5 พิพิธภัณฑ์ระดับโลก ที่ต้องไปชมสักครั้ง

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 63 | คอลัมน์ Living Art

file

เจอร์รี ซอลต์ซ (Jerry Saltz) นักวิจารณ์ศิลปะรางวัลพูลิตเซอร์ (Pulitzer  Prizes) เคยเรียกพิพิธภัณฑ์ว่าเป็น “รูหนอนสู่โลกอื่น” นั่นเพราะพิพิธภัณฑ์ไม่ใช่แค่สถานที่ให้ความรู้แก่สังคม แต่ยังนำผู้คนข้ามเวลาไปยังอดีตและอนาคต พร้อมค้นพบแรงบันดาลใจและความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในปี 2023 จะมีพิพิธภัณฑ์จากทั่วโลกแห่งไหนที่น่าสนใจบ้าง TRUST ฉบับนี้ได้คัดสรรมาให้แล้ว ตั้งแต่พิพิธภัณฑ์ทรงสามเหลี่ยมที่พาย้อนเวลาสู่อารยธรรมโบราณ ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ทรงกลมแห่งอนาคตที่สร้างโดยหุ่นยนต์ มาเดินทางสู่โลกใบใหม่เพื่อไปสัมผัสศิลปวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอันงดงาม ตลอดจนนวัตกรรมอันน่าตื่นตาตื่นใจด้วยกัน

 

 

Grand Egyptian Museum

Giza, Egypt

สำหรับผู้ที่หลงใหลในเรื่องประวัติศาสตร์และความลี้ลับน่าพิศวงของอาณาจักรอียิปต์โบราณ คงตั้งตารอการเปิดตัวของ Grand Egyptian Museum (GEM) ที่เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2011 และตามกำหนดการคาดว่าจะเปิดให้เข้าไปชมโลกไอยคุปต์แห่งนี้ได้ในปี 2023

file

GEM ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับมหาพีระมิดกิซา ออกแบบโดยบริษัทสถาปัตยกรรมสัญชาติไอริช Heneghan Peng ตัวอาคารเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมตามเอกลักษณ์ของพีระมิด ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยเกือบ 500,000 ตร.ม. โดยมากกว่า 2 เท่าของพิพิธภัณฑ์ Metropolitan Museum of Art (MET) ในนิวยอร์กซิตี้ สำหรับพื้นที่จัดแสดงมีทั้งบนดินและไล่ระดับความลึกลงไปใต้ดิน เพื่อไม่ให้รบกวนการชมวิวโบราณสถานภายนอกที่มีอยู่เดิม 

ภายในประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการประชุม พื้นที่การศึกษา โรงภาพยนตร์ 3 มิติ ขนาด 250 ที่นั่ง พิพิธภัณฑ์สำหรับเด็ก รวมถึงร้านค้าและร้านอาหาร ซึ่งเมื่อเสร็จสมบูรณ์จะกลายเป็นพิพิธภัณฑ์โบราณคดีที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะไม่เพียงรวบรวมโบราณวัตถุของอารยธรรมลุ่มแม่น้ำไนล์ไว้อย่างครบถ้วนที่สุดกว่า 10,000 ชิ้น แต่ยังมีโบราณวัตถุกว่า 5,400 ชิ้น จากหลุมฝังศพของตุตันคาเมนที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณชนมาก่อน รวมถึงรูปปั้นขนาดมหึมาอายุ 3,200 ปี

ของฟาโรห์แรเมซีสที่ 2 พร้อมเบื้องหลังการสำรวจและการอนุรักษ์ อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีระดับไฮเอนด์ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มประสบการณ์ของผู้เข้าชมให้ดำดิ่งไปสู่โลกอารยธรรมอียิปต์อย่างสมบูรณ์

Grand Egyptian Museum

West Kowloon, Hong Kong

ใครไปชอปปิงที่ฮ่องกงครั้งหน้า อย่าลืมจัดเวลาไปเดินชมงานศิลปะ ซึ่งนอกจากจะมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย M+ Museum ที่ทางฮ่องกงตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ด้าน Visual Culture ระดับโลกแห่งแรกของเอเชียแล้ว ในเขตวัฒนธรรมเกาลูนตะวันตกของฮ่องกงยังมีพิพิธภัณฑ์ Hong Kong Palace Museum ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อกลางปี 2022 ที่ผ่านมา โดยเป็นการนำโบราณวัตถุซึ่งสะท้อนศิลปวัฒนธรรมจีนดั้งเดิมจากพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามในกรุงปักกิ่งมาให้ชมกันอย่างจุใจกว่า 900 รายการ ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด ภาพเขียนตัวอักษร หนังสือหายาก และผลงานศิลปะ ฯลฯ ในรูปแบบนิทรรศการหมุนเวียนซึ่งหลายรายการยังไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน อีกทั้งยังมีคอลเลกชันงานศิลปะล้ำค่าจากพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) ในฝรั่งเศสและสถาบันศิลปวัฒนธรรมของชาติอื่นมาจัดแสดงร่วมด้วย

file

ในส่วนของอาคารพิพิธภัณฑ์โดดเด่นด้วยสไตล์สถาปัตยกรรมจีนโบราณแบบแนวตั้ง ซึ่งต่างจากสถาปัตยกรรมจีนโบราณแบบเดิมที่ตัวอาคารมีความสูงน้อย แต่เน้นที่ความกว้างและเพดานต่ำ โดยพิพิธภัณฑ์นี้มีความสูง 7 ชั้น และ 9 ห้องจัดแสดง ออกแบบให้มีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมทั้งแสงเงาและหมู่เมฆ บวกด้วยความล้ำหน้าของเทคโนโลยี 3 มิติ ที่ช่วยเสริมประสบการณ์การชมในแต่ละช่วงวันเวลาและสภาพอากาศที่แตกต่างกันไป  นอกจากนี้  ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีศูนย์การเรียนรู้ ห้องกิจกรรม ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และห้องโถงใหญ่ที่มีจุดชมวิว  ซึ่งสามารถมองเห็นเส้นขอบฟ้าของเกาะฮ่องกง รวมถึงภูมิทัศน์ของเกาะลันเตา

file

Robot & AI Museum

Seoul, South Korea

เกาหลีใต้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีที่มีการใช้หุ่นยนต์ในชีวิตประจำวันและหุ่นยนต์อุตสาหกรรมสูงที่สุดในโลก และอีกไม่นานเราคงจะได้เห็นความน่าทึ่งของพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์หุ่นยนต์แห่งแรกของเกาหลีใต้ ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในปี 2023 โดยตั้งอยู่ย่านชางดง (Chang-dong) ศูนย์กลางทางวัฒนธรรมแห่งอนาคตทางตอนเหนือของกรุงโซล

 

พิพิธภัณฑ์ทรงกลมสุดล้ำนี้ ออกแบบโดย Melike Altınışık สถาปนิกชื่อดังและผู้ก่อตั้ง Melike Altınışık Architects (MAA) ในตุรกี ภายในพิพิธภัณฑ์ไม่เพียงจัดแสดงนวัตกรรมด้านหุ่นยนต์ แต่หุ่นยนต์ยังมีส่วนสำคัญในการเป็นผู้ช่วยออกแบบ ผลิต และสร้างโครงสร้างของอาคารพิพิธภัณฑ์ด้วย เช่น การขึ้นแบบประกอบและขัดเงาส่วนต่าง ๆ รวมถึงในส่วนของแลนด์สเคปที่เป็นงานคอนกรีต และภูมิทัศน์โดยรอบก็จะใช้เทคนิคการพิมพ์ 3 มิติ (3D) ที่ใช้โดรนในการสำรวจพื้นที่และตรวจสอบสถานที่โดยมีหุ่นยนต์ช่วยสร้างแผนที่ไซต์ก่อสร้างและควบคุมยานพาหนะ

นอกจากนี้ Robot & AI Museum ยังจัดแสดงพัฒนาการล่าสุดของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เทคโนโลยีเสมือนจริง (AR & VR) เทคโนโลยีโฮโลแกรม (Hologram) และวิทยาการหุ่นยนต์ต่าง ๆ อีกมากมาย ตลอดจนหลักสูตรอบรมว่าด้วยเรื่องของความก้าวหน้าในวิทยาการหุ่นยนต์ให้แก่ผู้ที่สนใจด้วย

 

file
file
file

Grand Egyptian Museum

Oslo, Norway

เปิดให้คนรักศิลปะเข้าชมกันแล้วสำหรับพิพิธภัณฑ์ศิลปะใหม่ล่าสุดสองแห่งของนอร์เวย์ที่ตั้งอยู่บริเวณริมอ่าว Bjørvika เริ่มด้วย Nasjonalmuseet หรือ National Museum of Norway พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในแถบประเทศนอร์ดิก เพราะเป็นที่ตั้งที่รวบรวมทั้งหอศิลป์แห่งชาติ พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยและพิพิธภัณฑ์มัณฑนศิลป์และการออกแบบ เอาไว้ในที่เดียว โดยจัดแสดงผลงานมากกว่า 100,000 ชิ้น ครอบคลุมทั้งด้านสถาปัตยกรรม การออกแบบ และงานศิลปะจากศิลปินชาวนอร์เวย์และนานาชาติ

Nasjonalmuseet ถูกออกแบบในสไตล์โมเดิร์น โดยสถาปนิกชาวเยอรมัน Klaus Schuwerk ตัวอาคารเป็นรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ที่มองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของศาลาว่าการและบรรยากาศริมน้ำของเมืองออสโล โดดเด่นด้วยชั้นรูฟท็อปที่เป็นโถงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นห้องจัดแสดงเรียกว่า Light  Hall ตกแต่งผนังด้วยไฟ LED จนดูสว่างไสวและกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กยามค่ำคืนของเมืองแห่งนี้ อีกทั้งออสโลยังได้ชื่อว่าเป็นปอดของยุโรปเพราะให้ความสำคัญและจริงจัง

ในเรื่องของการดูแลสิ่งแวดล้อมและมลพิษ อาคารแห่งนี้จึงถูกออกแบบให้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงอย่างน้อยร้อยละ 50 ด้วย

ส่วนใครอยากชื่นชมผลงานของจิตรกรระดับโลกชาวนอร์เวย์ Edvard Munch เจ้าของภาพวาด The Scream แบบเจาะลึก ต้องไม่พลาดไปเยือน Munchmuseet หรือ Munch Museum พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมผลงานและเรื่องราวชีวิตของเขาเอาไว้มากมายถึง 11 ห้องจัดแสดง ภายในอาคารสไตล์โมเดิร์นมีดีไซน์บิดเบี้ยวเพื่อสะท้อนแรงบันดาลใจจากภาพวาด The Scream ทั้งยังนำวัสดุรีไซเคิลมาเป็นส่วนประกอบอาคารตามเทรนด์สถาปัตยกรรมแห่งอนาคตอีกด้วย และแน่นอนว่าภาพต้นฉบับ The  Scream ก็อยู่รอให้แฟนคลับมาชมกันที่