วันมะเร็งโลก กับนวัตกรรมการรักษาโรคมะเร็ง

file

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ของทุกปี องค์การอนามัยโลก (WHO) และสมาคมต่อต้านมะเร็งสากล (UICC) ได้กำหนดให้เป็นวันมะเร็งโลก เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง โรคร้ายที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตลำดับต้น ๆ ของคนทั่วโลกและยังคงเป็นความท้าทายของวงการแพทย์มาอย่างต่อเนื่อง

จากสถิติพบว่า ในแต่ละปี มีคนเสียชีวิตจากโรคมะเร็งราว 10 ล้านคนทั่วโลก และนี่เป็นเหตุผลที่บริษัทยายักษ์ใหญ่ และองค์กรทางการแพทย์จากหลากหลายประเทศทั่วโลกต่างเร่งวิจัยและพัฒนา ตั้งแต่วิธีการวินิจฉัยโรค ไปจนถึงยารักษาเพื่อต่อสู้กับโรคมะเร็ง เช่น Pfizer บริษัทยายักษ์ใหญ่ระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ที่มียา Ibrance สำหรับรักษามะเร็งเต้านม และยา Xalkori สำหรับรักษามะเร็งปอด บริษัท Roche บริษัทยาจากสวีเดนที่มียาสำหรับรักษาโรคมะเร็งที่หลากหลาย ตั้งแต่ Herceptin สำหรับรักษามะเร็งเต้านม และ Avastin ที่ใช้รักษามะเร็งได้หลายชนิด ตั้งแต่มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งปอด และมะเร็งไต

ล่าสุด BioNTech บริษัทยาสัญชาติเยอรมัน กำลังเร่งพัฒนาวัคซีนรักษาโรคมะเร็งด้วยเทคโนโลยี mRNA ที่เรารู้จักกันดีจากวัคซีนโควิด ซึ่งเดิมที BioNTech วิจัยและพัฒนาวัคซีน mRNA เพื่อใช้สำหรับป้องกันและรักษาโรคมะเร็ง แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 เทคโนโลยี mRNA จึงถูกนำมาประยุกต์ใช้อย่างเร่งด่วน โดยหลักการทำงานของวัคซีน mRNA คือ เมื่อฉีดวัคซีน mRNA เข้าไปในร่างกาย ร่างกายจะสร้างโปรตีนที่มีลักษณะคล้ายกับโปรตีนหนามของเชื้อโควิด แต่ไม่มีอันตรายต่อร่างกายขึ้นมาเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานมาต่อสู้กับเชื้อโควิดได้ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับที่จะนำมาใช้เพื่อรักษาโรคมะเร็ง

การรักษาโรคมะเร็งด้วยเทคโนโลยี mRNA แตกต่างจากการรักษาด้วยเคมีบำบัด ตรงที่หากเป็นเคมีบำบัดจะไม่สามารถแยกได้ว่าให้โจมตีเฉพาะเซลล์มะเร็ง แต่จะเป็นการโจมตีเซลล์อื่นที่ไม่ผิดปกติไปด้วย และแน่นอน ผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยเคมีบำบัดจะค่อนข้างมาก เช่น มีไข้ หนาวสั่น อ่อนเพลีย มีจุดเลือดตามตัว คลื่นไส้ อาเจียน ทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและอาจไม่สามารถรับการรักษาอย่างต่อเนื่องได้ แต่การรักษาแบบ mRNA จะมีความเฉพาะเจาะจงกว่า เพราะจะต้องนำรหัสพันธุกรรมจากเซลล์มะเร็งของแต่ละบุคคลมาฉีดเพื่อให้ร่างกายเรียนรู้และสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาเพื่อสู้กับเชื้อนั้นโดยเฉพาะ

BioNTech จะเริ่มทำการทดลองรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วย mRNA ในสหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรก โดยจะเริ่มในช่วงเดือนกันยายนปีนี้ และตั้งเป้าจะรักษาได้ราว 10,000 ภายในปี 2030 การแพร่ระบาดของ COVID-19 เป็นปัจจัยเร่งที่ทำให้ BioNTech เข้าใจการทำงานของ mRNA มากขึ้น และสามารถผลิตวัคซีนได้เร็วขึ้น ซึ่งหากการทดลองรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วย mRNA ประสบผลสำเร็จ จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการแพทย์ทั่วโลก และจะสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคมะเร็งได้อีกจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคโนโลยี mRNA ที่ใช้วิธีการรักษาแบบเฉพาะเจาะจงในผู้ป่วยแต่ละราย ทำให้ค่าใช้จ่ายในการรักษามีโอกาสที่จะอยู่ในระดับสูง ซึ่งเราสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาด้วยการทำประกันสุขภาพ โดยปัจจุบันมีประกันที่คุ้มครองโรคมเร็งโดยเฉพาะ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและเปิดโอกาสให้เราสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุด

 

====================================================

 

เผยแพร่ครั้งแรกที่คอลัมน์ Holistic Financial Planning ใน กรุงเทพธุรกิจ

โดย ณัฐพร ธรวงศ์ธวัช AFPTTM

Senior Wealth Manager ธนาคารทิสโก้

 

บทความล่าสุด

ปรับพอร์ตอย่างไรในช่วงเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว 

โพสต์เมื่อ 27 กรกฎาคม 2567

การปรับพอร์ตการลงทุนตามสถานการณ์เศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้พอร์ตการลงทุนมีความยืดหยุ่นและสามารถรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นด้วย โดยมีวิธีปรับตามการวิเคราะห์วงจรเศรษฐกิจ 4 ช่วง

อ่านต่อ >>

ถึงเวลาเพิ่มน้ำหนักหุ้น รับเศรษฐกิจฟื้นตัว

โพสต์เมื่อ 27 กรกฎาคม 2567

เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ช่วงของการฟื้นตัว ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายเริ่มกลับทิศเป็นขาลงภายใต้สถานการณ์นี้ เป็นช่วงที่เหมาะกับการลงทุนใน “หุ้น” ที่สุด

อ่านต่อ >>

3 กลยุทธ์ปรับพอร์ต ก่อนเลือกตั้งสหรัฐฯ

โพสต์เมื่อ 27 กรกฎาคม 2567

ปัจจัยที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามองมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการเลือกตั้งสหรัฐฯที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. นี้ ซึ่งจะเป็นการ Rematch ระหว่าง Donald Trump กับ Joe Biden และถือเป็นอีกครั้งในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯนับตั้งแต่ปี 1956 ที่ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้งคู่ต่างเป็น “อดีตประธานาธิบดี”

อ่านต่อ >>