file

คิดต่างอย่าง “บอย ถกลเกียรติ” เบื้องหลังความสำเร็จ “ช่องวัน 31”

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 38 | คอลัมน์ People

เมื่อกลยุทธ์ “กล้าคิดต่าง” ถูกผสานเข้ากับ “ความถนัด” ที่มีมาตั้งแต่วัยเยาว์ ผลักดัน ให้เรตติ้ง “ช่องวัน หมายเลข 31” ที่มี “คุณบอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ” นั่งแท่นผู้นําองค์กรเมื่อ 2 ปีก่อน ทะยานขึ้น สู่อันดับ 4 ของแพลตฟอร์มทีวีดิจิทัล ได้ในที่สุด แต่ความสํา เร็จยังไม่หยุดยั้ง เพียงเท่านี้ เพราะก้าวต่อไปคือ การขยับสู่ ตํา แหน่งที่ดีกว่านั้น

 

“โลโก้แห่งความสำเร็จ” ทั้งในมุมของ ผู้กำกับละคร โปรดิวเซอร์ และผู้กำกับละคร เวทีเมืองไทย ต้องยกให้นักธุรกิจผู้คร่ำหวอด ในแวดวงบันเทิงมากว่า 26 ปี อย่าง “คุณบอย- ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท เดอะวัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ในฐานะผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ “ช่องวัน” (ONE HD 31)

“ความสำเร็จของช่องวัน นอกจากต้องตี รสนิยมของผู้บริโภคให้แตก ผู้ผลิตต้องเสิร์ฟ คอนเทนต์ที่มาจากความชอบด้วย เพราะหาก กำหนดรูปแบบสินค้าจากความนิยมของคนดู ล้วนๆ อนาคตความคิดของผู้ผลิตจะตกอยู่ใน อาการตีบตัน”

คำยืนยันของ “คุณถกลเกียรติ” ที่บอกกับ นิตยสาร TRUST หลังเรตติ้งช่องวัน ไต่ระดับขึ้น จากตัวเลขสองหลักมาอยู่ในกลุ่มท็อปเทนได้ ภายในระยะเวลา 2 ปี ด้วยการใช้กลยุทธ์ “กล้า แตกต่าง” เป็นตัวผลักดันรายการน้ำดีออกสู่ตลาด

เส้นทางเดินของนักสร้างความต่าง เริ่มต้น ขึ้นในปี 2533 หลังเดินทางกลับจากประเทศ สหรัฐอเมริกา ดินแดนที่เขาไปใช้ชีวิตตั้งแต่วัย เพียง 12 ปี โดยเริ่มเรียนที่ โรงเรียน Woodside Priory School ต่อมาขณะศึกษาต่อปริญญาตรี ที่ Boston College (B.A.) คุณบอยเบนเข็มจาก นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ สู่ด้านสื่อสาร มวลชนและละครเวทีที่ตนเองชื่นชอบ ก่อนคว้า ปริญญาโทด้านการผลิตรายการโทรทัศน์จาก มหาวิทยาลัยบอสตัน (B.S.) มาการันตีความพร้อม ในโลกแห่งวงการบันเทิงของจริง

เมื่อต้องเริ่มต้นสร้างผลงานในประเทศไทย ชื่อของเขากลายเป็นที่รู้จักในฐานะผู้กำกับและ โปรดิวเซอร์หนุ่มไฟแรง จากละครเรื่องแรกใน ชีวิต “นางฟ้าสีรุ้ง” ที่ดูยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก กับผลงานชิ้นแรกของเขา

“ผมไม่ค่อยแฮปปี้กับละครเรื่องแรก เพราะ ควรทำได้ดีกว่านี้”

เขาบอกเหตุผลที่มองจากมุมของตัวเอง แต่เมื่อละครออกอากาศไปได้เพียงสองตอน กลับได้เสียงตอบรับจากผู้ชมที่ดีเกินคาด จาก ความแปลกใหม่ ด้วยการผสมผสานความเป็น ละครครอบครัวเข้ากับแนวแฟนตาซีได้อย่าง ลงตัว ซึ่งหาไม่ได้ในยุคนั้น

ความสำเร็จจากละครเรื่องแรก ทำให้ชื่อ ของผู้กำกับหน้าใหม่กลายเป็นที่จับตามอง ขณะเส้นทางเดินในชีวิตเขาก็ยิ่งดูชัดเจนขึ้น หลังมีความแน่วแน่ในแนวทางของตนเอง แทนการเลือกเดินตามรอยเท้าด้านการเมือง เช่นผู้เป็นพ่ออย่าง “ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. อำนวย วีรวรรณ” อดีตหัวหน้าพรรคนำไทย พรรคมวลชน อดีตรองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แม้บิดาจะ พยายามนั่งอธิบายงานเกี่ยวกับตลาดหุ้นนาน หลายชั่วโมง แต่ก็ยังไม่อาจเปลี่ยนใจลูกชาย คนเดียวอย่างเขา

ความรู้มากมายที่สั่งสมมาในต่างแดน ไม่ได้มาจากในห้องเรียนเพียงเท่านั้น แต่การ ได้ออกไปสำรวจโลกกว้าง ทำให้เขามีไอเดีย ในการสร้างสรรค์ และผลิตผลงานคุณภาพ ตอกย้ำคำพูดที่ว่า การได้ทุ่มเททำงานที่รักและ ชื่นชอบ ผลลัพธ์ย่อมออกมาดีเสมอ แม้ในวันนั้น จะเป็นอาชีพที่ผู้คนยังไม่ได้ให้ความสนใจ มากมายนัก

หลังความสำเร็จของละครเรื่องแรกเพียง ไม่นาน ผู้กำกับมือทอง เลือกที่จะเปลี่ยนแนว ละครอีกครั้ง แม้จะมีเสียงคัดค้านจากผู้ใหญ่ ในวงการอย่าง “คุณสุรางค์ เปรมปรีดิ์” หรือ คุณแดง อดีตกรรมการผู้จัดการ สถานีโทรทัศน์สี กองทัพบกช่อง 7 และคุณเล็ก “บุษบา ดาวเรือง” ผู้บริหารกลุ่มเครือแกรมมี่ เพราะเรตติ้งละคร เดิมที่ทำอยู่ กำลังร้อนแรงได้ที่

 

 

“ความสำเร็จของช่องวัน นอกจากต้องตีรสนิยมของ ผู้บริโภคให้แตก ผู้ผลิตต้องเสิร์ฟคอนเทนต์ที่มาจาก ความชอบด้วย เพราะหากกำหนดรูปแบบสินค้า จากความนิยมของคนดูล้วนๆ อนาคตความคิดของ ผู้ผลิตจะตกอยู่ในอาการตีบตัน”

 

แต่สำหรับเขา ยังยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ว่าละครเรื่องนั้นได้เดินทางมาถึงตอนอวสานแล้ว พร้อมนeเสนอการสร้างละครซิทคอมแนวใหม่ ซึ่งยังไม่เคยมีผู้กำกับคนไหนในเมืองไทยกล้า ทำในตอนนั้น คอละครไทยจึงได้รู้จักกับ ละคร “3 หนุ่ม 3 มุม” ซิทคอมน้ำดีที่เริ่มออกอากาศ ในปี 2534 และประสบความสำเร็จอย่างมาก จนเรียกได้ว่าสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับ วงการบันเทิงไทย สมกับเป็นโปรเจคใหญ่ที่ คุณบอยเผยว่า เขาคิดจะทำละครไทยแนว ซิทคอมตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่อเมริกา

ก่อนจะตกผลึกทางความคิด เราได้แก้ไข บทละครเพื่อให้เข้ากับรสนิยมของคนไทยใน สมัยนั้น ที่ค่อนข้างจะต่างจากคนอเมริกันอย่าง สิ้นเชิง ทุกวันนี้ธุรกิจบันเทิงยังเดินตามหลัง อเมริกาอยู่หลายก้าว ฉะนั้นยังมีพื้นที่ให้เราเล่น อีกมาก” คุณบอยสะท้อนความคิด

ความกล้าคิดต่าง ด้วยการใช้ “โปรดักท์ และศิลปะ” เป็นตัวนำตลาด ทำให้ละครซิทคอม เรื่องนี้ครองใจคนดูมานานถึง 8 ปีเต็ม ซึ่งนอกจากจะสร้างกำลังใจที่ดีให้กับทีมงาน ยังสะท้อนว่า พวกเขาเดินมาถูกทางแล้ว นั่นคือ การไม่ยอมเสิร์ฟงานที่ฮิตติดลมบนเพียงเพื่อ เอาใจคนดู โดยไม่ได้คำนึงถึงหัวใจของนักสร้าง เพราะเขามีความเชื่อว่า การดันทุรังไม่สามารถ ทำผลงานที่ดีได้ ฉะนั้นถ้าความคิดเริ่มตัน ก็ควรหยุด เพราะงานจะออกมาไม่ดีไปด้วย

ธุรกิจบันเทิงเป็นศิลปะการแสดง ไม่ใช่ โรงงานผลิตสินค้า เราไม่สามารถผลิตของ เหมือนกันได้ตลอดเวลา ฉะนั้นถ้ายังผลิตงาน ในมุมเดิมๆ รับรองว่า คนดูจะหนีไปเสพงาน ช่องอื่นหมด อย่างวันนี้เรามีอยู่กว่า 20 ช่อง ขณะที่คนดูมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่าเดิม” เขาบอก โจทย์ยากของคนทำงานบันเทิงในวันนี้

จากบทบาทผู้อำนวยการและผู้กำกับละคร ที่ประสบความสำเร็จ ผู้บริหารหนุ่มยังท้าทาย ตนเองด้วยบทบาทใหม่ในฐานะ CEO “ช่องวัน” ที่ปัจจุบันครองเรตติ้งติดอันดับต้นๆ ของ ประเทศไทย ท่ามกลางการแข่งขันสุดร้อนแรง ที่หากใครไม่แข็งแกร่งและกล้าแตกต่างพอ อาจ จะล้มหายไปได้ง่ายๆ แต่ในฐานะ CEO ช่องวัน คุณบอยยังยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจจาก “ความเชื่อ” เขาสะท้อนความคิดว่า ที่ผ่านมา ช่องวันเรียนรู้การทำงานด้วยการลองผิด ลองถูกและเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ เพื่อมุ่งหน้าไปสู่ เป้าหมายแห่งความสำเร็จ ยิ่งในยุคที่ทุกอย่าง คือดิจิทัลผู้คนหันมาเสพสื่อผ่านโซเชียลมีเดีย และเสพความบันเทิงผ่านโทรทัศน์น้อยลง ทำให้ต้องทำงานหนักอย่างเลี่ยงไม่ได้

“ช่วงแรกของการผลิตรายการ ช่องวัน เลือกวางผังรายการให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการกระจายเวลาออกอากาศละครในทุก ช่วงเวลา แต่การผลิตละครมีต้นทุนสูงกว่า รายการประเภทอื่น ขณะที่ผู้ชมยังรู้จักช่องวัน น้อยเกินไป ตัวเลขเรตติ้งจึงยังไม่ออกมาตาม คาดหวัง ทำให้จำเป็นต้องปรับตัวครั้งใหม่” เขาบอกจุดเริ่มต้นการปรับเกมรุก

โดยช่องวันตัดสินใจปรับโครงสร้างธุรกิจ ใหม่ ด้วยการหันมาโฟกัสรายการในช่วง ไพรม์ไทม์ ตั้งแต่เวลา 18.30-22.30 น. มากขึ้น จากที่เคยมีแต่ละครในทุกช่วงเวลา ซึ่งต้นทุน การผลิตค่อนข้างสูง ด้วยกลยุทธ์นี้เอง ที่เป็นการ ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายไปด้วยในตัว ซึ่งผลตอบรับ จากการปรับตัว มาสร้างละครน􀁬้ำดีควบคู่ รายการวาไรตี้ ไม่เพียงส่งผลดีในแง่ของการ บริหารต้นทุนการผลิตเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การตอบรับจากผู้ชม สะท้อนผ่านเรตติ้งที่ “ถล่มทลาย” สมความตั้งใจของเขา

 

Bootstrap Image Preview
 

 

เพราะเชื่อในเรื่องความต่าง ผู้นำอย่างเขา จึงเลือกที่จะไม่ผลิตละครออนแอร์ 2 ชั่วโมง เหมือนฟรีทีวีช่องอื่นๆ แต่เน้นผลิตรายการใน หลากหลายรูปแบบ อาทิ เกมส์โชว์ วาไรตี้โชว์ ซิทคอม โดยเน้นกลยุทธ์สำคัญ นั่นคือ “คอนเทนต์” ที่อัดแน่นอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำ มาออกอากาศในช่วงไพรม์ไทม์ เป็นการนำ จุดเด่นที่มีอยู่มาเสริมทัพก่อให้เกิดประโยชน์ สูงสุด จากจุดแข็งเดิมของช่องที่มีความพร้อม ด้านบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นคนเขียนบท นักแสดง ผู้กำกับ และทีมงานมืออาชีพ สะท้อนผ่าน ความสำเร็จที่เคยผลิตละครโทรทัศน์ ป้อนให้กับ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 จนโด่งดัง มาแล้วในอดีต

การเลือกที่จะปรับตัว ทำให้วันนี้ช่องวัน สามารถคว้าเรตติ้งอันดับ 4 มาครองได้ (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน 2559) แต่ภารกิจหลังจากนี้ก็ คงจะท้าทายขึ้นเรื่อยๆ เขาบอกว่า พฤติกรรม ผู้บริโภควันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้ คนในแวดวงอาจพูดในท􀁬ำนอง เดียวกันว่า ตั้งแต่มีช่องรายการโทรทัศน์ใน ระบบดิจิทัล ผู้ผลิตต้องสร้างรายการออกมา จำนวนมากเพื่อเรียกคนดู แต่วันนี้ “สมาร์ทโฟน” เข้ามาแทนที่รีโมททีวี ฉะนั้นโจทย์สำคัญของ ผู้ผลิตรายการอย่างพวกเขา คือ ทำอย่างไรที่ จะดึงสายตาคนดูให้มาหยุดที่ช่องวัน และ เปลี่ยนมือที่ถือสมาร์ทโฟนมาเป็นรีโมทให้ได้

ถ้าอยากชนะใจคนดู เราต้องนำความ เป็นเลิศของตัวเอง บวกกับประสบการณ์และ ความรู้ที่คนอื่นมีไม่เท่าเรา มาสร้างความแตกต่าง และสร้างผลงานที่ดีกว่าในวันนี้ เราไม่มีทางรู้ หรอกว่าอนาคตคนดูจะชอบไม่ชอบอะไร เพราะวันนี้ยังไม่มีใครประเมินได้ว่า ธุรกิจ บันเทิงในวันข้างหน้าจะมีหน้าตาเช่นไร ที่เรา ต้องทำคือ อย่าหยุดพัฒนาตัวเองเพื่อตอบ โจทย์คนดูให้ได้” เขาบอกไว้อย่างนั้น

ผ่านมาถึงวันนี้ ช่องวันเริ่มมองเห็นทิศทาง ของตัวเองชัดเจนขึ้น สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า แผนงานที่เดินมาตลอดปี 2559 มาถูกทางแล้ว และเป็นการปูทางสู่ปี 2560 เพื่อเจาะกลุ่ม เป้าหมายที่เป็นกลุ่มคนเมือง ด้วยการเน้น ผลิตละคร และรายการวาไรตี้โชว์เป็นหลัก แม้หลายคนจะตกอยู่ในโลกโซเชียลจนถอนตัว ไม่ขึ้น แต่ผู้บริหารช่องวันยังเชื่อมั่นว่า คนดู ส่วนใหญ่ยังคงชื่นชอบที่จะเสพความบันเทิง ผ่านโทรทัศน์เช่นเดิม เพราะการดูรายการผ่าน โซเชียลนั้น อย่างไรก็ไม่ได้อารมณ์เหมือนโทรทัศน์

 

Bootstrap Image Preview
 
 
 
 
 

“ก่อนจะตกผลึกทางความคิด เราได้แก้ไข บทละครเพื่อให้เข้ากับรสนิยมของคนไทยในสมัยนั้น ที่ค่อนข้างจะต่างจากคนอเมริกันอย่างสิ้นเชิง ทุกวันนี้ธุรกิจบันเทิงยังเดินตามหลังอเมริกา อยู่หลายก้าว ฉะนั้นยังมีพื้นที่ให้เราเล่นอีกมาก”

 

“การดูรายการผ่านโทรทัศน์ ก็เหมือนดู ละครเวทีที่ต้องไปดูการแสดงสด เพราะ จุดประสงค์หลักของการเสพละครเวที คือ ต้อง มีส่วนร่วม ในการหัวเราะ ร้องไห้ และปรบมือ ไปพร้อมๆ กับคนดูด้วย”

นอกจากความสำเร็จในด้านการงาน ภายใต้ การกุมบังเหียนของผู้บริหารมากความสามารถ คนนี้แล้ว ด้านครอบครัวของเขา ก็ถือว่า ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน เพราะนอกจาก จะมีผู้จัดการชีวิตดีอย่าง “คุณปริม-กณิการ์ วีรวรรณ” ผู้เป็นภรรยาแล้ว ยังมีลูกสาววัย น่ารักสองคน “น้องปราง-ปรางสินี” และ “น้องปาว-ปวรดา” ที่เป็นกำลังใจสำคัญให้กับ เสาหลักครอบครัวอย่างเขา

ระหว่างทางการสร้างผลงานผ่านหน้าจอ โทรทัศน์ เรายังได้เห็น คุณถกลเกียรติ ในบทบาท การบุกเบิกละครเวทีมิวสิคัลของเมืองไทย โดยแรงบันดาลใจสำคัญของเขา คือ Cameron Mackintosh โปรดิวเซอร์ของละครเพลงระดับ โลก ซึ่งผลงานแต่ละชิ้นจะผสมสานศิลปะและ การแสดงไว้ได้อย่างลงตัว

ผลงานล่าสุด “ลอดลายมังกร เดอะมิวสิคัล” จากบทประพันธ์ของ “ประภัสสร เสวิกุล” จะ เริ่มเปิดการแสดงในวันที่ 13 ต.ค. นี้ ก็ยังเป็น ที่รอคอยของใครหลายคน

“ลอดลายมังกร เดอะมิวสิคัล” ว่าด้วย เรื่องราวของชาวจีนที่อพยพมาตั้งถิ่นฐาน ในประเทศไทย จนสามารถสร้างเนื้อสร้างตัว จากเสื่อผืนหมอนใบกลายเป็นมหาเศรษฐี

“ตัวละคร อาเหลียง เป็นคนขยัน หมั่นเพียร มุ่งมั่น ไม่ทิ้งโอกาสที่มีอยู่ ที่สำคัญคือมีคุณธรรม ประจำใจ หลักการดำเนินชีวิตเช่นนี้ สามารถ นำมาเป็นแบบอย่างในยุคที่ทุกคนมองหา ทางลัดที่จะนำไปสู่ความร่ำรวย ความสำเร็จใน เวลาอันรวดเร็ว ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่ยั่งยืน ละคร เรื่องนี้จะสอนให้คนใน พ.ศ. นี้ว่า การประสบ ความสำเร็จที่ยั่งยืนคือการใช้ชีวิตอย่างมี คุณธรรม” เขาเล่าในตอนท้าย

เพื่อส่งต่อผลงานคุณภาพที่แฝงไปด้วย ข้อคิดให้คนไทยได้ชื่นชม

 

Bootstrap Image Preview
 

 

ความรู้สึกที่มีต่อทิสโก้

 

“คุณบอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะวัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เล่าถึงความประทับใจที่ได้รับการสนับสนุนจากทิสโก้ โดยมองว่าทิสโก้เป็นองค์กรที่มี เจตนารมณ์ที่ดีในการให้ความรู้ทางการเงินแก่สาธารณะอย่างแท้จริง

“ทิสโก้ได้เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนรายการของช่องวันในปีแรก โดยเริ่มจากวาไรตี้การเงินที่ยัง ไม่เคยมีมาก่อนที่ช่องวันผลิตขึ้น ชื่อรายการ “ขอรวยด้วยคน” เป็นการให้ความรู้แก่ผู้ชมรายการ ในการบริหารการเงินในครอบครัว สร้างโอกาสให้เงินงอกเงย โดยมีตัวอย่างเคสปัญหาทางการเงิน และการเชิญูผู้รู้มาให้คำแนะนำต้องขอบคุณทางทิสโก้มากที่มองเห็นประโยชน์จากรายการของเรา และร่วมให้การสนับสนุนรายการ รวมถึงผู้บริการของทิสโก้มาเป็นแขกรับเชิญในรายการ มาให้ ความรู้และเคล็ดลับดีๆ ทางการเงินอยู่หลายครั้ง อยากบอกว่าเป็นประโยชน์มากและสามารถ นำไปใช้ได้จริงๆ นอกจากนี้ ผมยังทราบจากทีมงานว่า บริษัทในเครือทิสโก้ (สมหวัง เงินสั่งได้) ยังได้ร่วมไปโรดโขว์ในกิจกรรมช่องวันสัญจร ในการลงพื้นที่ตามแหล่งชุมชนต่างๆ สม่ำเสมอ โดยเป็นกิจกรรมเผยแพร่ความรู้ ปลูกฝังด้านการออมและวินัยทางการเงินใหกั้บประชาชนอีกด้วย”