file

“วัคซีนพืช” นวัตกรรมช่วยคน ช่วยโลก

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 38 | คอลัมน์ Giving

ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะตอบคําถามในใจของสัตวแพทย์คนหนึ่ง นํา ไปสู่การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ เพื่อแก้ปัญหาโรคภัยไข้เจ็บจากการใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมีของเกษตรกร การบริโภคพืชผักปนเปื้อนสารเคมี ของผู้บริโภค และบรรเทาปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นพิษอย่างยั่งยืน

มนุษย์เราเรียนรู้และค้นพบเรื่องราวต่างๆ มากมายบนโลกใบนี้ แต่จากเวที TEDxBangkok 2016 งานทอล์คสร้างแรงบันดาลใจที่ผ่านมา เราตระหนักได้ว่า สิ่งที่ยังรอคอยการค้นพบนั้น ยังมีอีกมากมายมหาศาล นักประดิษฐ์คิดค้น มักมีจุดเริ่มต้นจากการตั้งคำถามกับปัญหาที่ เผชิญอยู่ และมุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อสร้างสรรค์ หนทางที่จะมาแก้ปัญหานั้น หลายครั้งสิ่งที่ พวกเขาค้นพบ ส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อ มนุษยชาติ ตัวอย่างเช่น เรื่องราวของบุคคลที่ กำลังจะกล่าวถึงนี้ สิ่งที่เขาค้นพบถือเป็นการ พลิกโฉมกระบวนการทำเกษตรเข้าสู่เทรนด์ ใหม่อย่างแท้จริง นั่นคือ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ ธรรมชาติขึ้นมาทดแทนการใช้สารเคมีและ ยาฆ่าแมลง ที่เรียกว่า “วัคซีนพืช” เพื่อตัด ปัญหาที่ต้นตอ ทั้งด้านสุขอนามัยของเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมดังกล่าวนี้ ได้รับความสนใจไปทั่วโลก ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย ผลงานอันน่าทึ่งนี้เป็นของคนไทย ซึ่ง TRUST อยากแนะนำให้ทุกท่านร่วมภาคภูมิใจ

บุคคลผู้ริเริ่มหาวิธีผลิตวัคซีนพืชขึ้นมาใช้ ป้องกันโรคในพืช ก็คือ “นายสัตวแพทย์กษิดิ์เดช ธีรนิตยาธาร” ประธานเจ้าหน้าที่นวัตกรรม (Chief Innovation Office) บริษัท กรีน อินโนเวทีฟ ไบโอเทคโนโลยี จำกัด (GIB) สัตวแพทย์ผู้หัน มาทำงานวิจัยทางด้านพืช โดยมีที่มาจากจุด เริ่มต้นของการตั้งคำถามที่ว่า จะทำอย่างไรให้ เกษตรกรไทยเลิกใช้สารเคมี ยาฆ่าแมลง และ ยาปฏิชีวนะ แล้วหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ เพื่อความปลอดภัยของเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

 

Bootstrap Image Preview
 

 

“ปกติเกษตรกรจะฉีดยาอะม็อกซีซิลลิน และแอมพิซิลลิน ในต้นส้ม (10-20 เข็มต่อต้น) ทุก 3 เดือน ฉีดยาฆ่าแมลงทุก 3 วัน แล้วแว็กซ์ ส้มเพื่อให้สวยงามก่อนส่งไปขาย ลองนึกภาพดู สารเคมีจำนวนหลายแสนตันเหล่านั้นจะไปอยู่ ที่ไหน... ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคเป็นมะเร็ง... ประเทศต้องน้ำเข้ายารักษามะเร็ง... พืชน้ำ... สัตว์น้ำหลายชนิดกำลังจะสูญพันธุ์...” คำพูด จากเวที TEDxBangkok ที่ น.สพ. กษิดิ์เดช กล่าว เมื่อไม่สามารถแก้ปัญหาอาหารปนเปื้อน สารเคมีได้ เขาจึงหันมาทำวิจัยเกี่ยวกับพืช ที่ถือเป็นต้นน้ำของห่วงโซ่อาหารของคนเรา โดย นำความรู้ทางการแพทย์มาปรับใช้กับพืช และได้ คิดค้นนวัตกรรมวัคซีนสำหรับพืช ที่สกัดจาก เปลือกกุ้ง กระดองปู และแกนหมึก ซึ่งเป็นขยะ ที่มีอยู่มหาศาล วัคซีนนี้ทำให้พืชสามารถสร้าง ภูมิต้านทานด้วยตัวเอง แก้ปัญหาการใช้สารเคมี กำจัดศัตรูพืช ช่วยให้พืชทนต่อสภาพอากาศ และแมลงได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรสามารถ ใช้ปุ๋ยได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดมากขึ้น

“วัคซีนนี้ทำให้พืชสร้างเซลล์ทนต่อแมลงกัด ทำให้ขนใบข้าวแหลมคมกว่าเดิม และสามารถ สร้างเอนไซม์ทำลายหนอน” น.สพ. กษิดิ์เดช เล่าถึงงานวิจัยซึ่งไม่ได้ทำแค่ในห้องแล็บ แต่ยัง ได้วิจัยทางการเกษตรเพื่อทดลองพืช 40 สปีชีส์ ครอบคลุมกว่า 50 จังหวัด และทดลองไปถึง พื้นที่ในยุโรปและจีน แม้จะใช้เวลานาน แต่ผล ที่ได้รับนับว่าคุ้มค่า เขาบอกทิ้งท้ายว่า “ก่อนอื่น เราต้องเชื่อในสิ่งที่ทำ ทำในสิ่งที่เชื่อ และทน แรงเสียดทานจากสังคม ที่สำคัญต้องใช้คุณธรรม นำความคิดและธุรกิจ”

 

Bootstrap Image Preview
 
“ปกติเกษตรกรจะฉีดยาอะม็อกซีซิลลิน และแอมพิซิลลิน ในต้นส้ม (10-20 เข็มต่อต้น) ทุก 3 เดือน ฉีดยาฆ่าแมลงทุก 3 วัน แล้วแว็กซ์ส้มเพื่อให้สวยงามก่อนส่งไปขาย ลองนึกภาพดู สารเคมีจํา นวนหลายแสนตัน เหล่านั้นจะไปอยู่ที่ไหน...”

9 ปี ของการวิจัยก่อนจะมาเป็น วัคซีนพืช

งานวิจัยชิ้นนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นการพัฒนา เป็นโปรดักส์ออกจำหน่าย แต่นี่คือธุรกิจที่ให้ ประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ และยังเป็นผลดีต่อ ประเทศชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องใช้เวลาวิจัย และพัฒนานานถึง 9 ปี กว่าจะมาเป็นที่มาของ “วัคซีนพืช” แบรนด์ BIG ที่เกิดจากนักวิจัย หลายศาสตร์วิชาชีพมาร่วมกันคิดค้นแก้ปัญหา ประกอบกับความเป็นผู้ประกอบการของ น.สพ. กษิดิ์เดช ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนา โปรดักส์นี้ขึ้นมา สาเหตุก็มาจากปัญหาเรื่อง การใช้สารเคมีกำจัดแมลงในพืช และยา ปฏิชีวนะ ที่มีการนำเข้าปีละ 150,000 ตัน รวมทั้งต้องการแก้ไขปัญหาในเรื่องของการ รับประทานอาหารปลอดสารเคมี และความ ยั่งยืนในเรื่องอาหาร ที่เป็นเทรนด์แห่งอนาคต พร้อมทั้งศึกษาความต้องการของเกษตรกร ที่ต้องการต้นทุนถูกลง และเพิ่มผลผลิต โดย ผลิตภัณฑ์นั้นต้องออกฤทธิ์เทียบเท่าการใช้ สารเคมี แต่ไม่มีสารตกค้างที่เป็นอันตรายใดๆ

น.สพ. กษิดิ์เดช ตั้งต้นงานวิจัยด้วยโจทย์ ของฝั่งเกษตรกร และเทรนด์โลก พัฒนาแบบ Learning by Doing ติดตรงไหนก็วิ่งหา ผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการนักวิจัยสาขานั้นๆ ตาม หน่วยงานอย่าง สวทช. สำนักนวัตกรรมแห่งชาติ (วช.) มหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จนได้ผลิตภัณฑ์ ที่เป็นการผสมผสานองค์ความรู้ โดยนำวิธีการ แบบที่ใช้ผลิตยารักษาคน มาใช้ในการสร้าง ภูมิคุ้มกันให้พืช

วัคซีนพืชที่คิดค้นได้นี้ มาจากธรรมชาติที่ จะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ เพราะสกัดจาก เปลือกกุ้งและปู และพืชสมุนไพรผ่านเทคโนโลยี ต่างๆ ที่เป็นวิธีเดียวกับที่ใช้ในการรักษาคน เช่น วิธีลำเลียงตัวยาไปสู่เป้าหมายที่คนไข้เป็น เจ็บตรงไหนยาจะต้องไปรักษาตรงนั้น ด้วยการ นำนาโนเทคโนโลยี คือ การทำให้อนุภาคของ ตัวยาที่สกัดมามีขนาดจิ๋วมาก ทะลุผ่านไปถึง จุดที่เป็นปัญหาโดยเร็ว วิธีการเคลือบผิวเพื่อให้ ตัวยาเดินทางไปที่จุดหมาย ไม่ละลายออกฤทธิ์ ระหว่างทาง และการใช้เทคนิคในการเปลี่ยน โครงสร้างเคมีเป็นอินทรีย์ เพื่อให้ต้นไม้ดูดซึม ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเทคนิคต่างๆ เหล่านี้ ทำให้ต้นไม้ ทนต่อสภาพอากาศร้อนจัดหนาวจัดได้ ทนต่อ แมลง เชื้อโรค และเมื่อได้ผลดียังสามารถ สร้างผลกำไรจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นได้ถึงไร่ละ 2 หมื่นบาท

 

Bootstrap Image Preview
 
“งานวิจัยชิ้นนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นการพัฒนาเป็นโปรดักส์ ออกจํา หน่าย แต่นี่คือธุรกิจ ที่ให้ประโยชน์กับคนส่วนใหญ่ และยังเป็นผลดีต่อประเทศชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องใช้เวลาวิจัยและพัฒนานานถึง 9 ปี กว่าจะมาเป็นที่มา ของ ‘วัคซีนพืช’ แบรนด์ BIG”

รางวัลระดับนานาชาติยืนยัน มาตรฐานความสำเร็จ

วัคซีนพืช BIG นี้ นอกจากนำมาใช้ได้ผลดี ต่อเกษตรกรแล้ว ยังผ่านการประกวดและได้รับ รางวัลจากเวทีนวัตกรรมทั้งในและต่างประเทศ มากกว่า 8 เวที เช่น รางวัลชนะเลิศ 7 Innovation Award ในด้านสังคม รางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ด้านเศรษฐกิจ Silver Prize และ Special Award จากงาน “Seoul International Invention Fair 2014” สาธารณรัฐเกาหลี รางวัล Gold Medal, “Vaccin Pour Plantes” และ Diplome Inventions Geneva รางวัลเหรียญทองจาก งาน International Exhibition of Inventions Geneva ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ครั้งที่ 43

ด้วยความสำเร็จที่ส่งผลจนเป็นที่ยอมรับ ในวงกว้างไปทั่วโลก ทำให้วัคซีน BIG ได้รับ ความสนใจจากหลายประเทศ โดยเฉพาะกลุ่ม ที่ต้องการชูเรื่องอาหารออร์แกนิก เช่น บริษัท “GEOMICO” ซึ่งอยู่ในกลุ่มแชงกรี-ลา ที่มีการ เจรจาเพื่อใช้ในซัพพลายเชนอาหารในเครือ โรงแรมของประเทศจีน พร้อมทั้งเซ็นสัญญาทำ ตลาดสินค้าในประเทศจีนและมาเลเซียเฉลี่ย 12 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อปี โดยในมาเลเซียอยู่ ระหว่างการเจรจาเพื่อใช้ในสวนปาล์ม และ สับปะรด ส่วนอินเดียอยู่ระหว่างการทดสอบว่า จะใช้ในอากาศหนาวจัดและร้อนจัดแบบ อินเดียได้หรือไม่ แม้แต่ในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) ก็สนใจ ผลิตภัณฑ์นี้ และอยู่ระหว่างการศึกษาโปรดักส์ เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อจะทำตลาดเกษตร อินทรีย์ในกลุ่มประเทศ CLMV ต่อไป

 

Bootstrap Image Preview
 
“ด้วยความสํา เร็จที่ส่งผลจนเป็นที่ยอมรับในวงกว้างไปทั่วโลก ทํา ให้วัคซีน BIG ได้รับความสนใจจากหลายประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการชูเรื่องอาหารออร์แกนิก”

สำหรับวัคซีนพืช BIG ปัจจุบัน มีจำหน่าย ในขนาดขวด 1 ลิตร ในราคาขวดละ 1,890 บาท ปัจจุบันมียอดขายอยู่ที่ 50-80 ล้านบาท และ สิ้นปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท จากการค้าผ่านกลุ่มแชงกรี-ลาในจีน นับเป็น การต่อยอดความคิดที่ทำรายได้ให้ธุรกิจอันเป็น นวัตกรรมที่สร้างประโยชน์แก่กลุ่มเกษตรกร ทั่วโลกที่ต้องการทำการเกษตรแบบปลอดจาก สารเคมีได้เป็นอย่างดี

นับเป็นตัวอย่าง​ที่น่าชื่นชม ด้วยแนวคิดการ ทำธุรกิจที่สร้างสรรค์และทำประโยชน์ให้แก่ผู้คน และสิ่งแวดล้อม ที่อยากให้คนไทยได้รับรู้และ สนับสนุนผลงานวิจัยและผลิตภัณฑ์ที่คนไทย ทำเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพเราและสิ่งแวดล้อม ที่ดีขึ้นต่อๆ ไป

ผู้สนใจวัคซีน “BIG” สามารถหาซื้อได้ที่ บริษัท จี.ไอ.บี.เทรดดิ้ง จำกัด เลขที่ 8/124 โครงการเวิร์คเพลส รัชดา-รามอินทรา ถนนกาญจนาภิเษก แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพฯ 10230 โทร. 0 2347 7588 แฟ็กซ์ 0 2347 7589