หุ้นเวียดนาม Oversold โอกาสหรือความเสี่ยง ?

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1670554483723 1

นับจากช่วงต้นไตรมาส 2/2022 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นเวียดนามซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นดาวเด่นแห่งอาเซียนได้ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องราว 35% จากจุดสูงสุด สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนและเกิดคำถามว่า การปรับฐานของตลาดหุ้นเวียดนามในครั้งนี้เป็นความเสี่ยงหรือเป็นโอกาส ?

ปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นเวียดนามให้ปรับฐานลงแรงในช่วงที่ผ่านมา สามารถสรุปได้เป็น 2 ประเด็นหลัก ดังนี้ ประเด็นแรก เป็นผลสืบเนื่องมาจากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับ 4% เป็น 6% เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินดองไม่ให้อ่อนค่าจนเกินไป แม้ว่าเวียดนามจะไม่ได้เผชิญกับภาวะเงินเฟ้อสูงเหมือนกับประเทศอื่น ๆ และยังสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ใกล้เคียงกับเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 4% ก็ตาม

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว ทำให้ธนาคารพาณิชย์บางแห่งในเวียดนามมีการขยับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากขึ้นมาอยู่ใกล้เคียง 10% ด้วยสภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกและตลาดหุ้นเวียดนามเองในปีนี้ที่กำลังเผชิญความผันผวนที่สูง ทำให้นักลงทุนรายย่อยที่มีสัดส่วนราว 90% ของนักลงทุนในเวียดนาม ลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลงและมีการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากตลาดหุ้นไปอยู่ในเงินฝาก ทำให้ตลาดหุ้นเวียดนามเผชิญแรงเทขายและเกิดการ Force Sell จากบัญชี Margin ของนักลงทุนตามมา

ประเด็นที่สอง คือ ความกังวลของนักลงทุนต่อบริษัทในภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากในช่วงไตรมาส 2/2022 ที่ผ่านมา รัฐบาลเวียดนามมีการจับกุมผู้บริหารของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ที่มีการออกหุ้นกู้และนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ทำให้นักลงทุนมีความกังวลว่า บริษัทอสังหาริมทรัพย์บางแห่งที่มีหนี้สินในระดับสูง จะเกิดปัญหาด้านสภาพคล่องและไม่สามารถที่จะ Refinance หุ้นกู้เพื่อระดมเงินทุนได้ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม เรามองว่าประเด็นความกังวลเหล่านี้ที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นเวียดนามเป็น “ปัจจัยชั่วคราว” ที่สามารถบริหารจัดการและแก้ไขได้ โดยคาดว่าความกังวลเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเริ่มผ่อนคลายลงจากการที่ Fed เริ่มชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงไตรมาส 1/2023 และทำให้เวียดนามเริ่มชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตาม เช่นเดียวกันกับ ความกังวลในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นปัญหาเฉพาะรายบริษัทและมีโอกาสน้อยที่จะลุกลามเป็นวิกฤตเศรษฐกิจใหญ่อย่างที่นักลงทุนในตลาดกังวล เนื่องจากภาพรวมบริษัทจดทะเบียนในเวียดนามยังมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (DE Ratio) ที่อยู่ในระดับที่ต่ำเพียง 0.5 เท่า

ด้วยแรงเทขายแบบ Panic Sell ของนักลงทุนในเวียดนาม โดยไม่ได้พิจารณาถึงปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ส่งผลให้ ณ ระดับราคาปัจจุบัน Valuation ของตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวลดลงมาซื้อขายอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 10 ปี สะท้อนจากค่า Forward PE ที่อยู่ในระดับเพียงแค่ 8 เท่า ในขณะที่ทิศทางการเติบโตของผลกำไรบริษัทจดทะเบียนในเวียดนาม (EPS Growth) ยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดย Bloomberg Consensus คาดว่าจะเติบโตได้ในระดับที่สูงถึง +18.3% YoY ในปี 2022 และ +17.8% YoY ในปี 2023

นอกจากนี้ หากพิจารณาย้อนหลังไปในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่ตลาดหุ้นเวียดนามมีการปรับฐานลงแรงกว่า 20% จนระดับ Forward PE ลงมาซื้อขายอยู่แถวบริเวณ 10 เท่า มักจะเป็นจุดที่ตลาดหุ้นเวียดนามสามารถกลับตัวเป็นขาขึ้นได้และสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยในระดับที่สูงกว่า 35% ในช่วง 1 ปีต่อมา ดังนั้น Valuation หุ้นเวียดนาม ณ ระดับราคาปัจจุบันที่มี Forward PE เพียง 8 เท่า จึงถือเป็นระดับราคาที่ “Oversold” และมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย (Margin of Safety) ที่สูงถึงกว่า 20%

ทั้งนี้ ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจมหภาคของเวียดนามยังคงมีความแข็งแกร่งเช่นเดิม ทั้งในแง่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ IMF ยังคงคาดการณ์ว่า GDP ของเวียดนามจะเติบโตได้สูงถึง 6.2% ในปี 2023 และ 6.6% ในปี 2024 สูงสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยได้รับแรงหนุนทั้งจากการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว การลงทุนทางตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่มีการย้ายฐานการผลิตเข้ามาเวียดนามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสถานะทางการเงินของประเทศที่ยังแข็งแกร่ง สะท้อนจากระดับหนี้สินต่างประเทศต่อ GDP ที่อยู่ในระดับต่ำและทุนสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับสูง

กลยุทธ์การลงทุนในเวียดนามควรมีกรอบระยะเวลาการลงทุนในระดับ 3 – 5 ปีขึ้นไป เพื่อสร้างผลตอบแทนในระดับสูง สอดรับไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามและก้าวข้ามความผันผวนของตลาดในระยะสั้น ดังนั้น เรามองว่าวิกฤตตลาดหุ้นเวียดนามในครั้งนี้ จึงไม่เป็นเพียงแต่เป็นโอกาสของนักลงทุนในตลาดหุ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสของมนุษย์เงินเดือนทุกคนที่กำลังมองหากองทุน SSF และ RMF ที่จะใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีควบคู่ไปกับการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงในระยะยาวไปกับตลาดหุ้นเวียดนาม      

 

======================

 

บทความโดย ภาคภูมิ พีรยวัฒนา AFPT Wealth Manager ธนาคารทิสโก้

เผยแพร่ครั้งแรกในคอลัมน์ Financial Planning ของ กรุงเทพธุรกิจ

บทความล่าสุด

ปรับพอร์ตลงทุน สู้ศึกครึ่งปีหลัง 2025

เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังปี 2025 สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกยังคงเผชิญความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากความไม่แน่นอนในการเจรจาภาษีนำเข้าของสหรัฐฯกับคู่ค้า รวมถึงสงครามในตะวันออกกลางที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้การคาดเดาทิศทางเศรษฐกิจและจับจังหวะตลาดเป็นเรื่องที่ยาก

อ่านต่อ >>

เลือกประกันโรคร้ายแรงให้รอดจากค่าใช้จ่ายอัลไซเมอร์ 

เมื่อพูดถึงเหตุผลของการมีประกันโรคร้ายแรงเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาสุขภาพ เรามักจะคิดถึงโรคที่มีผลร้ายแรงแบบเฉียบพลันจนถึงแก่ชีวิต หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคหัวใจ, โรคมะเร็ง, ทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคเบาหวาน ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มโรคข้างต้นทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เมื่อปี 2021 พบสาเหตุของการเสียชีวิตด้วยโรค NCDs กว่า 80%

อ่านต่อ >>

Super Stocks ปลดล็อกพอร์ตลงทุน ข้ามวัฏจักรเศรษฐกิจ

ในโลกการลงทุนที่ตลาดหุ้นผันผวนรุนแรงจนกลายเป็น “New Normal” นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเริ่มยกธงขาวยอมแพ้และยอมรับว่า การพยายามจับจังหวะตลาดหรือคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจ อาจไม่ใช่คำตอบที่ยั่งยืนอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม มีกลยุทธ์การลงทุนหนึ่งที่เรียบง่าย แต่ทรงพลัง ซึ่งได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมในระยะยาว โดยไม่ต้องจับจังหวะตลาดหรือปรับพอร์ตตามวัฏจักรเศรษฐกิจ คือ การลงทุนในหุ้นที่เรียกว่า “Super Stocks

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตลงทุน สู้ศึกครึ่งปีหลัง 2025

เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังปี 2025 สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกยังคงเผชิญความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากความไม่แน่นอนในการเจรจาภาษีนำเข้าของสหรัฐฯกับคู่ค้า รวมถึงสงครามในตะวันออกกลางที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้การคาดเดาทิศทางเศรษฐกิจและจับจังหวะตลาดเป็นเรื่องที่ยาก

อ่านต่อ >>

เลือกประกันโรคร้ายแรงให้รอดจากค่าใช้จ่ายอัลไซเมอร์ 

เมื่อพูดถึงเหตุผลของการมีประกันโรคร้ายแรงเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาสุขภาพ เรามักจะคิดถึงโรคที่มีผลร้ายแรงแบบเฉียบพลันจนถึงแก่ชีวิต หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคหัวใจ, โรคมะเร็ง, ทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคเบาหวาน ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มโรคข้างต้นทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เมื่อปี 2021 พบสาเหตุของการเสียชีวิตด้วยโรค NCDs กว่า 80%

อ่านต่อ >>

Super Stocks ปลดล็อกพอร์ตลงทุน ข้ามวัฏจักรเศรษฐกิจ

ในโลกการลงทุนที่ตลาดหุ้นผันผวนรุนแรงจนกลายเป็น “New Normal” นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเริ่มยกธงขาวยอมแพ้และยอมรับว่า การพยายามจับจังหวะตลาดหรือคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจ อาจไม่ใช่คำตอบที่ยั่งยืนอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม มีกลยุทธ์การลงทุนหนึ่งที่เรียบง่าย แต่ทรงพลัง ซึ่งได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมในระยะยาว โดยไม่ต้องจับจังหวะตลาดหรือปรับพอร์ตตามวัฏจักรเศรษฐกิจ คือ การลงทุนในหุ้นที่เรียกว่า “Super Stocks

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า