ด้วย 3 เหตุผล ดังนี้

1.เป็นพลังงานที่ใช้ได้ยาวนาน : พลังงานหมุนเวียน เป็นพลังงานชนิดที่สามารถสร้างขึ้นได้ซ้ำ ๆ โดยมากมักมีแหล่งกำเนิดมาจากธรรมชาติ อาทิ แสงอาทิตย์ ลม น้ำ ความร้อนใต้พิภพ และชีวมวลหรือผลผลิตและวัสดุเหลือทิ้งจากการเกษตร ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ยาวนานกว่า พลังงานที่ใช้แล้วหมดไป เช่น ปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน ฯลฯ

2.ประเทศมหาอำนาจสนับสนุนธุรกิจพลังงานหมุนเวียน : ในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 จีนลงทุนด้านพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 41,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลมและแสงอาทิตย์ให้ได้ 1,200 กิกะวัตต์ ภายในปี 2573 และในช่วงเวลาเดียว สหรัฐฯ ก็ได้ลงทุนด้านพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่า 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมกันนี้ทั้งสองประเทศ ยังมีนโยบายสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียนอื่น ๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนตามที่จีนได้ประกาศไว้ที่ประชุมสหประชาชาติว่า จะปลอดก๊าซคาร์บอนให้ได้ก่อนปี 2060 จึงทำให้ธุรกิจในกลุ่มนี้ มีแนวโน้มที่จะเติบโตในระยะยาว

3.ค่าใช้จ่ายการผลิตพลังงานหมุนเวียนต่ำลง : เมื่อเทคโนโลยีและการแข่งขันในตลาดสูงขึ้นจากการแข่งขันของประเทศมหาอำนาจ ก็ยิ่งทำให้ต้นทุนการผลิตพลังงานหมุนเวียนถูกพัฒนาให้ลดลง จนมีต้นทุนที่ถูกกว่าพลังงานทั่วไปถึง 70 - 90% นอกจากราคาในการผลิตแล้ว เทคโนโลยีในการกักเก็บพลังงานรูปแบบต่าง ๆ เช่น เซลล์เก็บกักพลังงานไฟฟ้า ก็ถูกพัฒนาการเพิ่มขึ้นเช่นกัน ทำให้อนาคตด้านการใช้พลังงานหมุนเวียนทั่วทั้งโลกชัดเจนยิ่งขึ้น

file

ที่มา: Ourworldindata, ส.ค. 2565

ในแง่ของการลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงานหมุนเวียน ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีดัชนี S&P Global Clean Energy Index มีผลตอบแทนรวม 6.16% สวนทาง S&P 500 Index ที่ -17.02% (ข้อมูลจาก Bloomberg ณ 31 ส.ค.65) และเมื่อพิจารณา Valuation ของหุ้นกลุ่มพลังงานหมุนเวียนก็ถือว่ายังไม่สูง โดยอัตราส่วนมูลค่าบริษัทตามราคาตลาดต่อยอดขายล่วงหน้า (Forward P/S) อยู่ที่ 2.59 เท่า ขณะที่ BlackRock คาดการณ์การใช้พลังงานสะอาดระหว่างปี 2560 - 2583 จะเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 32%

จึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนในการซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานหมุนเวียน ที่เป็นธุรกิจที่มีคาดการณ์การเติบโตของการใช้พลังงานสะอาดที่สูง จึงมีแนวโน้มหนุนให้หุ้นกลุ่มดังกล่าวสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด สวนกระแสเศรษฐกิจถดถอยที่กำลังเกิดขึ้นได้

 

======================

 

บทความโดย

คุณณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ CFP®

Head of Wealth Advisory ธนาคารทิสโก้

เผยแพร่ครั้งแรกใน Forbes Online

บทความล่าสุด

หุ้นกลุ่ม Healthcare ทวงคืนตำแหน่ง Top Performer บนเวทีหุ้นโลก

โพสต์เมื่อ 18 เมษายน 2567

ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา หุ้นกลุ่ม Healthcare กลับมาสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น จากแนวโน้มการเติบโตที่คาดว่าจะสูงกว่าตลาดโดยรวมในปีนี้ ในขณะที่ยังซื้อขายในระดับราคาที่ไม่แพงโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกลุ่มเทคโนโลยีที่เติบโตในระดับใกล้เคียงกัน ทำให้ปีนี้มีโอกาสสูงที่กลุ่ม Healthcare จะกลับมาทวงคืนตำแหน่ง Top Performer บนเวทีตลาดหุ้นโลก

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตสร้างกำไร ขายหุ้นสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น เบนเข็มลงทุน “หุ้น Asia ex Japan”

โพสต์เมื่อ 18 เมษายน 2567

ในปี 2024 เศรษฐกิจโลกภาพรวมเติบโตดีกว่าคาด โดยภูมิภาคที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดคือ ภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่จะเติบโตได้ดีในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว และยังเป็นปีแห่งโอกาส

อ่านต่อ >>

จับจังหวะทำกำไร กับขาขึ้นรอบใหม่ของตลาดหุ้น Asia

โพสต์เมื่อ 18 เมษายน 2567

ตลาดหุ้นเอเชีย (Asia ex Japan) ถือเป็นตลาดหุ้นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงไม่แพ้ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets) โดยเฉพาะในฝั่งของภาคการผลิตที่บริษัทยักษ์ใหญ่จากภูมิภาคเอเชีย ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรมการผลิตของโลก

อ่านต่อ >>