ปฏิวัติวงการประกัน ด้วย New Health Standard 

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1655190675261 1

แต่เดิมปัญหาของคนซื้อประกันสุขภาพมีอยู่หลายประเด็นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ความคุ้มครองของกรมธรรม์ที่ไม่ครอบคลุมถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์และนวัตกรรมการรักษาสมัยใหม่ การปฏิเสธการต่ออายุกรมธรรม์ เนื่องจากมีการเบิกเคลมเงินผลประโยชน์ที่สูง ซึ่งส่งผลให้ความคุ้มครองสิ้นสุดลง และการที่จะไปทำประกันตัวใหม่ๆ ก็ทำได้ยาก เนื่องจากมีประวัติการเจ็บป่วย ตลอดจนการเปรียบเทียบผลประโยชน์และความคุ้มครองของแต่ละกรมธรรม์ก็ทำได้ยาก เนื่องจากแต่ละกรมธรรม์ให้คำจำกัดความและรายละเอียดที่ไม่เหมือนกัน ทำให้มีคนจำนวนมากที่ถึงแม้จะเห็นข้อดีของประกันสุขภาพและประกันชีวิต แต่สุดท้ายแล้วก็กลับไม่ตัดสินใจทำประกันด้วยปัญหาดังกล่าว

ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 คปภ. มีประกาศให้บริษัทประกันภัยเริ่มใช้สัญญาประกันสุขภาพตามมาตรฐานใหม่ (New Health Standard) สำหรับลูกค้ารายใหม่ ส่วนกรมธรรม์ประกันรูปแบบเดิมให้ขายได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ที่จะถึงนี้ เท่ากับว่าประกันสุขภาพกรมธรรม์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้จะต้องเป็นไปตามข้อบังคับตามมาตรฐานใหม่ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าใจรายละเอียดต่างๆ และเปรียบเทียบตารางผลประโยชน์ของแต่ละกรมธรรม์ได้ง่ายมากขึ้น ตลอดจนช่วยกลบช่องโหว่ของประกันสุขภาพและเสริมให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ทันสมัย 

โดยเมื่อมาตรฐานสุขภาพใหม่ หรือ New Health Standard มีการบังคับใช้ เราจะสามารถเทียบความคุ้มครองของประกันในแต่ละกรมธรรม์ได้ง่าย เนื่องจากความคุ้มครองจะแบ่งแยกออกเป็น 13 หมวดย่อย ทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่เป็นผลดีต่อผู้เอาประกันอย่างมาก อาทิ หากบริษัทประกันต้องการเพิ่มเบี้ยประกันจำเป็นต้องเพิ่มเบี้ยประกันทั้ง Portfolio หรือผู้เอาประกันทุกราย ไม่สามารถเพิ่มเบี้ยประกันเป็นรายบุคคลได้ และประเด็นที่สำคัญที่สุดประเด็นหนึ่ง คือการบอกเลิกกรมธรรม์ ซึ่งบริษัทประกันจะไม่สามารถบอกเลิกสัญญาได้ ยกเว้นแต่เราปกปิดข้อมูลสุขภาพมีการเคลมค่ารักษาพยาบาลเกินความจำเป็นหรือไม่มีความจำเป็นทางการแพทย์ และการเรียกร้องผลประโยชน์การชดเชยรายวันสูงกว่ารายได้จริงต่อวันของผู้เอาประกัน 

และเมื่อเราสามารถเทียบตารางผลประโยชน์ที่แต่ละกรมธรรม์เสนอให้ได้ง่ายขึ้นแล้ว การตัดสินใจเลือกว่าจะทำประกันฉบับใดก็จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงค่าเบี้ยประกันที่เราต้องจ่ายโดยเฉพาะค่าเบี้ยประกันช่วงหลังเกษียณอายุ เนื่องจากเป็นช่วงที่เราไม่มีรายได้ ตลอดจนระยะเวลาความคุ้มครองที่กรมธรรม์ประกันฉบับนั้นให้ความคุ้มครองกับเรา โดย Macrotrend คาดการณ์ว่า อายุเฉลี่ยของคนไทยจะยืนยาวขึ้นจาก 77.56 ปี ในปี 2022 และเพิ่มเป็น 82.36 ปี ในปี 2050 ซึ่งเท่ากับว่าเราจะต้องการประกันที่ให้ระยะเวลาคุ้มครองที่ยาวนานขึ้น เพื่อสอดรับกับอายุขัยที่ยืนยาวขึ้นเช่นเดียวกัน 

จะเห็นได้ว่า New Health Standard มีบทบาทในการช่วยผู้ซื้อประกันให้สามารถเปรียบเทียบความน่าสนใจของแต่ละกรมธรรม์ได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้เอาประกันสามารถเลือกรูปแบบของกรมธรรมที่เหมาะสมกับตน แต่อย่างไรก็ดีแม้ต่อไปบริษัทประกันจะไม่สามารถบอกเลิกสัญญาได้ แต่เชื่อว่าการรับประกันในอนาคตอาจจะมีความยากและเข้มงวดกว่าในปัจจุบันมาก ทำให้ผู้เอาประกันจำเป็นที่จะต้องศึกษารายละเอียด ข้อบังคับ และเงื่อนไขต่างๆ ก่อนทำประกันให้ถี่ถ้วน เพื่อประโยชน์ของผู้เอาประกันเองและเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นเมื่อต้องการเคลมผลประโยชน์ในอนาคต

 

====================================================

 

เผยแพร่ครั้งแรกที่คอลัมน์ Make Money Make Healthy ใน TNN

บทความล่าสุด

4 ปัจจัยหนุน หุ้นญี่ปุ่นพุ่งทะยานปี 2025

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2025 ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากนโยบายกีดกันทางค้าของสหรัฐฯ ความเสี่ยงเงินเฟ้อที่อาจกลับมาเร่งตัวขึ้น ตลอดจน Valuation ของตลาดหุ้นหลายแห่งที่เริ่มตึงตัว ปัจจัยเหล่านี้อาจสร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นทั่วโลกได้

อ่านต่อ >>

ยุคทองของหุ้นสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้น 

นายโดนัลด์ ทรัมป์ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่า “ยุคทอง” ของสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้นขึ้น โดยออกคำสั่งประธานาธิบดี (Executive orders) หลายฉบับ และคำแถลงต่างๆ ที่เป็นแนวทางในการบริหารประเทศในช่วง 100 วันแรก

อ่านต่อ >>

เปิด 3 กลยุทธ์ ที่ต้องมีเมื่อเริ่มยุคทองของทรัมป์ในปี 2025

ผ่านพ้นปี 2024 เป็นปีที่สินทรัพย์ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกต่อเนื่องอีกปี ตลาดหุ้นโลกให้ผลตอบแทน 18% ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 20% ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แม้แต่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นได้ 18% หลังจากเงียบเหงามากว่า 2 ปี

อ่านต่อ >>

4 ปัจจัยหนุน หุ้นญี่ปุ่นพุ่งทะยานปี 2025

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2025 ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากนโยบายกีดกันทางค้าของสหรัฐฯ ความเสี่ยงเงินเฟ้อที่อาจกลับมาเร่งตัวขึ้น ตลอดจน Valuation ของตลาดหุ้นหลายแห่งที่เริ่มตึงตัว ปัจจัยเหล่านี้อาจสร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นทั่วโลกได้

อ่านต่อ >>

ยุคทองของหุ้นสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้น 

นายโดนัลด์ ทรัมป์ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่า “ยุคทอง” ของสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้นขึ้น โดยออกคำสั่งประธานาธิบดี (Executive orders) หลายฉบับ และคำแถลงต่างๆ ที่เป็นแนวทางในการบริหารประเทศในช่วง 100 วันแรก

อ่านต่อ >>

เปิด 3 กลยุทธ์ ที่ต้องมีเมื่อเริ่มยุคทองของทรัมป์ในปี 2025

ผ่านพ้นปี 2024 เป็นปีที่สินทรัพย์ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกต่อเนื่องอีกปี ตลาดหุ้นโลกให้ผลตอบแทน 18% ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 20% ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แม้แต่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นได้ 18% หลังจากเงียบเหงามากว่า 2 ปี

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า