Maserati Levante Hybrid เอสยูวีขุมพลังไฮบริดสุดล้ำแห่งยุคยนตรกรรมไฟฟ้า

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 61 | คอลัมน์ On the Move

file

หากเอ่ยถึงรถยนต์สปอร์ตและซาลูนทรงโฉบเฉี่ยวที่แฝงจิตวิญญาณของรถแข่งเอาไว้แทบทุกอณู ชื่อของ “มาเซราติ” รถยนต์ไฮเอนด์ระดับตำนานสัญชาติอิตาเลียน เจ้าของตราสัญลักษณ์ “ตรีศูล” ที่สร้างชื่อเสียงมานานนับศตวรรษ ต้องได้รับการจัดอยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ แน่นอน

หลังจากเปิดตัว “กิบลี่ ไฮบริด” (Ghibli Hybrid) รถยนต์ที่ใช้การขับเคลื่อนระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นรุ่นแรกเมื่อสองปีก่อน วันนี้มาเซราติสร้างความฮือฮาให้กับโลกยานยนต์อีกครั้งกับ “เลอวานเต้ ไฮบริด” (Levante Hybrid) ลักชัวรีเอสยูวีรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของค่ายตรีศูล ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แบบไฮบริดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีอัตราการใช้เชื้อเพลิงที่คุ้มค่า แต่ยังคงไว้ซึ่งพละกำลังสูง พร้อมเสียงเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะแบบ “Maserati Signature Sound” ที่หลายคนหลงใหล

ตอกย้ำอนาคตแห่งโลกยนตรกรรมไฟฟ้า

ราวสองปีก่อนมาเซราติเริ่มก้าวเข้าสู่ยุคของยนตรกรรมไฟฟ้า ด้วยการส่งกิบลี่ ไฮบริด เข้าสู่ตลาดและได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด ทำให้การมาถึงของ “เลอวานเต้ ไฮบริด” เปรียบเสมือนก้าวที่สองของการเข้าสู่ยุคยานยนต์แห่งอนาคต โดยได้รับการออกแบบให้เป็นรถที่ขับสนุก มีประสิทธิภาพรอบด้าน พร้อมเสียงกระหึ่มเร้าใจ ซึ่งเป็นผลมาจากการนำเทคโนโลยีไฮบริดมาใช้ ทำให้เครื่องยนต์บล็อกนี้ตอบสนองได้ดีตั้งแต่รอบต่ำไม่ต่างจากเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ แต่ให้ความประหยัดสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น

เอสยูวีพิกัด Mid-size คันนี้ยังเปรียบเสมือนตัวแทนที่แสดงถึงมาตรฐานใหม่ของมาเซราติอย่างเต็มเปี่ยม ซึ่งได้ประกาศตั้งเป้าไว้ว่า รถรุ่นใหม่ในอนาคตทั้งหมดจะผ่านการพัฒนา ผลิต และประกอบที่โรงงานของมาเซราติในประเทศอิตาลี 100% และต้องมีเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอันล้ำสมัยเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยก้าวที่สามต่อจากนี้ไปจะเป็นการเปิดตัวรุ่น “กรันทูริสโม โฟลกอเร” (GranTurismo Folgore) ยนตรกรรม GT ที่ขับเคลื่อนด้วย “ไฟฟ้าล้วน” (EV) ซึ่งจะเป็นรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของมาเซราติอีกเช่นกัน

ภาพลักษณ์สปอร์ตเร้าใจ ผสานเส้นสายโค้งมนสวยงาม

“เลอวานเต้ ไฮบริด” ใช้โครงสร้างเหล็กผสมอะลูมิเนียมที่แข็งแกร่งตามมาตรฐานของมาเซราติ ด้านหน้าออกแบบเป็นกระจังขนาดใหญ่ประดับสัญลักษณ์ตรีศูลเด่นชัด พร้อมกันชนหน้าและหลังแบบสปอร์ต ไฟหน้าดีไซน์เฉียบคมและสามารถปรับการส่องสว่างตามการหมุนของพวงมาลัยได้ด้วยระบบ Full-LED Adaptive Matrix เสริมด้วยไฟท้าย Full-LED และเพิ่มความดุดันยิ่งขึ้นด้วยสปอยเลอร์หลังคาและปลายท่อไอเสียคู่สองฝั่ง ถัดมาที่ด้านข้างจะพบกับช่องระบายอากาศ 3 ช่อง คล้ายเหงือกปลาอันเป็นเอกลักษณ์ของค่ายตรีศูล พร้อมด้วยตรา GT ที่ประดับไว้ด้านบน ส่วนช่วงท้ายบริเวณเสา C มีการติดตั้งโลโก้ตรีศูลที่ตำแหน่งเดียวกันกับมาเซราติทุกรุ่น สอดรับกับเส้นสายตัวถังที่คงคอนเซ็ปต์การเป็นเอสยูวีทรงสปอร์ตได้อย่างกลมกลืนตั้งแต่หัวจรดท้าย

file
file

ขุมพลังเครื่องยนต์บล็อกใหม่แบบ Mild Hybrid

ไฮไลต์อยู่ที่ใต้ฝากระโปรงอันทรงพลังของเลอวานเต้ ไฮบริด ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร ที่ทำงานผสานกับระบบไฟฟ้า BSG (Belt Starter Generator) 48 โวลต์ และอิเล็กทรอนิกส์ซูเปอร์ชาร์จ (eBooster) ให้พละกำลังสูงสุดถึง 330 แรงม้า (HP) ที่ 5,750 รอบ/นาที และแรงบิด 450 นิวตันเมตร ที่ 2,250 รอบ/นาที ส่งกำลังสู่ล้อทั้ง 4 แบบ AWD ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ โดยสามารถสร้างอัตราเร่ง 0 - 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายใน 6.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 240 กิโลเมตร/ชั่วโมง พร้อมระบบช่วงล่างแบบถุงลมที่ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน คาลิปเปอร์เบรกขนาดใหญ่สีน้ำเงินพิเศษเฉพาะในรุ่นไฮบริด และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง

ประณีตสง่างามตามแบบฉบับรถยนต์อิตาเลียน

ห้องโดยสารของเลอวานเต้ ไฮบริด สะกดทุกสายตาด้วยดีไซน์แผงคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง แผงข้างประตู รวมถึงเบาะนั่งสุดหรูหราโทนสีแดงสด ที่ตกแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยวัสดุชั้นเลิศ อาทิ หนังเกรด Premium Fine Grain Leather ที่ตัดเย็บอย่างประณีต เบาะคู่หน้าปรับด้วยระบบไฟฟ้า 12 ทิศทางในฝั่งคนขับและ 8 ทิศทางในฝั่งคนนั่ง พร้อมเมมโมรีจดจำตำแหน่งเบาะ พวงมาลัยทรงสามก้านแบบมัลติฟังก์ชันที่ช่วยให้ควบคุมและตั้งค่าต่าง ๆ ของรถได้อย่างสะดวก ทั้งยังมี Paddle Shift สำหรับปรับจังหวะเกียร์สไตล์สปอร์ตได้จากพวงมาลัย

นอกจากนี้ บริเวณส่วนกลางยังติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนต์ (Infotainment) ผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาด 8.4 นิ้ว เพื่อควบคุมการทำงานของระบบบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นวิทยุดิจิทัล เครื่องเล่นเพลง ระบบนำทางเนวิเกเตอร์ และการเชื่อมต่อบลูทูธ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto รวมถึงระบบ Maserati Connect และ Google Assistant อีกด้วย โดยมาเซราติ เลอวานเต้ ไฮบริด เปิดตัวในราคาเริ่มต้นที่ 7.99 ล้านบาท

เรียกได้ว่าสมกับการเป็นเฮอริเทจพรีเมียมคาร์ที่ผสานส่วนผสมของความหรูหราและความเป็นเอสยูวีทรงสปอร์ตได้อย่างสมบูรณ์แบบ