"Friends for Life" Together, we achieve more

อุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์เป็นสิ่งจำเป็นในการช่วยเหลือผู้ป่วยของสถานพยาบาลไม่แพ้บุคลากรทางการแพทย์ ด้วยจำนวนประชากรและผู้ป่วยที่นับวันจะเพิ่มมากขึ้น และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกมากจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประชากรไทยโดยสมบูรณ์ ขณะที่โรคภัยสมัยใหม่ก็มีความรุนแรงและซับซ้อนขึ้น ความแออัดของผู้ป่วยจึงเป็นภาพที่เราเห็นกันชินตาเมื่อต้องก้าวไปใช้บริการที่โรงพยาบาลรัฐ แม้ที่ผ่านมาแต่ละแห่งจะได้รับอนุมัติงบจัดสรรจากรัฐบาล รวมทั้งมีความพยายามจากหลายภาคส่วนเข้าไปให้การสนับสนุน แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า ยังมีความขาดแคลนอยู่อีกมากเมื่อเทียบกับสภาพความเป็นจริง และจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

Together, we achieve more.

ทิสโก้จึงริเริ่มโครงการเพื่อสังคม ที่ใช้ชื่อว่า “Friends for Life” เชิญชวนเพื่อนองค์กรพันธมิตร ลูกค้า คู่ค้า ผู้มีจิตศรัทธา ช่วยกันระดมทุนทรัพย์สมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ให้แก่โรงพยาบาลของรัฐ จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี และ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งแต่ละแห่งล้วนเป็นศูนย์รองรับผู้ป่วยจากทั่วประเทศที่เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนนับล้านรายต่อปี

คุณสุทัศน์ เรืองมานะมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มทิสโก้ กล่าวเปิดตัวโครงการฯ โดยเน้นย้ำจุดยืน “Friends for Life จัดขึ้นโดยเน้นถึงประโยชน์ที่สังคมจะได้รับในวงกว้าง เป็นการฉลองโอกาสพิเศษที่ทิสโก้ดำเนินกิจการมาครบ 50 ปี ตลอดครึ่งทศวรรษที่ผ่านมาทิสโก้เติบโตมาได้ เพราะแรงสนับสนุนจากผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่าย ทั้งผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า และสังคม เราจึงเห็นว่าการฉลองโอกาสพิเศษนี้ คงไม่มีอะไรเหมาะสมไปกว่า การมาร่วมกันทำประโยชน์ให้สังคมด้วยการสร้างโอกาส ให้ชีวิต...”

กิจกรรมเปิดตัวโครงการ Friends for Life จัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2562 โดยมีผู้บริหารระดับสูงขององค์กรพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนโครงการ ทั้งพันธมิตรทางธุรกิจ และ พันธมิตรสื่อมวลชน ศิลปินดารามาร่วมงาน ช่วยให้บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น โดยได้ยอดเงินบริจาคเริ่มต้นจำนวน 28,355,000 ล้านบาท และ ตัวเลขบริจาคก็ยังหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับกิจกรรมต่างๆ ของโครงการฯ ที่ยังดำเนินต่อไป

คุณนาถฤดี ศิวะบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนิเทศสัมพันธ์และการตลาด กลุ่มทิสโก้ อยู่เบื้องหลังโครงการฯ เล่ารายละเอียดให้ทีม TRUST Magazine ฟังว่า “โครงการนี้ตั้งใจทำในโอกาสพิเศษ 50 ปีทิสโก้ ตั้งใจให้เป็นโครงการที่สร้าง Impact ได้มาก ทั้งในมุมผู้ให้และผู้รับ ตั้งแต่ชื่อโครงการ ที่ใช้คำว่า “เพื่อน” หรือ “Friends” เป็นคำที่ฟังแล้วให้ความรู้สึกอุ่นใจ คนไทยเราเป็นชาติที่มีน้ำใจชอบช่วยเหลือกันอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นเพื่อนเรายิ่งเต็มที่ จึงเป็น Concept ของการชวนเพื่อนมาช่วยเพื่อนร่วมกันระดมทุนจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่จะสามารถไปช่วยชีวิตผู้ป่วยได้อีกจำนวนมาก ซึ่งจากการที่เราไปศึกษาข้อมูลมาก็เห็นว่า ทุกวันนี้โรงพยาบาลที่เป็นศูนย์รองรับผู้ป่วยจากทั่วประเทศมากที่สุดก็คือ โรงพยาบาลรัฐทั้ง 5 แห่งนี้ ซึ่งปีหนึ่งๆ เขาดูแลคนไข้รวมแล้วกว่า 8 ล้านราย ก็ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าควรต้องสนับสนุนเขา”

“ทิสโก้เป็นเหมือนตัวกลางไปเชิญชวนองค์กรต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรกับเรามาร่วมกัน ทางผู้บริหารและหน่วยงานต่างๆ ของทิสโก้ก็ช่วยกัน ก็โชคดีที่มีหลายๆ องค์กรที่มีเจตนารมณ์เดียวกับเรา ยินดีให้การสนับสนุนเข้ามาเป็นพันธมิตรหลัก ที่เสมือนเป็นผู้ก่อตั้งโครงการนี้ด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรสื่อมวลชนที่เข้ามาช่วยสนับสนุนเผยแพร่โครงการฯ ในวันเปิดตัว Friends for Life จึงมี CEO องค์กรพันธมิตรภาคธุรกิจ ผู้บริหารช่องดิจิทัลทีวี คนบันเทิง แฟนคลับ มาร่วมงานอย่างคับคั่ง เป็นภาพที่เกิดขึ้นไม่ได้ง่ายๆ เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นน่าประทับใจมาก”

หลังจากเปิดตัวโครงการ Friends for Life มีระยะเวลาระดมทุนอีกประมาณ 3 เดือน ด้วยการสร้างการรับรู้ผ่านสื่อออนไลน์และออฟไลน์ให้ได้มากที่สุด และจะปิดโครงการด้วยกิจกรรมวิ่งการกุศล Friends for Life Charity Run ในวันที่ 30 มิถุนายน 2562 โดยมีกำหนดส่งมอบเงินบริจาคทุกบาททุกสตางค์โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ให้แก่โรงพยาบาลทั้ง 5 แห่งเป็นจำนวนเท่าๆ กันภายในเดือนกรกฎาคม ศกนี้

“นอกจากพันธมิตรหลักที่เข้ามาสนับสนุนตั้งแต่เปิดตัวโครงการแล้ว เรายังมีพันธมิตรสมทบ และ ผู้สนับสนุนแจ้งความจำนงเข้ามาตลอด ทั้งจากการบริจาคเงิน และการสนับสนุนการจัดงานวิ่งการกุศล บริจาคน้ำ เครื่องดื่ม อาหารว่าง ฯลฯ ซึ่งเรายินดีเปิดรับไปจนถึงวันสุดท้ายของโครงการในวันที่ 30 มิถุนายน นอกจากนี้ทางหน่วยงานต่างๆ ของทิสโก้ยังร่วมด้วยช่วยกันตัดรายได้ค่าธรรมเนียมส่วนหนึ่งมาสมทบทุนทั้งโปรดักท์เงินฝาก My savings และสินเชื่อ TISCO Auto Cash, สินเชื่อสมหวัง เงินสั่งได้ รวมทั้งพันธมิตรสื่อมวลชนของเราอย่าง ATime Showbiz ก็แบ่งรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดคอนเสิร์ต The Cassette Festival และคอนเสิร์ตแบบเบิร์ดเบิร์ด รีสเตจ มาสมทบทุน Friends for Life กับเราด้วย” คุณนาถฤดีเล่า

ขาดอุปกรณ์การแพทย์ คือ ขาดโอกาสช่วยชีวิต

ขณะที่คนวงการแพทย์และวงการบันเทิงอย่าง หมอริท เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช หรือ หมอริทเดอะสตาร์ ที่มาร่วมแชร์ประสบการณ์ในงานเปิดตัวโครงการ ครั้งหนึ่งในช่วงฝึกงานในฐานะนักศึกษาแพทย์แผนกอายุรกรรม ในโรงพยาบาลประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งห้องพักผู้ป่วยมีคนไข้เรียงรายจำนวนมาก ราว 50% ของผู้ป่วยในห้องนั้นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

“ริทไม่เคยลืม มีคนไข้รายหนึ่งป่วยด้วยโรคแพ้ภูมิตัวเองก่อนลุกลามมายังปอด มีชีวิตอยู่เพราะเครื่องช่วยหายใจ ก่อนที่อาการจะทรุดหนัก โชคร้ายที่เครื่องช่วยหายใจตัวนั้นเป็นรุ่นเก่า วันนั้นริทเข้าเวรพอดี ริทเดินหาเครื่องช่วยหายใจรุ่นที่มีประสิทธิภาพดีกว่าที่เขาใช้อยู่แต่มัน “หมด” สุดท้ายจึงไม่สามารถยื้อชีวิตของเขาไว้ได้ เด็กคนนั้นอายุแค่ 17 ปีเองนะครับ พ่อแม่เขานั่งกุมมืออยู่ข้างเตียง ทุกวันนี้ริทยังจำสายตาเขาได้ดี ริทว่ามันไม่คุ้มเลย” สิ่งที่เขาเจอในวันนั้นทำให้เขาซึ้งกับประโยคที่ว่า “ขาดอุปกรณ์การแพทย์ คือขาดโอกาสช่วยชีวิต” ว่ามันจริงมากๆ

ด้าน หมอก้อง สรวิชญ์ สุบุญ เล่าว่า “บางคนอาจไม่เคยเห็นภาพโรงพยาบาลรัฐว่ามันแออัดขนาดไหน ในยามวิกฤติแค่เลือดถุงเดียวถ้าขาดไปก็คือชีวิต ทั้งบุคลากรการแพทย์และเครื่องมือแพทย์เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยชีวิต ในฐานะที่ผมเป็นหมอก็จะรู้สึกซาบซึ้งมากทุกครั้งที่มีคนเข้ามาช่วยตรงนี้ มันเป็นกำลังใจอย่างใหญ่หลวงให้กับบุคลากรทางการแพทย์อย่างพวกเราเลยครับ”

ภารกิจนี้จึงเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มพันธมิตรทุกฝ่าย ที่มีเจตนารมณ์เดียวกันจับมือกันทำความดี เพื่อสร้างโอกาสในการต่อลมหายใจให้กับผู้ป่วยที่ฝากความหวังแห่งชีวิตเอาไว้ การช่วยกันกระจายข่าว ชักชวนเพื่อนๆ ช่วยกันเสียสละทุนทรัพย์คนละเล็กละน้อยเท่าที่สามารถทำได้ เท่านี้ก็สามารถเพิ่มโอกาสช่วยชีวิตผู้ป่วยได้อีกนับล้านชีวิต

กำลังใจเกินคาด พร้อมเอาชนะทุกอุปสรรค

ความท้าทายในการวิจัยและพัฒนาแอนติบอดี้เพื่อผลิตยารักษาโรคมะเร็ง นอกจากความยากในการทำงานแต่ละเฟส

ที่มีโอกาสจะประสบความสำเร็จมากพอๆ กับความเสี่ยงที่จะล้มเหลว อีกอุปสรรคหนึ่งคือ เงินทุนในการทำวิจัย ซึ่งต้องมี “เพียงพอ” และ “ต่อเนื่อง” เพื่อที่จะสามารถดำเนินการในแต่ละเฟสได้อย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด คุณหมอนักวิจัยจึงได้เริ่มต้นระดมทุนในภาคประชาชนขึ้นมาผ่านโครงการที่ชื่อว่า “กองทุนภูมิคุ้มกันบำบัดมะเร็งจุฬาฯ”

สำหรับการวิจัยในเฟสที่ 1 และ 2 ได้นำงบประมาณ 140 ล้านบาท ที่ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสนับสนุน ไปลงทุนซื้อเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย และฝึกอบรมทักษะนักวิจัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการลงมือวิจัยแอนติบอดี้ต้นแบบให้สำเร็จ สำหรับเฟสที่ 3 นั้น ต้องใช้เงินทุนอีกประมาณ 200 ล้านบาท ในการจ้างโรงงานผลิตยาแอนติบอดี้ ซึ่งหากคนไทยที่มีเงินเดือน 40 ล้านคน ช่วยกันบริจาคคนละ 5 บาท ก็จะช่วยให้ทีมงานทำวิจัยต่อได้ในปลายปีหน้า

“โปรเจกต์นี้มันมีโอกาสที่จะล้มเหลว เพราะสเกลมันค่อนข้างใหญ่ ปัญหาอุปสรรคมีทุกขั้นตอน แต่ล้มเหลวแล้วต้องหาทางแก้และเดินหน้าสู้ต่อ ขณะเดียวกันก็สร้างคนสร้างประสบการณ์ไปด้วย ผมอยากให้คนไทยเข้าใจถึงความยากและแผนงานการทำโปรเจกต์ยา และต้องกล้าที่จะลงทุนเหมือนกับประเทศพัฒนาแล้วที่เห็นความสำคัญของงานวิจัย หลายคนอาจมองว่าไม่มีทาง ขายฝัน ยากเกิน แต่เราจะพยายามทำทุกวิถีทางให้โครงการมีความคืบหน้าไปเรื่อยๆ หากสำเร็จก็ตั้งใจจะให้สภากาชาดไทยเป็นผู้จำหน่ายยาให้กับประชาชน

“โดยส่วนตัวผมได้รับแรงบันดาลใจ และกำลังใจเยอะมากจากผู้ป่วยมะเร็ง รวมทั้งญาติผู้ป่วยที่เชื่อว่าการรักษาด้วยภูมิต้านทานบำบัด เป็นวิธีเดียวที่จะพิชิตโรคนี้ มันคือ “ความเชื่อ” ที่เขามีต่อโปรเจกต์ของเรา เห็นว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกต้อง และมีประโยชน์ แม้จะไม่ใช่ต่อตัวเขาแต่กับครอบครัว กับลูกหลานของเขาในอนาคตผู้ป่วยบางรายถึงกับบริจาคเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตให้กับเรา หรือญาติผู้ป่วยมะเร็งก็บริจาคเงินให้เรานำไปทำประโยชน์ต่อ องค์กรและบริษัทต่างมาช่วยกันทำกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อระดมทุนช่วยเหลือ คือมันไม่ใช่แค่ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ แต่มันมีความหวัง มีความรักที่ซ่อนอยู่มีความรู้สึกดีๆ ที่สัมผัสได้ มันมากกว่าเงินทองที่ได้รับ ผมอยากจะขอบคุณทุกคน และจะใช้เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาทำวิจัยอย่างคุ้มค่าที่สุด”

เงินซื้อเวลาไม่ได้ เงินซื้อความสำเร็จไม่ได้ เพราะความสำเร็จเกิดจาก ความอดทน และความมุมานะ ซึ่ง อ.ดร.นพ.ไตรรักษ์ และคณะทีมทำงานมีอยู่เกินร้อย รวมถึงต้องการแรงสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในระยะยาวเพื่อพัฒนายาแอนติบอดี้รักษาโรคมะเร็งที่ถือลิขสิทธิ์โดยคนไทย คุมราคาเพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงการรักษาในราคาที่ทุกคนสามารถเอื้อมถึงได้

คิดดีทำดีต้องมีเพื่อน (จากซ้ายไปขวา)

1. Mr.Fred Chien, General Manager, CDIB & Partner Investment Holding PTE LTD : “This is a meaningful and beautiful project. We’re quite happy and honored to be a project partner with TISCO.”

2. Mr.Tan Hak Leh, Chief Executive Officer of AIA Thailand : “AIA is very proud to be part of this project, and with this partnership, TISCO gives us the opportunity to put together for the community.”

3. ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหาร บมจ. กรุงเทพประกันภัย : “เราไม่ลังเลที่จะร่วมสนับสนุนโครงการ Friends for Life เพราะเพียงแค่หนึ่งชีวิตที่เราช่วยได้ ก็ถือว่าเกินกว่ามูลค่าของเงินที่เราสนับสนุนในวันนี้แล้ว”

4. คุณสวัสดิ์ อัศดารณ Director FSI and Insurance Industry บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด : “50 ปีของทิสโก้ มีไอบีเอ็ม เป็นเพื่อนมาถึง 40 ปี เราตกลงเข้าร่วมโครงการฯ ทันทีที่ทิสโก้ชวน และหวังว่าจะได้มีโอกาสเดินหน้าดูแลสังคมไทยร่วมกันต่อไป”

5. คุณนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เมืองไทยประกันภัย : “ภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ นาทีนี้การตอบแทนสังคมไทยอย่างแท้จริง ถือเป็นหัวใจของภาคเอกชนที่จะนำพาประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า”

6. คุณอารดา จรูญเอก ประธานอำนวยการ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ : “ดีใจและสุขใจอย่างมากที่ได้มาร่วมในโครงการนี้ ซึ่งดีตรงที่เราสนับสนุนครั้งเดียวแต่ได้มีส่วนสนับสนุนถึง 5 โรงพยาบาล ซึ่งจะช่วยเหลือคนป่วยได้อีกหลายล้านชีวิต”

7. Mr.Satoshi Yoshitake, Managing Director TISCO TOKYO Leasing Co., Ltd. & Representative of Tokyo Century Corporation : “We have a long year partnership with TISCO. It is our pleasure to be a part of this important project. Thank you TISCO for inviting us to participate in this wonderful occasion.”

8. คุณเทพพันธ์ อัศวะธนกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ บมจ. ประกันภัยไทยวิวัฒน์ : “มองว่าสังคมไทยมีคนที่มีความรู้เยอะแต่ขาดเครื่องไม้เครื่องมืออุปกรณ์ช่วยเหลือทางการแพทย์อีกมาก ถ้าเราช่วยกันสนับสนุนจะช่วยให้เมืองไทยก้าวสู่การเป็นสังคมที่มี Access to quality care และ กิจกรรมวิ่งการกุศลก็ส่งเสริมสุขภาพที่ดีอีกด้วย”

9. คุณภากร เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ทีพีไอ โพลีน : “เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับทิสโก้มานาน และเห็นด้วยกับโครงการนี้ที่จะสนับสนุนเรื่องเครื่องมือแพทย์ที่ยังขาดอยู่อีกเยอะมาก โดยเฉพาะโรงพยาบาลของรัฐที่ดูแลคนไข้หลายล้านคน เป็นโอกาสที่เราจะช่วยคนได้มาก”

10. คุณอมร ทองธิว กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บมจ. วิริยะประกันภัย : “เราทราบดีว่าการขาดอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมมาโดยตลอด ขอบคุณทิสโก้ที่ให้โอกาสเราเข้าร่วมโครงการนี้ และ ขอเชิญชวนทุกท่านช่วยกันสนับสนุนให้โครงการบรรลุวัตถุประสงค์”