file

“กิตติศักดิ์ ปัทมะเสวี” นักสร้างโอกาสแห่ง “ตรีสรา”

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 39 | คอลัมน์ New Generation

ตลอด 12 ปี บนเส้นทางเดินธุรกิจ “ตรีสรา” รีสอร์ทและที่พักระดับหรูในจังหวัดภูเก็ต ได้นำเสนอคุณค่าด้านการเป็นสินค้าและ บริการที่ดีที่สุดในความนึกคิดของลูกค้า ทว่าวันนี้ ตรีสราในรอบวงปีใหม่ พวกเขากำลัง สื่อสารคุณค่าใหม่เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับ ผู้คน ด้วยการคิดใหม่ สรรหาวิธีการใหม่ๆ ที่จะ ดูแลรักษามรดกของเมืองไทยเอาไว้

“เราพยายามคิดหาวิธีใหม่ๆ ที่จะดูแลรักษา มรดกของไทย ซึ่งมีทั้ง ธรรมชาติ วัฒนธรรม ผู้คน อาหาร ฯลฯ ให้สอดคล้องเหมาะสมกับนักท่องเที่ยว ยุคใหม่ โดยทำอย่างไรที่เมื่อนักท่องเที่ยวกลับมาแล้ว เขายังสามารถมีประสบการณ์ใหม่ๆ แม้คิดว่า รู้จักเมืองไทยดีอยู่แล้ว”

คำบอกเล่าจาก คุณป่าน-กิตติศักดิ์ ปัทมะเสวี รองประธานฝ่ายขายและการตลาด กล่มุ บริษัท มนทาระ ฮอสพิตาลิตี้ เบื้องหลังนักวางกลยุทธ์สร้างรายได้ ให้กับตรีสราและโบ๊ท เฮ้าส์ รีสอร์ทของครอบครัวในวันนี้

ภารกิจสุดท้าทาย กับแผนกลยุทธ์ที่บอกเล่า ได้เป็นฉากๆ เป็นผลจากการลงมือทำจริงและ ทำงานหนัก ตลอดที่ผ่านมาของเขา หลังผู้เป็นพ่อ คุณณรงค์ ปัทมะเสวี ประธานกรรมการ มนทาระ ฮอสพิตาลิตี้ กรุ๊ป อดีตนักการเงิน ผู้ผันตัวเองมาทำธุรกิจโรงแรม มอบหมายให้มา นั่งตำแหน่งรองประธานฝ่ายขายและการตลาด บริหารธุรกิจโรงแรมของครอบครัวอย่างเต็มตัว เมื่อปลายปี 2556

ก่อนหน้านี้เขาใช้เวลาไปกับการศึกษา เล่าเรียนและทำงานทางด้านการเงิน โดยคนหนุ่ม จบปริญญาตรีเกียรตินิยม ด้าน Financial Engineering จากคณะ Operations Research ที่ Columbia University และปริญญาโท MBA ที่ Harvard Business School สหรัฐอเมริกา เคยฝึกงาน ที่ Smith Barney บริษัทการเงิน ในนิวยอร์ก ต่อด้วย HSBC ที่สิงคโปร์ เคยดูแล เรื่องการลงทุนในกองทุนพลังงานสะอาด ฝากฝีไม้ลายมือในสนามการเงินไม่แตกแถว คนเป็นพ่อ

อย่างไรก็ตาม วันที่นักการเงินหนุ่มต้อง มาดูแลงานขายและการตลาด กลับพบความ แตกต่างจากงานเดิมๆ ของเขา

“เวลาดูการเงิน หรือวิเคราะห์การลงทุน เราชอบใช้ค่าเฉลี่ย แต่พอมาทำการตลาดจริงๆ พบว่า ไม่มีลูกค้าคนไหนที่คิดเป็นค่าเฉลี่ยได้ และ แต่ละคนก็มีความต้องการที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง ซึ่งถ้าดูแค่ค่าเฉลี่ยก็จะกลายเป็นว่า เราตอบโจทย์ ไม่ถูกต้อง และไม่สามารถตอบโจทย์ใครได้เลย” เขาบอกเรื่องยากที่ไม่มีสูตรคำนวณเป็นตัวช่วย

การทำงานที่ผ่านมา เลยต้องอาศัยการ เรียนรู้และปรับตัว พร้อมรับมือกับโจทย์ใหม่ๆ ที่เข้ามาเผชิญหน้าอยู่เสมอ และโจทย์ที่ว่าก็ดู จะยากเย็นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อวันนี้โลกเปลี่ยนไป รวดเร็วมาก ด้วยอิทธิพลของยุคดิจิทัล

“วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปเร็วมาก องค์กรที่ จะประสบความสำเร็จได้ จะต้องเปิดใจ และ ไม่คิดทำแต่สิ่งที่เคยทำให้เราประสบความสำเร็จ มาในอดีต แต่ต้องพยายามเข้าใจว่า มีอะไร ใหม่ๆ เกิดขึ้นบ้าง แล้วเราต้องปรับตัวอย่างไร เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ในอนาคตให้ได้” เขาบอกโจทย์

“วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยน ไปเร็วมาก องค์กรที่จะ ประสบความสำเร็จได้ จะต้องเปิดใจ และไม่คิด ทำแต่สิ่งที่เคยทำให้เรา ประสบความสำเร็จมา ในอดีต แต่ต้องพยายาม เข้าใจว่า มีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นบ้าง แล้วเราต้อง ปรับตัวอย่างไร เพื่อเป็น ส่วนหนึ่งของสิ่งที่ลูกค้า ต้องการในอนาคตให้ได้”

นั่นเองที่ทำให้คนหนุ่มต้องคิดใหม่ ทำใหม่ เพื่อนำพาธุรกิจซึ่งประสบความสำ เร็จมาตลอด 12 ปี ให้สามารถ ก้าวไปข้างหน้า ได้โดย ไม่ล้าหลัง เมื่อเทียบกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ในอนาคต ทำให้ตรีสรา ในยุคของเขา แตกต่างไปจากตรีสราในวันเก่า โดยเป็นตรีสรา ที่จะเข้าใจลูกค้ายุคใหม่ และเท่าทันกระแสโลกอนาคตมากขึ้น

หนึ่งตัวอย่างที่เห็นชัด คือการปรับพื้นที่ ห้องสมุดเดิม มาทำเป็นดิจิทัลสตูดิโอ ชื่อ “DDEN” (The Director’s Den) เพื่อสนองความ ต้องการนักท่องเที่ยวยุคใหม่ ที่ชอบแชะ แล้ว แชร์ แสดงตัวตนบนโลกออนไลน์ จนกลายเป็น รีสอร์ทแห่งแรกของโลกที่ให้บริการสุดพิเศษนี้

กิตติศักดิ์ เป็นนักแสวงหาโอกาส โดยจะ เห็นได้จากสิ่งที่เขาทำมักไม่ใช่สิ่งเดิมๆ ที่ตรีสรา เคยทำมาในอดีต แต่เป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับช่องว่างที่ยังหลบซ่อนอยู่ในธุรกิจ หนึ่งเรื่องใหม่ที่มาพร้อมการนำเสนอคุณค่าใหม่ ของตรีสรา คือนำพาแขกให้ได้รู้จักมรดกอีกด้าน ของเมืองภูเก็ต อย่างแนะนำให้รู้จัก พูดคุย สัมผัสคนเก่าแก่ วิถีชีวิตชุมชน ตลอดจน ร้านรวงดั้งเดิมในเมืองภูเก็ต เพื่อให้นักท่องเที่ยว ได้เข้าถึงมรดกท้องถิ่น (Local Heritage) ที่พวกเขาต้องการอนุรักษ์ไว้

แม้แต่ร้านอาหารไทย ก็ปรับให้เข้ากับ คอนเซ็ปต์ใหม่ โดยเลือกใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น ผลิตผลตามฤดูกาล มารังสรรค์เมนูอาหารไทย รสชาติแปลกใหม่ ที่จะสัมผัสได้ถึงสูตรคุณแม่ ซึ่งสืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น

นอกจากนี้ ยังพัฒนาช่องทางการขาย ใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต เช่น ช่องทาง ออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันสามารถสร้างรายได้ถึง 15% การขยายตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะชาวจีน จากที่ ไม่เคยติด 1 ใน 10 ของตรีสรา มาเป็นลูกค้า อันดับต้นๆ ที่สร้างเม็ดเงินให้ธุรกิจ การนำ พูลวิลล่าส่วนที่ขายให้กับลูกค้ากว่า 20 หลัง มาบริหารจนสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นถึง 20-30% ซึ่งวินต่อทั้งเจ้าของวิลล่าที่จะได้ค่าเช่า เพิ่มขึ้น ส่วนตรีสราก็มีคนมาใช้บริการร้าน อาหารและสปา เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้รายได้ของ โรงแรมยังคงเติบโตขึ้นทุกปี ปีละไม่ต่ำกว่า 10% โดยมีรายได้จากธุรกิจโรงแรม ประมาณ 600-650 ล้านบาท

ผลจากการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ไม่รอแต่ ดื่มด่ำความสำเร็จในอดีต ทำให้วันนี้แบรนด์ ตรีสราซึ่งเคยมีราคาเป็นอันดับ 2 บนเกาะ กลายเป็นรีสอร์ทที่ราคาสูงที่สุดและ สามารถขายห้องพักได้มากขึ้น ด้วยพลังของ คนหนุ่มอย่างเขา

“การเป็นที่ 1 กับที่ 2 ต่างกันมาก เพราะ พอเป็นที่ 1 เราจะไม่สามารถตามใครได้อีก แต่ต้องนำ และต้องมี ‘คุณค่า’ ที่นำเสนอ แก่ลูกค้า ทิ้งห่างจากที่ 2 อย่างเห็นได้ชัด นั่นทำให้จากนี้วิธีคิดของเราจะต้องเปลี่ยน และคงต้องเจอความกดดันอีกเยอะมาก

“การเป็นที่ 1 กับที่ 2 ต่างกันมาก เพราะ พอเป็นที่ 1 เราจะไม่สามารถตามใครได้อีก แต่ต้องนำ และต้องมี ‘คุณค่า’ ที่นำเสนอแก่ ลูกค้า ทิ้งห่างจากที่ 2 อย่างเห็นได้ชัด นั่นทำให้ จากนี้วิธีคิดของเราจะต้องเปลี่ยน และคงต้องเจอ ความกดดันอีกเยอะมาก” เขาบอกความท้าทาย ในวิถีแห่ง “ผู้นำ” ที่จะตามใครอีกไม่ได้

คนหนุ่มเป็นต้นแบบของคนรุ่นใหม่ ที่ประสบ ความสำเร็จทั้งด้านการเรียน การทำงาน แม้แต่ การบริหารธุรกิจครอบครัว ในวัยที่ยังไม่มากนัก หนึ่งในแรงผลักดันสำคัญ คือการได้เห็นความ พยายามของผู้เป็นพ่อ (คุณณรงค์) ต้นแบบชีวิต ของเขา ที่ต้องต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก พยายามผลักดัน ตัวเองจนประสบความสำเร็จ เขาเองเกิดมา สบายกว่าพ่อ เลยไม่อยากปล่อยให้โอกาสที่ได้ มานี้เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ จึงเลือกที่จะใส่ ความพยายามสูงสุดลงไปกับทุกๆ เรื่อง

อีกแรงบันดาลใจสำคัญ คือ พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีคุณูปการต่อพสกนิกรและแผ่นดินไทย โดยคนหนุ่มได้เห็นตัวอย่างจากการทรงงานหนัก โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อความผาสุกของ ประชาชน อีกทั้งยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์ นักประดิษฐ์คิดค้นที่นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ในการบรรเทาทุกข์และสร้าง ประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริง

“พระองค์ท่านเป็นกษัตริย์เพียงพระองค์เดียว ที่มีผลงานสิทธิบัตรเกี่ยวกับการทำฝนเทียม แสดงถึงการให้ความสำคัญกับนวัตกรรม และ เป็นนวัตกรรมที่ให้ประโยชน์กับคนโดย ส่วนรวมด้วย นั่นทำให้เห็นว่า เราต้องพยายาม ที่จะคิดค้นอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่ใช่ ทำเพื่อตัวเราเองเท่านั้น แต่ต้องทำเพื่อ ประโยชน์ของส่วนรวมด้วย”

เช่นเดียวกับการก่อตั้ง ตรีสรา อะคาเดมี ที่ไม่ใช่แค่เพื่อพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ในองค์กร แต่เพื่อแบ่งปันความรู้สู่ผู้คนใน อุตสาหกรรมนี้ และ มูลนิธิ นิยม ปัทมะเสวี ของครอบครัว ที่มุ่งให้การศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาส แม้แต่การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ก็ไม่ได้หวัง ผลลัพธ์กับแค่องค์กร แต่ขอเอื้อประโยชน์ต่อ สังคมส่วนรวมด้วย

ภายใต้บุคลิกที่นอบน้อม สุภาพ คนหนุ่ม ยอมรับว่า วันนี้ยังคงทำงานหนัก จนแทบจะ แบ่งเวลางาน ส่วนตัว และครอบครัวออกจาก กันไม่ได้ เพราะทำธุรกิจครอบครัว แถมยังอยู่ กับครอบครัว ฉะนั้นหนทางเดียวที่เขาจะได้ หยุดพักจากเรื่องงานได้จริงๆ ก็ตอนไปเที่ยว พักผ่อนประจำปีกับที่บ้าน

ได้ใช้เวลาเก็บเกี่ยวความสุขให้เต็มที่ ก่อนกลับมามุ่งมั่นพยายาม นำพาตรีสราไป งอกงามในพื้นที่ใหม่ พร้อมบอกเล่าเรื่องราว ของมรดกไทย ให้นักท่องเที่ยวยุคใหม่ได้รับรู้ เพื่อครอบครองหัวใจของผู้คนได้ในทุกยุค

ความรู้สึกที่มีต่อทิสโก้

แม้ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับบริการของทิสโก้โดยตรง แต่ คุณป่าน-กิตติศักดิ์ ปัทมะเสวี รองประธานฝ่ายขายและการตลาด กลุ่มบริษัท มนทาระ ฮอสพิตาลิตี้ บอกว่า ชื่อของ ทิสโก้ เป็นที่คุ้นเคยดีของครอบครัว หลังได้รับความไว้วางใจจากคุณพ่อ คุณณรงค์ ปัทมะเสวี ประธาน กรรมการ มนทาระ ฮอสพิตาลิตี้ กรุ๊ป ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้าทิสโก้ ให้เป็นที่ปรึกษาและช่วยบริหาร การเงินให้กับครอบครัวและธุรกิจ

“ผมถามคุณพ่อว่า ทำไมถึงเลือกทิสโก้ ท่านบอกว่า เพราะทำผลตอบแทนได้ดีกว่าคู่แข่ง แล้วทำไมถึงมั่นใจให้ทิสโก้ดูแลเงินของเรา ท่านก็บอกว่า เพราะทิสโก้เป็นบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ แห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งนั่นหมายความว่า ที่นี่จะมีความรู้ มีการวิจัย มีบุคลากรที่ลึกและเชี่ยวชาญ ทำให้สามารถบริหารเงินทุนได้ดีกว่าคู่แข่งเสมอ นี่คือสิ่งที่คุณพ่อบอกกับผม”

และนั่นคือเหตุผลที่ครอบครัวของเขายังเลือกใช้บริการของทิสโก้มาจนถึงทุกวันนี้