“ชิตพล มั่งพร้อม” CEO Zanroo Big Data คือหัวใจของโลกธุรกิจปัจจุบัน

คงไม่ใช่เรื่องแปลกของคนรุ่นใหม่ที่สนใจในเรื่องการทำธุรกิจ แต่จะมีสักกี่คนที่พร้อมจะลุยและกล้าลองทำ โดยไม่กลัวว่าจะล้มหรือผิดพลาด หรือแม้จะล้มก็พร้อมที่จะลุกขึ้นสู้อย่างไม่ท้อถอย “คุณชิตพล มั่งพร้อม” ผู้ร่วมก่อตั้ง Zanroo และ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินเตอร์เน็ต เบส บิซิเนส กรุ๊ป (ไอบีจี) เป็นตัวอย่างหนึ่งของนักธุรกิจที่ปั้นตัวเองจากศูนย์สู่เจ้าของกิจการด้านซอฟต์แวร์ที่มีมูลค่ามากกว่าพันล้านบาท วันนี้ต้องยอมรับว่า Zanroo มองเกมขาด ที่หยิบเอา Big Data ขุมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของโลกธุรกิจบนออนไลน์ มาวิเคราะห์เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น หรือที่เรียกกันว่า Marketing Technology หรือ Martech

กว่าจะเป็น Zanroo

ย้อนกลับไปเมื่อครั้ง คุณชิตพล เรียนจบปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้าเครื่องกลการผลิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขาก็เป็นเหมือนเด็กจบใหม่ทั่วไป ที่เริ่มต้นทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศแห่งหนึ่ง โดยงานแรกของเขาคือ พนักงานขายเครื่องจักรวิศวกรรม แต่ด้วยความสนใจและอยากทำธุรกิจเป็นทุนเดิม เขาจึงเริ่มต้นทำธุรกิจไปพร้อมๆ กับงานประจำ ที่ผ่านมาเขาได้ลองทำธุรกิจมาหลากหลายรูปแบบ ทั้งเป็นพ่อค้าขายกระเป๋า พ่อค้าขายแซนวิช กระทั่งพัฒนาเป็นบริการแคทเทอริ่ง (Catering Service) แต่ก็รู้สึกว่ายังไม่ตอบโจทย์เป้าหมายในการทำธุรกิจของตัวเอง ผนวกกับช่วงเวลานั้น เพื่อนที่ร่วมหุ้นทำแคทเทอริ่งด้วยกันตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ จึงทำให้ธุรกิจแคทเทอริ่งขาดกำลังสำคัญและเดินหน้าต่อได้ลำบาก

แม้ธุรกิจแคทเทอริ่งจะต้องหยุดลง แต่สิ่งที่เขาได้กลับมานั้น คือแนวคิดสำคัญในการทำธุรกิจในภายภาคหน้าด้วยกฎ 4 ข้อ นั่นคือ 

1. เงินทุน ไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยเงินมหาศาล แต่สามารถใช้วิธีการบริหารจัดการให้ดีได้
2. เป็นธุรกิจที่สามารถช่วยสร้างกระแสเงินสดได้ดี
3. เป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตก้าวกระโดดในอนาคตและเป็นที่ต้องการของตลาด 
4. การสรรหาทีมและพันธมิตรทางธุรกิจที่เหมาะสม จะช่วยเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้เร็ว

แต่ตัวคุณเองต้องรู้และเข้าใจในทุกๆ ขั้นตอนและวงจรของธุรกิจ เพื่อไม่ให้ธุรกิจเกิดความเสี่ยงในวันที่ใครอีกคนไม่อยู่

จากกฎดังกล่าวทำให้คุณชิตพลพบว่า ธุรกิจที่น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดีในยุคนี้ คงหนีไม่พ้นธุรกิจที่เกี่ยวกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต และซอฟต์แวร์ต่างๆ เขาเลยชักชวนเพื่อน คือ อุดมศักดิ์ ดอนขำไพร (ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี Zanroo) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ มาร่วมทำธุรกิจครั้งใหม่นี้ด้วยกัน ในนามว่า Zanroo

ต่อยอดโอกาสจาก Big Data

Zanroo ชื่อที่เป็นกันเอง แต่ก็แฝงไปด้วยความหมายที่สะท้อนตัวตนของธุรกิจได้อย่างชัดเจน คุณชิตพล เล่าว่า “ผมอยากให้ Zanroo สะท้อนถึงตัวตนของบริการที่เรามอบให้กับ ลูกค้า ดูเป็นคำง่ายๆ ที่ติดปาก แต่ก็สื่อความหมายได้มากมาย ทั้งความรวดเร็วของระบบปฏิบัติการ ความซื่อสัตย์ในการทำงาน และความเชี่ยวชาญด้านข้อมูล จึงเรียกได้ว่า

Zanroo เป็นความเฉลียวฉลาดด้านข้อมูลอย่างแท้จริง”

วันนี้เรียกได้เลยว่า Zanroo เป็นมาร์เท็ค สตาร์ทอัพ (Martech Startup) ที่มีอัตราการเติบโตสูงมากและยังเป็นแห่งแรกๆ ของประเทศไทยที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการเก็บข้อมูล Big Data ที่ปัจจุบันกลายมาเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกองค์กร ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือองค์กรขนาดใหญ่ เพราะทุกบริษัทล้วนต้องการ Big Data มาช่วยในการวิเคราะห์ความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ และวางแผนการตลาดในจังหวะที่รวดเร็วและเหมาะสมด้วยกันทั้งสิ้น

รูปแบบการให้บริการของ Zanroo ประกอบด้วย 3 บริการหลัก คือ

1. Social Listening บริการสำหรับลูกค้าที่ต้องการทราบความเคลื่อนไหวของผู้บริโภคบนสังคมโซเชียลและอินเทอร์เน็ต ว่ามีการพูดถึงธุรกิจของเราหรือธุรกิจคู่แข่งอย่างไร ทั้งในแง่บวกและแง่ลบด้วยการทำหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมดให้กับลูกค้าแบบเรียลไทม์ และปัจจุบันสามารถลงลึกในส่วนของการวิเคราะห์ข้อมูลได้แล้ว รวมถึงยังสามารถวิเคราะห์ประสิทธิผลของ Influencer ว่าคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่บริษัทจ่ายไปหรือไม่

2. Zanroo Desk การให้บริการคอลเซ็นเตอร์ออนไลน์ เพื่อช่วยในเรื่องของการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถกระจายงานที่ได้รับจากลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม และถูกต้องแม่นยำตรงแผนก ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของลูกค้าที่มีอยู่แล้ว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้แพลตฟอร์มดียิ่งขึ้น เช่น การตอบข้อความบนเพจเฟซบุ๊กจำนวน 10 เพจได้ในเวลาเดียวกัน และยังมีการบริหารจัดการงานแบบ Manage Agent ที่ช่วยตอบคำถามของลูกค้าอย่างรวดเร็วที่สุด 

3. Zanroo Search แพลตฟอร์มที่เปิดกว้างให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้ามาใช้บริการได้ ผ่านบริการ Search Engine เพื่อค้นหาข้อมูลขององค์กร บุคคล หรือเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการตลาด

จากจุดเริ่มต้นในปีแรกที่มีลูกค้าเพียงแค่ไม่กี่ราย ปัจจุบัน Zanroo มีลูกค้าทั้งหมดกว่า 300 ราย และอยู่ในหลายภาคอุตสาหกรรมด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ธนาคาร ไอที ยานยนต์ เครื่องสำอาง ประกันภัย และไม่เพียงแค่มีลูกค้าในประเทศไทยเท่านั้น แต่ Zanroo ยังมองการณ์ไกลขยายตลาดไปยังต่างประเทศ นับตั้งแต่เริ่มเปิดบริษัทได้เพียงแค่ 3 เดือน โดยเริ่มที่ประเทศมาเลเซีย

ล้มได้แต่ต้องไม่ยอมแพ้

เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ของ Zanroo คือการขยายสาขาสู่ระดับโลกอย่างสหรัฐฯ จึงทำให้เขาตัดสินใจระดมทุนขนาดใหญ่จากนักลงทุนทั่วไป พร้อมกับจ้างทีมงานต่างประเทศจากบริษัทชั้นนำระดับโลกมาช่วยเสริมทีมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่การทำงานย่อมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เพราะจากที่มีการขยายทีมงานมาก ทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันระหว่างคนในองค์กร ผลลัพธ์ที่เคยคาดหวังว่าการขยายทีมนี้จะทำให้องค์กรขับเคลื่อนโตก้าวกระโดด ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้สุดท้ายผลลัพธ์สะท้อนมาที่ผลการดำเนินงานบริษัท ที่ต้องเผชิญกับคำว่าขาดทุนครั้งแรกในรอบ 5 ปีตั้งแต่เปิดบริษัทมา

แต่อย่างไรก็ตาม คุณชิตพล ยังมองในด้านบวกของประสบการณ์การทำงานที่ยังน้อย จึงทำให้เขาไม่กลัวกับสิ่งที่ไม่รู้และไม่เคยเจอมาก่อน อีกทั้งยังเป็นการสร้างพลังบวกที่ทำให้รู้สึกว่า จะไม่ยอมแพ้กับอะไรง่ายๆ เพราะทุกประสบการณ์ล้วนสร้างบทเรียนที่มีคุณค่าและสอนให้รู้จักปรับตัว เปลี่ยนแปลง และพร้อมรับเพื่อตั้งต้นใหม่เสมอ ทว่าสิ่งที่ทำให้ผู้บริหารหนุ่มคนนี้ได้หันกลับมาให้ความสำคัญและตกผลึกในการกระบวนการทำงาน โดยถือเป็นคัมภีร์ธุรกิจไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม นั่นคือ ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของฝ่ายกฎหมาย เพราะกฎหมายจะเป็นตัวชี้วัดหรือกำหนดกรอบการทำงานที่ชัดเจน นอกจากนั้นต้องให้ความสำคัญกับการวางแผนทางการเงิน (Financial Planning) ที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการวางแผนธุรกิจ (Business Planning) เลย

หมดยุคปลาใหญ่กินปลาเล็ก

สิ่งสำคัญที่ผู้บริหารหนุ่มวัย 33 ปีคนนี้ยึดถือมาตลอด คือ การไม่หยุดพัฒนาสินค้าและบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโลกของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเขาจะบอกพนักงานเสมอว่า ต้องเลือกทำในสิ่งที่รู้ว่าอนาคตมีโอกาสสำเร็จ แต่ถ้าเห็นแล้วว่าไม่มีโอกาสก็ไม่ควรที่จะเสียเวลา (Win for Standing Line) และอีกเรื่องที่สำคัญที่สุดคือต้องเชื่อใจและเชื่อมั่นในทีม (Trust)

กว่า 8 ปีที่ Zanroo ได้พัฒนาตัวเองมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ก้าวทันพฤติกรรมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยในปี 2563 ยังคงเน้นการเดินหน้าต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่ช่วยตอบโจทย์ลูกค้าในด้านผลลัพธ์และการลดต้นทุนการทำธุรกิจ ยกตัวอย่าง ในส่วนของ Social Listening จะเน้นในเรื่องการช่วยลูกค้าตัดสินใจเลือกช่องทางการโฆษณาที่มีประสิทธิภาพขึ้น ขณะที่ Zanroo Desk จะปรับสู่รูปแบบ Omni Channel ที่เชื่อมโยงการสื่อสารระหว่างช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ต่อยอดจากคลื่นความถี่ 5G ที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงให้ระบบฮาร์ดแวร์สามารถประมวลผลบนคลาวด์ได้เลย ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้เกิดการทำบล็อกเชน เสริมความแข็งแกร่งของ Big Data ให้มีประสิทธิผลมากขึ้น

“โลกธุรกิจในอดีตเป็นเรื่องของปลาใหญ่กินปลาเล็ก ต่อมาก็เป็น ปลาไวกินปลาช้า แต่ปัจจุบันเป็นโลกของปลาฉลาดที่มาพร้อมกับ Big Data ซึ่งเป็นคลังข้อมูลที่ช่วยเพิ่มมูลค่า (Value) ให้แก่องค์กร ซึ่งน่ากลัวที่สุดก็คือ ปลาใหญ่ที่ฉลาด ดังนั้น Big Data เป็นสิ่งสำคัญจึงต้องเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบและมีเป้าหมายจะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดให้แก่องค์กรและไม่ก่อให้เกิดต้นทุนสิ้นเปลือง”

สำหรับแผนงานระยะยาว Zanroo ตั้งเป้าหมายในปี 2569 จะขึ้นแท่นยูนิคอร์นสตาร์ทอัพไทย หรือมีมูลค่าบริษัท 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 30,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมูลค่าบริษัทอยู่ในหลักกว่าพันล้านบาทอาจจะดูเป็นการเติบโตในหลายเท่าตัว แต่สิ่งทีทำให้ คุณชิตพล มั่นใจนั่นก็คือ ความร่วมมือครั้งใหญ่กับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีแนวคิดตรงกันที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งจะทำให้ Zanroo ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงแข็งแกร่ง