อาบอิ่มสายธารา สปาจากธรรมชาติ

เมื่อเอ่ยถึง 'จังหวัดกระบี่' คนส่วนใหญ่คงจะนึกถึงภาพ Unseen Thailand อย่างทะเลแหวก น้ําทะเลสีคราม หมู่เกาะมากมายนับร้อย และเลื่องชื่อมายาวนานในเรื่องความสวยงาม แม้แต่ชาวต่างชาติยังรู้จักไปทั่วโลก ทว่าสําหรับตัวผมที่เป็นคนซุกซนรักการท่องเที่ยวเพื่อเปิดมุมมองใหม่ๆ ได้ค้นพบว่ากระบี่ยังมีเรื่องราวดีๆ ให้สัมผัสอีกมากไม่ใช่แค่การออกทะเลเท่านั้น เพราะเมื่อเดินทางห่างออกมาจากอําเภอเมือง หรือโซนอ่าวนางที่ ปกติจะคลาคล่ําไปด้วยนักท่องเที่ยว เราจะได้สัมผัสบรรยากาศอีกมุมของความเป็น Green City และ Slow Town ของภาพสวนยางพารา สวนปาล์ม สวนผลไม้ และเทือกเขาหินปูนตระการตาปกคลุมด้วยป่าดงดิบเขียวๆ ช่างสร้างแรงบันดาลใจให้เราออกท่องโลกได้ดีเหลือเกิน

ความโดดเด่นหนึ่งที่ผมค้นพบก็คือ "อําเภอคลองท่อม" ของจังหวัดกระบี่ ที่อยู่ห่างจากอําเภอเมืองไปแค่เดินทางด้วยรถยนต์ 40 นาที นับเป็นแหล่งที่มีบ่อน้ําพุร้อนและ
สปาธรรมชาติอยู่อย่างสมบูรณ์และมากที่สุด แห่งหนึ่งของไทยเชียวล่ะ เพียงแต่ยังไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์จริงจัง คนส่วนใหญ่จึงยังไม่รู้จักนัก จึงพลาดแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพดีๆ เช่นนี้ไปอย่างน่าเสียดาย

กระแสการท่องเที่ยวของไทยและของโลกในเรื่องสุขภาพ หรือ Wellness and Health Tourism นับเป็นเทรนด์ที่กําลังมาแรงเพราะ คนทุกวันนี้หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น ไม่ว่าคนที่ยังแข็งแรงหรือคนป่วยที่ต้องการรักษาตัวก็ตาม การทําสปาด้วยวารีบําบัดหรือ การลงแช่น้ําพุร้อนตามธรรมชาติ ซึ่งมีอุณหภูมิเหมาะสม อยู่ในช่วง 30-40 องศาเซลเซียส) ช่วยให้อาการป่วยหลายอย่างบรรเทาหรือหายไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ เพราะในน้ําพุร้อนที่ผุดขึ้นมานั้นได้นําเอาแร่ธาตุอุดมคุณประโยชน์มาด้วย ทั้งช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่อง เลือดไหลเวียนดี รักษาโรคผิวหนัง รักษาโรค ไขข้อต่างๆ คงเพราะอย่างนี้การท่องเที่ยว เชิงสุขภาพไปแช่น้ําพุร้อนจึงเป็นที่นิยมกันทั่วโลกมาตั้งแต่ยุคกรีก-โรมัน หรือไม่ต่ํากว่า 3,000-4,000 ปีโน่นเลย แม้แต่ในยุโรปและญี่ปุ่นก็มีหลายเมืองที่ชูประเด็นเป็น Spa Town กันอย่างเป็นล่ําเป็นสัน

แหล่งท่องเที่ยวน้ําพุร้อน หรือน้ําแร่ร้อนธรรมชาติ ในอําเภอคลองท่อมหลักๆ มี 3 แห่ง เรียกว่า “Big 3” ประกอบด้วย สระมรกต ต.คลองท่อมเหนือ (เป็นน้ําพุเย็น), น้ําตกร้อน ต.คลองท่อมเหนือ และน้ําพุร้อนเค็ม ต.ห้วย น้ําขาว ซึ่งเที่ยวได้ง่ายเชื่อมโยงถึงกันได้สบายภายในครึ่งวัน (บวกเวลาลงแช่ด้วย) หรือถ้าใครมีเวลามากหน่อย จะเที่ยวเต็มวันแล้วอยู่ค้างคืนที่คลองท่อมให้เต็มอิ่มไปเลยก็ดี เพราะที่นี่เขามีรีสอร์ทน้ําพุร้อนที่ถือว่าดีที่สุดในเมืองไทยไว้บริการคือ “Wareerak Hot Spring Retreat” มีการสร้างบ่อน้ําแร่ร้อนในอุณหภูมิต่างๆ ไว้ภายในป่าไม้ร่มรื่นราวกับสระอโนดาตในป่าหิมพานต์ ทําให้เราได้ผ่อนคลายกายใจ โดยเฉพาะการลงแช่น้ําแร่ร้อนธรรมชาติในช่วงเช้าตรู่ 06.00-07.00 น. ที่อากาศยามเช้ายังเย็นสบายอยู่แลเห็นควัน กรุ่นลอยขึ้นจากผิวน้ําต้องกับแสงแดดสีทองยามเช้าที่สาดส่อง ยิ่งทําให้ตัวเรารู้สึกสดชื่นเป็นการเติมพลังชีวิตทั้งร่างกายจิตใจ (Body and Mind) ครบถ้วนในองค์รวม

ฉายา “คลองท่อม Spa Town” ไม่ใช่ว่าจะได้มาแบบฟลุคๆ แต่ Big 3 ของเขาเยี่ยมจริงๆ เริ่มกันที่ “สระมรกต” ซึ่งหลายคนอาจคุ้นกันดีอยู่แล้ว ตัวสระมรกตตั้งอยู่ภายใน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ - บางครามหรือเขานอจูจี้ (บางคนเรียก ป่าทุ่งเตียว) อันเป็นที่อยู่แหล่งสุดท้ายในโลกของนกแต้วแร้วท้องดํา เพราะป่าผืนนี้คือป่าดงดิบที่ราบต่ํา (Lowlandevergreen Forest) ผืนสุดท้ายของไทยโดยสระมรกตผุดขึ้นมาจุดแรกที่ “บ่อน้ําผุด” เป็น บ่อน้ําใสแจ๋วสีเทอร์ควอยซ์ จากนั้นก็กลายเป็นธารน้ําหลาก ผ่านป่าดงดิบที่ราบต่ําออกมาขัง เป็นแอ่งกว้างใหญ่สีเขียวมรกต กลายเป็นสระมรกตใสเย็นฉ่ํา มีปลาตัวเล็กๆ แหวกว่ายให้เราลงไปอาบแช่เล่นอย่างสบายใจ ส่วนที่ "น้ําตกร้อน” (ชาวบ้านเรียก น้ําตกร้อนสะพาน ยูง) ก็เป็นน้ําตกร้อนเพียงหนึ่งเดียวของไทย ที่แม้จะมีขนาดไม่ใหญ่โต แต่ก็เปรียบได้กับสปาธรรมชาติสุดพิเศษ ที่มีสายน้ําร้อนไหล หลากลงมาเป็นน้ําตกเล็ก ๆ ลดหลั่นเป็นเชิงชั้นสวยงามภายใต้ร่มไม้ไพรพฤกษ์ โดยสายน้ําร้อนนี้จะไหลลงสู่คลองท่อมลําคลอง ประวัติศาสตร์ที่มีการขุดพบลูกปัดโบราณ 3,000 ปี

สําหรับที่น้ำพุร้อนเค็ม” ต.ห้วยน้ําขาวถือเป็นแหล่งน้ําพุร้อนใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวรับนักท่องเที่ยวภายนอกอย่างเต็มรูปแบบ ทว่าเป็นแหล่งที่ผู้คนท้องถิ่นใช้กันมานานหลายสิบ ปีแล้ว ในแง่ของความเชื่อ ความศรัทธา ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาบ่อน้ําร้อนเค็มนี้อยู่ มีคนป่วยจํานวนมากไปแช่แล้วหายจากอาการต่างๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ จึงมีการนําผ้าเจ็ดสีไปผูกไว้ตามต้นไม้โดยรอบ หรือบางคนก็ไปจุดประทัดถวายสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยให้หายป่วยขอบอกว่าบรรยากาศของน้ําพุร้อนเค็ม จะคึกคักที่สุดในช่วงเช้าตรู่ประมาณ 05.0007.00 น. และตอนหัวค่ํา 18.00-20.00 น. เพราะเป็นช่วงที่แดดร่มลมตก คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจํานวนมากหลั่งไหลมาอาบแช่ ทั้งเพื่อผ่อนคลาย และด้วยความหวังในการ รักษาโรคต่างๆ ที่นี่มีบ่อหลักหลายจุดทั้งบ่อดั้งเดิม บ่อใหญ่สําหรับผู้ใหญ่ และบ่อเด็ก นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ นําเราเข้าไปสัมผัสพรรณไม้ และนกในป่าพรุป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ ปล่อยให้สีเขียวของธรรมชาติโอบกอดหัวใจเราไปในที่สุด

แต่ใช่ว่ามาเที่ยวคลองท่อม Spa Town แล้วจะมีแต่แช่น้ําแร่ร้อนจนตัวเปื่อยเพียงอย่างเดียว อําเภอนี้ยังมีวิถีชีวิต ประวัติศาสตร์ และ ธรรมชาติอื่นๆ ให้ชมอีกมาก เริ่มตั้งแต่การตามรอยลูกปัด 3,000 ปี ณ วัดคลองท่อมและ พิพิธภัณฑ์ลูกปัดคลองท่อมอันเป็นแหล่งที่ขุดพบลูกปัดโบราณจํานวนมหาศาล เพราะในอดีตบริเวณคลองท่อมที่เชื่อมต่อไปออกทะเลอันดามัน เป็นเส้นทางเดินเรือโบราณพ่อค้าต่างชาตินําลูกปัดมาขึ้นฝั่งจากทะเลอันดามัน แล้วบรรทุกข้ามภูเขาไปที่ชายทะเลฝั่งอ่าวไทย เพื่อล่องเรือต่อไปยังทะเลจีนใต้ อีกทั้งเชื่อกันว่าคลองท่อมเคยเป็นแหล่งผลิตลูกปัดพิเศษหลายชนิดด้วย โดยเฉพาะลูกปัดสุริยะเทพที่พบเพียงไม่เกิน 20 เม็ดในโลก ราคาเม็ดละ เกิน 7 หลัก! หรือถ้าใครไม่สนลูกปัด แต่อยากนั่งสมาธิก็ขอเชิญที่ “วัดคลองพน ซึ่งประดิษฐานพระใหญ่ในปางทรงเครื่องน่าเลื่อมใสศรัทธาอย่างยิ่ง

ปิดท้ายทริปคลองท่อม Spa Town อย่างประทับใจกับการไปสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนประมงพื้นบ้านที่ 'ท่าประดู่' และ 'ท่าคลองขนาน' สองแหล่ง Fisherman Village ขนานแท้ตั้งอยู่ในแนวป่าชายเลนแน่นขนัด ราวกับกำแพงสีเขียวขนาบลําคลองธรรมชาติสายใหญ่ที่ไหลออกทะเลอันดามัน ทุกวันเราสามารถล่องเรือหัวโทงออกไปชมวิถีประมง ร่วมจับกุ้งหอยปูปลาหรือชิมปูดําตัวเบ้อเริ่มที่ท่าคลองขนาน แล้วนั่งรถต่อไปที่ท่าเรือ Andaman Port บ้านบ่อม่วง ต.ทรายขาว ชมอาทิตย์อัสดงลงในหมู่เกาะตรงหน้า พร้อมละเมียดชิม Seafood สดอร่อยราคาไม่แพง เป็นของขวัญปิดท้ายทริปสุขภาพนี้อย่างน่าประทับใจ...คลองท่อม Spa Town แหล่งท่องเที่ยวใหม่ในสไตล์คนรักสุขภาพที่ยังรอคุณอยู่วันนี้นะครับ

TRAVELER'S Guide

When to go: ที่ยวได้ตลอดปี แต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน - เมษายน ฝนน้อยอากาศแจ่มใสที่สุด

Getting there: จากกรุงเทพฯ บินตรงไปลงสนามบินนานาชาติกระบี่ จากนั้นเช่ารถยนต์บับเอง หรือให้รถแท็กซี่สนามบิน ไปส่งที่อําเภอคลองท่อม ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ส่วนการเดินทางภายในคลองท่อมสามารถติดต่อรถเป็นรายวันจากที่พักแต่ละแห่งได้เลย

Overnight: Wareerak Hot Spring Retreat (อยู่ใกล้น้ําตกร้อน) โทร.07563 7130, SHS น้ําพุร้อนเค็ม Resort Ins. 096 284 8669, มรกตรีสอร์ท (อยู่ห่างจากสระมรกต 500 เมตร) โทร. 081 415 1982

Cuisine: ซีฟูดบ้านบ่อม่วง ต.ทรายขาว ใกล้ท่าเรือ Andaman Port, ร้านแลเล Seafood โทร. 086949 7017