เสน่ห์ของวัฒนธรรมการกินสไตล์ “โอมากาเสะ (Omakase)” คือการมอบความไว้วางใจในอาหารมื้อนั้นไว้ที่เชฟ ซึ่งเชฟจะออกแบบและนำเสนออาหารปรุงใส่จานเสิร์ฟในรูปแบบของคอร์สอาหาร โดยที่เราไม่รู้เลยว่า เมนูแต่ละคอร์สหรือแต่ละวันจะมีอะไรบ้าง ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ดีและเหมาะสมที่สุดในฤดูกาลนั้นว่ามีอะไร โดยหัวใจของโอมากาเสะคือการที่เชฟได้ถ่ายทอดฝีมือและประสบการณ์ผ่านการร้อยเรียงรสชาติ และบรรจงแต่งลงในมื้ออาหารอย่างพิถีพิถัน รวมไปถึงรสชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเชฟแต่ละคน
นี่คือศิลปะอาหารที่น่าตื่นเต้นและน่าลิ้มลอง จนทำให้หลายคนหลงรักวัฒนธรรมโอมากาเสะจนอยากกินซ้ำแล้วซ้ำอีก ยิ่งหากเป็นร้านโอมากาเสะที่รังสรรค์เมนูรสชาติต้นตำรับสุดเอ็กซ์คลูซีฟในทุกจานเสิร์ฟ ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศจากแหล่งที่ดีที่สุดเพียงหนึ่งเดียวแล้ว เหล่าฟู้ดดี้อาหารญี่ปุ่นยิ่งไม่ควรพลาด
เฉกเช่น Mono Sei Omakase ร้านอาหารสไตล์โอมากาเสะสุดพรีเมียมที่ยกระดับโอมากาเสะไปอีกขั้น ด้วยคอนเซปต์ของร้านที่มาจากคำว่า Mono ที่หมายความว่า หนึ่งเดียว และ Sei ในภาษาญี่ปุ่นที่หมายความว่า ดียิ่งขึ้น เมื่อนำคำทั้งสองมารวมกันจึงมีความหมายว่า ร้านโอมากาเสะที่ตั้งใจนำเสนอความอร่อยให้เป็นหนึ่งเดียว โดยการผสมผสานรสชาติญี่ปุ่นดั้งเดิมเข้ากับความร่วมสมัยไว้อย่างลงตัว พร้อมคัดสรรวัตถุดิบทุกชนิดจากแหล่งที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งบางชนิดต้องประมูลแข่งขันเพื่อให้ได้มาซึ่งวัตถุดิบที่ดีที่สุด เพื่อส่งต่อประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าให้แก่ลูกค้า ผ่านการรังสรรค์โดยเชฟญี่ปุ่นฝีมือเยี่ยมที่มากด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านของอาหารญี่ปุ่น จนทำให้ได้รับการยอมรับว่า “ที่นี่มีดีมากกว่าซูชิ”
มาถึงหน้าร้าน Mono Sei Omakase ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ที่ชั้น G ของโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ย่านชิดลม คุณจะพบกับการตกแต่งสไตล์เซนตามแบบฉบับของญี่ปุ่นขนานแท้ ที่เน้นดีไซน์เรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติ อย่างการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก แล้วแซมด้วยวัสดุธรรมชาติที่เป็นสีดำหรือสีขาว เพื่อให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นส่วนตัว เรียกว่าได้เสพศิลปะความเป็นญี่ปุ่นผ่านทั้งบรรยากาศและคอร์สโอมากาเสะเบื้องหน้ากันได้อย่างเต็มอิ่ม และเมื่อเปิดประตูร้านเข้าไปจะพบเคาน์เตอร์ต้อนรับพร้อมพนักงานที่จะทักทายคุณอย่างอบอุ่น ซึ่งภายในประกอบด้วยโซนรับรองและโซนห้องโอมากาเสะ ที่มีห้องใหญ่จุได้ 12 ที่นั่ง และห้องไพรเวตที่เป็นส่วนตัวขึ้นมาอีกนิดที่จุได้เต็มที่ 8 ที่นั่ง
คอร์สโอมากาเสะของ Mono Sei Omakase มีให้เลือกด้วยกัน 2 คอร์ส (คอร์สละ 12,000 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ได้แก่ คอร์ส Sushi Omakase เสิร์ฟซูชิระดับพรีเมียมสดใหม่ และคอร์ส Sushi Omakase with Tempura ที่ถูกรังสรรค์เพื่อเป็นทางเลือกให้ลูกค้าที่ชื่นชอบทั้งซูชิและเทมปุระได้รับประทานทั้งสองอย่างไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งแต่ละคอร์สจะได้อิ่มเอมไปกับเมนูอาหารชั้นเลิศที่เชฟได้คิดค้นและประดิดประดอยขึ้นเป็นคอร์สสุดพิเศษกว่า 24 – 27 จาน ในเวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยเมนูทั้งสองคอร์สจะไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่ดีและสมบูรณ์แบบที่สุดที่จัดหาได้ในวันนั้น โดยเชฟจะทำการปรับเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ทำให้ลูกค้าได้รับประทานอาหารที่แปลกใหม่ทว่าคงไว้ซึ่งรสชาติดั้งเดิมแท้ ๆ อยู่เสมอ และนี่คืออีกหนึ่งเสน่ห์ของ Mono Sei Omakase
เมนูซิกเนเจอร์ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ได้แก่ Tempura Uni เทมปุระสาหร่ายแป้งบางกรอบห่ออูนิหรือไข่หอยเม่นชั้นดีที่ปรุงรสอย่างพิถีพิถัน แล้วท็อปด้วยคาเวียร์และทองคำบริสุทธิ์ ซึ่งยิ่งทานคู่กับซอสเทมปุระสูตรเฉพาะของทางร้าน ยิ่งเพิ่มความอร่อย โดยอูนิที่รสชาติสมบูรณ์ที่สุดจะเป็นช่วงเดือนสิงหาคม และความพิเศษของเมนูเทมปุระทุกชนิดของที่นี่ก็คือ จะเสิร์ฟมาพร้อมกับเกลือรสชาติต่าง ๆ ถึง 5 ชนิด อาทิ เกลือพริกไทย เกลือชาเขียว เป็นต้น ที่จะช่วยทำให้รสชาติอาหารของคุณมีมิติและสนุกยิ่งขึ้น Tukuri เมนูซาซิมิ 3 ชนิดที่เชฟจะเลือกสรรให้ อาทิ ปลามาไดซึ่งเป็นปลาเกรดดีที่สุดในตระกูลปลาญี่ปุ่น ล็อบสเตอร์สด เนื้อเด้ง และจูโทโร่เนื้อแน่นที่ให้รสหวาน เป็นต้น ซึ่งจะเสิร์ฟมาพร้อมดอกไม้ที่สามารถทานได้ โดยวิธีการทานก็คือ ต้องตบดอกไม้ด้วยมือใส่ลงไปในโชยุ เพื่อให้มีกลิ่นหอมและเพิ่มความกลมกล่อมให้กับรสชาติยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีเมนูอีกมากมายให้ได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็น Mozuku Su สาหร่ายโมซุกุในซอสวิเนการ์ ท็อปด้วยอิคุระ ซึ่งว่ากันว่าเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวโอกินาว่า และเป็นแหล่งของพอลิแซ็กคาไรด์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า Fucoidan ที่ใช้เป็นตัวช่วยในการรักษาโรคมะเร็งและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ในส่วนของรสชาติจะมีรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ จึงเป็นเมนูล้างปากอย่างดีก่อนเข้าสู่เมนคอร์สด้วย Mushi Awabi หอยเป๋าฮื้อต้มเนื้อนุ่มแน่น เสิร์ฟพร้อมซอส 2 รสชาติ ได้แก่ ซอสตับหอยเป๋าฮื้อที่คลุกเคล้าปรุงรสกับไข่แดง และซอสตับหอยเป๋าฮื้อที่คลุกเคล้าปรุงรสกับสาหร่าย Shinysu Mushi โซบะนึ่งด้วยแป้งบัควีทและเผือกแสนอร่อยจากจังหวัดนากาโน่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพื้นที่ผลิตโซบะที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
และอีกหลากหลายเมนูที่น่าจะโดนใจเหล่าฟู้ดดี้อาหารญี่ปุ่น อย่าง Ankimo ฟัวกราส์แห่งท้องทะเล หรือตับของปลาอังโกะ ปลาทะเลน้ำลึกของประเทศญี่ปุ่นที่มีรสชาติหวาน ให้เนื้อสัมผัสแน่นหนึบแต่นุ่มนวล ซึ่งเชฟจะนำไปต้มกับซอสดาชิ แล้วเสิร์ฟพร้อมกับวาซาบิขูดสด Kegani เนื้อปูขนเกรดพรีเมียม ท็อปด้วยมันปูและซอสคานิซุที่เข้ากันอย่างลงตัว เป็นต้น ส่วนเมนูเซอร์ไพรส์หมุนเวียนเปลี่ยนไปตามวัตถุดิบชั้นยอดของแต่ละฤดูกาล อาทิ ปลาอายุราชินีแห่งสายน้ำ ที่มีกลิ่นหอมหวานสดชื่น ปลาดาบเงินซึ่งเป็นปลาฤดูร้อนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น ปลาทูน่าสายพันธุ์บลูฟินที่เติบโตตามธรรมชาติ และมีรสชาติดีกว่าปลาทูน่าทั่วไป เป๋าฮื้อดำหรือราชาแห่งหอยเป๋าฮื้อ เนื้อมัตสึซากะที่นุ่มละลายในปาก และวัตถุดิบชั้นเลิศอีกมากมาย ที่เชฟจะเลือกเฟ้นมารังสรรค์เป็นเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อส่งมอบความอร่อยและช่วงเวลาที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า
เช่นนั้นจึงพลาดไม่ได้ที่จะจัดลำดับให้ Mono Sei Omakase เข้าไปอยู่ในลิสต์ร้านโอมากาเสะชั้นเลิศสุดพรีเมียมที่ต้องแวะไปลิ้มลองรสชาติให้ได้อีกแห่ง