TISCO Health Protection Advisory เพราะที่ปรึกษาด้านประกันสุขภาพ เป็นเรื่องเร่งด่วน

คอนเซ็ปต์ของการสร้างความมั่งคั่งที่เราคุ้นเคยกัน มักเริ่มจากการลงทุน ในหลากหลายรูปแบบ (Wealth Creation) จากนั้นจึงสะสมต่อยอดความมั่งคั่งในระยะยาว (Wealth Accumulation) และเพื่อป้องกันความเสี่ยงไม่ให้ความมั่งคั่งที่สะสมมาต้องอันตรธานหายไป จึงจำเป็นต้องวางแผนคุ้มครองความมั่งคั่ง (Wealth Protection) เพื่อส่งต่อให้แก่คนที่รักในท้ายที่สุด (Wealth Distribution)

หลายสิบปีที่ผ่านมา ธนาคารทิสโก้ (TISCO) ใช้ความเชี่ยวชาญช่วยแนะนำให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายในทุกขั้นตอนของความมั่งคั่ง โดยเฉพาะเรื่องการลงทุน เพื่อที่ลูกค้าแต่ละคนจะได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดด้วยบริการที่ปรึกษาการลงทุนที่โดดเด่นและแตกต่าง มาวันนี้ TISCO พัฒนาพื้นฐานอันแข็งแกร่งจากการเป็น Investment Advisory ต่อยอดสู่บริการ Protection Advisory พร้อมเปิดตัวบริการ “Health Protection Advisory” หรือ ที่ปรึกษาด้านประกันสุขภาพที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า

Why Health Protection Necessary…

“ประกันสุขภาพ ควรต้องทำทันที และทำในขณะที่สุขภาพยังแข็งแรง เพราะตอนที่ป่วยหนักแล้วจะไม่มีใครรับ ยิ่งถ้าเป็นโรคร้ายแรงค่ารักษาก็ยิ่งสูงมากแถมยังเพิ่มขึ้นทุกปี ข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2551-2561) ค่ารักษาพยาบาลปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 43.27% และที่สำคัญ มันเป็นค่าใช้จ่ายที่ประมาณการไม่ได้!!! ฉะนั้น จะเพิกเฉยส่วนนี้ไปไม่ได้ เพราะมันอาจทำให้แผนการเงินหลังเกษียณทั้งหมดของคุณสะดุดลงได้เลย เราจึงอยากเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ ในการเป็นที่ปรึกษาด้าน Protection ให้กับลูกค้า” คุณพิชา รัตนธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าว

หลังอธิบายความจำเป็นของประกันสุขภาพ คุณพิชา เล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับคนส่วนใหญ่ในการทำประกันสุขภาพว่า ที่ผ่านมาหลายคนซื้อเพียงเพราะความสัมพันธ์ โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแผนคุ้มครองเป็นอย่างไรและมีเงื่อนไขอะไรบ้าง

“หมดยุคที่จะซื้อประกันเพราะความเกรงใจ โดยเฉพาะประกันสุขภาพ เพราะมันสำคัญมาก เทียบกับกองทุนถ้าคุณซื้อผิด ก็แค่ผลตอบแทนน้อยหน่อย แต่ประกันสุขภาพ... ถ้าซื้อผิดมันเสียหายกว่ากันเยอะ เช่น ซื้อ OPD แต่ไม่คุ้มครองโรคร้ายแรง เงินที่สะสมไว้ใช้หลังเกษียณอาจจะหมดลงได้เลย มารู้ตัวหลังเกษียณ ก็ไม่มีใครรับแล้ว หรือความคุ้มครองที่ได้ไม่ครอบคลุมสิ่งที่เราจำเป็นต้องใช้ หรือ ในทางตรงข้ามถ้าซื้อมากเกิน ก็เปลืองเงินเปล่าๆ”

คุณพิชา ย้ำอีกว่า “การทำประกันสุขภาพเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ และต้องเลือกให้ดี ผู้ซื้อต้องเข้าใจในรายละเอียดแต่รายละเอียดมันก็มีเยอะมาก มีข้อยกเว้นและเงื่อนไขที่อ่านรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง

เราเลยเห็นว่าไม่ได้แล้ว เรื่องนี้จำเป็นต้องมี Advisory และเป็นเรื่องเร่งด่วน จึงเป็นที่มาของการเปิดบริการ TISCO Health Protection Advisory”

Why TISCO Health Protection Advisory…

“ถามว่า TISCO เป็นใคร มาจากไหน ถึงจะลุกขึ้นมาเป็นที่ปรึกษา ด้าน Health Protection ผมมั่นใจว่าเราเป็น “หนึ่งในตองอู” เรามีความพร้อม เพราะจากอดีตถึงปัจจุบัน เราเป็น Top Advisory ด้านการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น กองทุน หลักทรัพย์ เราออกบทวิเคราะห์ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเราเป็นผู้นำในการออกกองทุนประเภทใหม่ๆ อาทิ Trigger Fund หรือ กองทุนต่างประเทศ ฯลฯ และวันนี้เราพร้อมจะเป็น Top Advisory ด้านประกันสุขภาพแล้ว”

คุณพิชาขยายความอย่างมั่นใจใน “ความพร้อม” ที่ว่าของ TISCO ซึ่ง ได้แก่

1) Good Research คือการศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ทั้งเชิงลึกและกว้าง เพื่อใช้เป็นฐานในการวิเคราะห์กลั่นกรองผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพจากบริษัทประกันชั้นนำ ซึ่งเป็น “จุดขาย” ที่ยังไม่มีธนาคารหรือบริษัทประกันรายใด (กล้า) ทำ TISCO ถือเป็นรายแรกที่จะออกบทวิเคราะห์ที่เป็นกลางเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันไว้ให้ลูกค้าประกอบการตัดสินใจ

“ถึงเวลาแล้วที่ผลิตภัณฑ์ประกันต้องมี Research Paper ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนให้กับ TISCO เพราะที่อื่นไม่มี ถ้าเป็นธนาคารที่มีบริษัทประกันในเครือ เขาจะเปรียบเทียบทำไมในเมื่อยังไงก็ต้องขายของตัวเองอยู่ดี ก็เหมือนกับตอนที่ทำกองทุน พอเราเปิดแพลตฟอร์มแบบ Open Architecture ก็ทำให้สามารถเลือกและแนะนำกองทุนที่ดีที่สุดให้ลูกค้า พอมาใช้กับประกันสุขภาพ เราไม่ได้บอกว่าค่ายไหนดีไม่ดี เพราะลูกค้าแต่ละคนมีความต้องการต่างกัน แต่เราจะเทียบให้เห็นว่าตัวไหนเบี้ยคุ้มที่สุดในเรื่องไหน เช่น ค่าห้อง ค่ารักษา โรคร้ายแรง ฯลฯ ซึ่งเชื่อถือได้ เพราะเรามีทีมดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ”

2) Good Product ปัจจุบัน TISCO เป็นธนาคารเดียวในประเทศไทยที่ใช้แพลตฟอร์ม Open Architecture ที่ครอบคลุมทั้งกองทุนและประกันให้กับหลากหลายสถาบัน ในส่วนของผลิตภัณฑ์ประกัน การใช้ Open Architecture ทำให้ TISCO เป็นพันธมิตรกับบริษัทประกันชั้นนำหลายแห่ง จึงสามารถคัดสรรและร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์กับบริษัทประกันที่มีความโดดเด่นในแต่ละด้าน เพื่อนำเสนอแผนความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ความต้องการในแต่ละเรื่องมากที่สุด (Best in Class) โดยไม่ต้องกังวลว่าต้องขายผลิตภัณฑ์ของเครือบริษัทก่อน

3) Good Advice แม้ว่าจะมีบทวิเคราะห์ที่ดี และมีผลิตภัณฑ์ Best in Class ที่คัดสรรมาแล้ว แต่ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถให้คำแนะนำที่ดีที่จะทำให้ลูกค้าเข้าใจและได้ประโยชน์สูงสุด สุดท้ายแล้ว ประกันสุขภาพที่ลูกค้าซื้อไปก็อาจจะไม่สร้างความคุ้มค้าให้กับลูกค้า นี่จึงเป็นเหตุผลที่ TISCO ให้ความสำคัญกับคุณภาพของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก

“เราให้ความสำคัญแบบสุดๆ กับเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้า ที่ผ่านมา เราโฟกัสเรื่อง Investment Advisory เราก็มีนโยบายให้ Relationship Manager (RM) ต้องมี Single License พอมาผลิตภัณฑ์ประกัน เรามองว่า License สำหรับขายประกันอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะบอกได้ว่า เขามีความรู้ที่จะแนะนำลูกค้าได้ไหม เราจึงมีการอบรมพนักงาน ทั้งเรื่องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เรื่องการรักษาพยาบาล เรื่องโรคร้ายแรง ฯลฯ นอกจากนี้ เรายังให้ RM เข้าอบรมการเป็นนักวางแผนการเงิน (CFP) ด้วย ไม่เพียงจะทำให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพของ RM เท่านั้น ขณะเดียวกันก็ทำให้ RM มีความมั่นใจในการวิเคราะห์และแนะนำแบบประกันที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน และยังสามารถแนะนำแผนการเงินแบบองค์รวมได้ด้วย”

ปรัชญาของ TISCO ในธุรกิจประกันภัยธนกิจ

“ดีใจมากที่ผู้บริหาร TISCO ให้ความสนใจเกี่ยวกับประกันสุขภาพ เพราะเป็นพื้นฐานความคุ้มครองที่ทุกคนควรต้องมี ไม่ว่าจะประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง ประกันมะเร็ง ฯลฯ แต่ในฐานะคนทำงาน ก็ยอมรับว่าความดีใจมาพร้อมความเครียดที่ต้องเลือกสรรประกันสุขภาพที่ดีที่สุดมานำเสนอให้ลูกค้าประกันสุขภาพถือเป็นตัวยากที่สุดในประกันทั้งหมด” คุณกุสุมา ประถมศรีเมฆ ผู้อำนวยการ สายประกันภัยธนกิจ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดใจ

ต่อมาคือ เรื่องความมั่นคงของบริษัทประกันโดยเฉพาะสถานะทางการเงิน ชื่อเสียงที่สั่งสมมา รวมถึงเรื่องของบริการหลังการขาย ฯลฯ เพื่อให้มั่นใจว่าหลังจากที่ลูกค้าซื้อประกันสุขภาพผ่านช่องทางของ TISCO แล้วจะไม่เผชิญกับสถานการณ์ “ถูกประกันลอยแพ”

ส่วนข้อสุดท้าย คือ “เลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด (Best in Class)” เนื่องจากการเป็น Open Architecture ทำให้ TISCO สามารถเลือกพันธมิตรที่จะออกแบบผลิตภัณฑ์มาเสนอขายในช่องทางของ TISCO ซึ่งเธอมองว่า “สิทธิในการเลือก” เป็นสิ่งที่ธนาคารหลายแห่งไม่มี ดังนั้น TISCO จึงต้องใช้สิทธินี้ให้ดีที่สุด ด้วยการเปรียบเทียบ คัดสรร และร่วมพัฒนาสิ่งที่ดีที่สุดมานำเสนอลูกค้าให้ได้

ซึ่งตรงกับสิ่งที่ คุณพิชา ย้ำว่า แล้วทำไมต้องซื้อประกันกับ TISCO นั่นก็เพราะ TISCO คัดประกันสุขภาพตัวท็อปแบบไม่จำกัดค่าย และเปรียบเทียบมาให้หมดแล้ว ทั้งเรื่องความมั่นคง ความคุ้มค่ากับความคุ้มครอง พร้อมด้วยบริการหลังการขายเสร็จสรรพ “เราตั้งใจจะเป็นธนาคารที่เชี่ยวชาญเรื่องประกันสุขภาพที่ลูกค้านึกถึง หรือ Think Health Insurance, Think Tisco ซึ่งจากนี้เราจะคัดสรรประกันสุขภาพตัวท็อปๆ ทยอยออกมาตอบโจทย์ลูกค้าอีกหลายประเภท แล้วคุณจะซื้อกับคนอื่นทำไม”

ประกันสุขภาพที่เข้าข่าย “ของมันต้องมี”

คุณกุสุมา เล่าว่า จากที่เธอได้ทำการศึกษาความต้องการของลูกค้า พบว่ามีอยู่ 2 Pain Points หลักที่ทำให้ลูกค้าไม่กล้าซื้อประกันสุขภาพ แม้จะตระหนักดีว่าเป็นสิ่งจำเป็น ได้แก่ 1) ทำแล้วเคลมไม่ได้ และ 2) ต่ออายุไม่ได้ หลังเคลมสูงหรือต่ออายุได้แต่ปรับเบี้ยสูงจนทำต่อไม่ไหว และยังได้ยกตัวอย่าง แผนความคุ้มครองสุขภาพที่ผ่านการกลั่นกรองอันเข้มข้น ได้แก่

My Care Smart ประกันสุขภาพที่คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุฉุกเฉินแบบเหมาตามจริง โดยไม่จำกัดวงเงินต่อการรักษาแต่ละครั้ง มีวงเงินความคุ้มครองให้เลือกตั้งแต่ 300,000 - 700,000 บาทต่อปี โดยไม่ต้องสำรองจ่าย พนักงานบริษัทที่มีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลอยู่แล้วหากเลือกแผนที่มีความรับผิดส่วนแรกจะได้ลดค่าเบี้ยสูงสุดเกือบครึ่ง โดยไฮไลท์สำคัญคือต่ออายุได้ถึง 80 ปี และจะไม่มีการปฏิเสธการต่ออายุแม้เคลมสูง แถมเบี้ยยามสูงวัยถูกกว่าตลาดอีกด้วย รับประกันภัยโดย บริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)

“ข้อดีของแผนความคุ้มครองนี้คือ เบี้ยไม่สูงมากเมื่อเทียบกับความคุ้มครอง เราเปรียบเทียบมาให้แล้วว่าคุ้มค่าที่สุดสำหรับคนที่ต้องการความคุ้มครองแบบเหมาจ่าย แล้วถ้าไม่เคยเบิกกับบริษัทประกันเลย ก็มีเงินคืนให้ แนะนำว่าแผนฯ นี้ทุกคนควรมีติดไว้เป็นพื้นฐาน ยิ่งพนักงานบริษัทแม้ว่ามีสวัสดิการอยู่แล้วก็ควรซื้อไว้เพื่อที่ยามเกษียณจะได้มีความคุ้มครอง” คุณกุสุมาแนะนำ

TISCO Zero Cancer แผนความคุ้มครองโรคมะเร็งที่มีจุดเด่น คือ จ่ายเงินคุ้มครองทันทีเมื่อตรวจพบเชื้อ และยังดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาต่อเนื่องไปตลอดจนครบวงเงิน สามารถทำประกันได้โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ (ต้องแถลงประวัติสุขภาพในใบคำขอเอาประกัน) เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 80 บาทต่อเดือน ไฮไลท์สำคัญคือ เบี้ยไม่ปรับเพิ่มตามอายุที่มากขึ้น และต่ออายุกรมธรรม์ได้สูงสุดถึงอายุ 70 ปี รับประกันภัยโดย บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)

“แผนฯ นี้ TISCO ร่วมออกแบบกับกรุงเทพประกันภัย ถือเป็น Top in Class ของแผนประกันมะเร็งที่ทุกคนควรมี ขณะที่รายอื่นอาจจ่ายเงินคุ้มครองเมื่อพบเชื้อในระยะลุกลามแต่ Zero Cancer แค่พบเชื้อในระยะแรก (Stage 0) ก็จ่ายให้ก่อนเลยก้อนนึง เพื่อเอาไปวางแผนการรักษาและปรับสภาพการดำรงชีวิตแล้วยังมีอีกก้อนไว้ใช้เป็นค่ารักษา แถมมีค่าใช้จ่ายในการตรวจวินิจฉัยซ้ำและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาให้ด้วย ซึ่งวงเงินค่ารักษาถ้ายังใช้ไม่หมด ก็สามารถเบิกวงเงินคงเหลือไปใช้ในการรักษาได้อย่างต่อเนื่องจนครบวงเงินปีถัดไปก็ไม่ต้องจ่ายเบี้ย เราออกแบบมาเพราะอยากให้ลูกค้าได้รับการรักษาที่เร็ว โอกาสหายก็สูง ไม่ต้องรอขั้นลุกลามถึงจะมีความคุ้มครองประกันตัวนี้ เสมือนยาสามัญประจำบ้านที่ควรมีติดไว้” คุณกุสุมาเล่าถึงที่มา

My Care Prestige Health แผนความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพที่ให้วงเงินค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายตามจริง ตั้งแต่ 10 – 100 ล้านบาท ครอบคลุมถึงแนวทางการรักษาแบบใหม่ และสามารถเลือกพื้นที่ความคุ้มครองได้ทั่วโลก (ยกเว้นแผน 1 และ 2 จาก 5 แผน) เหมาะสำหรับลูกค้าที่อยากได้ทุนประกันสูง รับประกันตั้งแต่อายุ 11 - 80 ปี ต่ออายุได้สูงสุดถึงอายุ 98 ปี สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับลูกค้าทิสโก้ รับผลประโยชน์กรณีตรวจพบโรคมะเร็งทุกชนิดและทุกระยะถึง 2 แสนบาท สำหรับทุกแผน (เงื่อนไขการพิจารณาและความคุ้มครองขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ของบริษัทผู้รับประกันภัย) รับประกันภัยโดย บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์รูปแบบอื่น เช่น My Gift Prestige ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ จำนวนเอาประกันตั้งแต่ 10 ล้านบาท ถึง 1,000 ล้านบาท รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือน ถึง 65 ปี คุ้มครองสูงสุดถึงอายุ 99 ปี เลือกระยะเวลาชำระเบี้ยได้ 2 แบบคือ 5 ปี และ 10 ปี หากสุขภาพดีกว่ามาตรฐานตามเกณฑ์จะได้ส่วนลดเพิ่ม (ช่วงอายุ 18-65 ปี เบี้ยประกันเปลี่ยนแปลงตามอายุและเพศ) รับประกันโดย บริษัท เอไอเอ จำกัด และ My Wish 12.4 ประกันสะสมทรัพย์ โดยชำระเบี้ย 4 ปี คุ้มครองถึง 12 ปี และรับเงินคืนทุกสิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-11 ปีละ 4% ของจำนวนเงินเอาประกัน รวม 44% ครบกำหนดสัญญารับเงินคืน 460% ของจำนวนเงินเอาประกัน รับประกันโดย บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เป็นต้น

ผนึกกำลังสร้าง “ประกันตัวท็อป” เพื่อคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

คุณพิชาย้ำว่า นอกเหนือจากความพร้อมทั้ง 3 ด้านของ TISCO แล้ว การจะเป็นที่ปรึกษาด้านประกันสุขภาพที่ดีที่สุดของ TISCO จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้ความร่วมมือที่ดีจาก “พันธมิตร” ที่มีเป้าหมายเดียวกันในการออกผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย ในงานเปิดตัว TISCO Health Protection Advisory ผู้บริหาร TISCO จึงไม่ลืมที่จะเชิญผู้บริหารจากบริษัทประกันที่เป็นพันธมิตรมาร่วมเปิดใจ

เริ่มจาก คุณนิติพงษ์ ปรัชญานิมิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Actuary ไทยประกันชีวิต กล่าวเปิดใจว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ TISCO มาอย่างยาวนานจนเข้าสู่ปีที่ 8 โดยครั้งนี้ประกันตัวท็อปของเรา ได้แก่ ซีรี่ส์ My Wish แบบประกันที่เน้นความมั่นคงสูง เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการความมั่งคั่งในชีวิตต้องการได้รับผลตอบแทนที่แน่นอน และสามารถส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลานได้”

ตามมาด้วย คุณอลิสา สิมะโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารตัวแทนประกันชีวิตเอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “ที่ผ่านมา AIA มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้คนไทยมีความคุ้มครองในแง่ของประกันชีวิตและประกันสุขภาพอย่างเพียงพอมาโดยตลอด นี่เป็นปณิธานที่ตรงกันกับ TISCO ซึ่งความร่วมมือกันครั้งนี้ จะทำให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น ทั้งในแง่ความคุ้มครองทางการเงินและความคุ้มครองทางสุขภาพ โดยตัวท็อปของเราคือ TISCO My Gift Prestige ที่เหมาะสำหรับลูกค้าที่ต้องการวางแผนเงินสดและเพิ่มมูลค่าเงินเพื่อเก็บไว้ให้ลูกหลานในอนาคต”

คุณปิติพงษ์ ชาวชายโขง ผู้อำนวยการ ธุรกิจลูกค้ารายย่อย กรุงเทพประกันภัย ที่กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ Zero Cancer ที่เรียกว่า “ถูกใจ” คนในยุคนี้ “เราทำรีเสิร์ชหนักมากเพื่อตอบโจทย์ความกังวลหลักของลูกค้าในเรื่องมะเร็งว่ามีอะไรบ้าง นั่นคือเบี้ยต้องไม่แพง แต่ได้รับความคุ้มครองเป็นเงินก้อนทันทีที่พบว่าเป็นมะเร็ง และวงเงินค่ารักษาเพื่อเพิ่มโอกาสรักษาหาย โดยเบี้ยไม่ปรับตามอายุที่เพิ่ม”

คุณเกรียงศักดิ์ โพธิเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ วิริยะประกันภัย ที่ขึ้นมากล่าวเปิดใจว่า “ในครั้งนี้วิริยะฯ ได้สร้างสรรค์ประกันสุขภาพร่วมกับ TISCO เพื่อรองรับบริการ Health Protection Advisory ถึง 3 ตัว ได้แก่ My Care Smart, My Care Smart Plus และ My Care Smart BDMS โดยทั้ง 3 ตัวนี้มีจุดเด่นคือ การเป็นประกันเหมาจ่ายเรื่องค่ารักษาพยาบาล พร้อมการันตี “ไม่ปฏิเสธการต่ออายุ แม้เคลมสูงหรือลูกค้าอายุมากขึ้น”

ปิดท้ายด้วย คุณยศวดี หงษ์ชุมแพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานขายช่องทางสถาบันการเงิน กรุงเทพประกันชีวิต ที่กล่าวในฐานะพันธมิตรน้องใหม่ที่เพิ่งร่วมงานกับ TISCO ว่า “ประกันตัวท็อปของเราคือ My Care Prestige Health เราได้ค้นหาว่าลูกค้ากลุ่มที่มีความมั่งคั่งต้องการอะไรที่ “พิเศษ (Prestige)” ร่วมกับ TISCO จนพบว่าต้องการความคุ้มครองที่สูงเพื่อให้ได้รับการรักษาที่ดีที่สุด สามารถรักษาได้ทั่วโลก ฯลฯ เบี้ยประกันอยู่ในราคาที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับความคุ้มครองที่เริ่มต้น 10 ล้านบาท ไปจนถึงสูงสุดที่ 100 ล้านบาท และมีบริการแบบ “Every Care” ทั้งก่อนเจ็บป่วย ระหว่างเจ็บป่วย และหลังเจ็บป่วย”