ทิสโก้เตือน ระวังหุ้นโลกปรับฐาน สภาพคล่องและกำไร บจ. อาจลดลง – ราคาหุ้นสะท้อน Fed ลดดอกเบี้ยไปแล้ว

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1683081247911 1

 

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ชี้ สภาพคล่องและคาดการณ์ผลกำไรที่มีแนวโน้มลดลงอาจเป็นปัจจัยกดดันให้ตลาดหุ้นโลกปรับฐาน ในขณะที่ปัจจัยบวกจากการลดดอกเบี้ยของ Fed ได้ถูกสะท้อนเข้าไปในราคามากแล้ว

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr. Komsorn Prakobphol, Head of Economic Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU) เปิดเผยว่า ปัจจุบันระดับดัชนี S&P500 ที่เกิน 4,000 จุด และ อัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E) สูงกว่า 18 เท่านั้น ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้มองว่า เป็นระดับที่มีโอกาสปรับขึ้นต่อได้จำกัด และเป็นระดับที่ควรลดน้ำหนักการลงทุน โดยมีความเสี่ยงขาลงประมาณ 10-15% จากระดับปัจจุบัน

โดยความเสี่ยงขาลงดังกล่าวเป็นไปตามการปรับลดของคาดการณ์ผลกำไรบริษัทจดทะเบียนที่กำลังเผชิญแรงกดดันจากหลายด้าน ได้แก่ 1) ต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้นทั้งจากผลของการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และการขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์เพื่อแก้ปัญหาเงินฝากไหลออกจากภาคธนาคารในช่วงที่ผ่านมา 2) ปัญหาการขาดแคลนสภาพคล่องในภาคธนาคาร ซึ่งทำให้การปล่อยกู้มีความระมัดระวังมากขึ้นจนอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง และ 3) การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจที่สะท้อนผ่านดัชนีภาคการผลิต (ISM Manufacturing PMI) ที่ล่าสุดอยู่ที่ 46 จุด ในขณะที่ผลสำรวจนักวิเคราะห์ยังคาดว่าผลกำไรจะยังทรงตัวได้เท่ากับปีที่แล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าคาดการณ์ผลกำไรอาจต้องมีการปรับลดลงอีกในอนาคต

นอกจากนี้ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้คาดว่าสภาพคล่องจะกลับมาลดลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันตลาดหุ้นโลก เนื่องจาก 1) Fed จะยังคงเดินหน้าดึงสภาพคล่องออก (QT) ในอัตรา 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือนตามแผนเดิม 2) ปัญหาสภาพคล่องในภาคธนาคารสหรัฐฯ ที่ผ่อนคลายลงจะทำให้ธนาคารพาณิชย์ที่ใช้วงเงินกู้ฉุกเฉินจากเฟดเพื่อเสริมสภาพคล่อง เริ่มทยอยคืนเงินกู้ดังกล่าว และ 3) การตกลงเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคมจะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ กลับมาออกขายพันธบัตรเพื่อกู้เงินจากตลาดเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งอุปทานของพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น จะเป็นการดูดซับสภาพคล่องออกจากตลาดและทำให้บอนด์ยิลด์กลับมาเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ในขณะที่ตลาดหุ้นอาจมีปัจจัยหนุนจากประเด็นที่ Fed มีโอกาสกลับมาลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี แต่ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ประเมินว่าปัจจัยบวกดังกล่าวได้ถูกสะท้อนเข้าไปในราคาหุ้นมากแล้ว โดยจากสถิติในช่วง 12 เดือนหลังจากที่ Fed ลดดอกเบี้ย ค่า P/E ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 10% ซึ่งหากดูความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมซึ่งตลาดเริ่มคาดการณ์ว่า Fed จะกลับมาลดดอกเบี้ย ก็จะพบกว่าค่า P/E ของตลาดเพิ่มขึ้นมาแล้วราว 8% ซึ่งสะท้อนว่าตลาดได้ซึมซับปัจจัยบวกดังกล่าวไปมากแล้ว

==========================================================

บทความล่าสุด

ล็อก Yield ดี หนีความผันผวน เข้า Global Bond

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่รุนแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรงและให้ผลตอบแทนติดลบ

อ่านต่อ >>

กางสถิติหุ้นสหรัฐฯ บ่งชี้เข้าใกล้จุดซื้อลงทุน

หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศวันปลอดปล่อย (Liberation day) เมื่อวันที่ 2 เม.ย. เปรียบเสมือนประกาศทำสงครามการค้าอย่างเป็นทางการด้วยการคิดอัตราภาษีตอบโต้การค้า (Reciprocal tariff) กับทุกประเทศทั่วโลก 10% ถึง 145% ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 วันลดลงแรง -10.73% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดอันดับ 11 นับตั้งแต่เก็บสถิติช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

อ่านต่อ >>

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด

อ่านต่อ >>

ล็อก Yield ดี หนีความผันผวน เข้า Global Bond

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่รุนแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรงและให้ผลตอบแทนติดลบ

อ่านต่อ >>

กางสถิติหุ้นสหรัฐฯ บ่งชี้เข้าใกล้จุดซื้อลงทุน

หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศวันปลอดปล่อย (Liberation day) เมื่อวันที่ 2 เม.ย. เปรียบเสมือนประกาศทำสงครามการค้าอย่างเป็นทางการด้วยการคิดอัตราภาษีตอบโต้การค้า (Reciprocal tariff) กับทุกประเทศทั่วโลก 10% ถึง 145% ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 วันลดลงแรง -10.73% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดอันดับ 11 นับตั้งแต่เก็บสถิติช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

อ่านต่อ >>

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า