“Liquid Biopsy” จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดให้กับผู้ป่วยมะเร็งได้อย่างไร ?

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1617962666073 1

ตามสถิติพบว่า หากผู้ป่วยสามารถตรวจพบมะเร็งในระยะที่ยังไม่ลุกลามได้ จะมีโอกาสรอดชีวิตภายหลังจากที่ตรวจพบมากกว่า 5 ปี ถึง 89% แต่หากไปตรวจเจอว่าเป็นระยะลุกลามแล้ว โอกาสที่จะรอดชีวิตเกินกว่า 5 ปีมีเพียง 24% เท่านั้น…

“Liquid Biopsy” จะช่วยเพิ่มโอกาสรอดให้กับผู้ป่วยมะเร็งได้อย่างไร ?!?!?! ติดตามจากบทความค่ะ

รู้จัก “Liquid Biopsy” เทคโนโลยีตรวจหามะเร็งจากเลือด

แต่เดิมการตรวจหาโรคมะเร็งนั้น อาจเริ่มตั้งแต่การตรวจหาก้อนเนื้อที่เจริญเติบโตผิดปกติในร่างกาย จากนั้นก็ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ หรือ Tumor Biopsy ซึ่งยังมีข้อเสียอยู่บ้างในกรณีที่มะเร็งระยะเริ่มต้นที่ชิ้นเนื้อมีขนาดเล็กมากจนตรวจหาไม่พบ หรือพบชิ้นเนื้ออยู่ใกล้กับอวัยวะภายในที่สำคัญที่ทำการผ่าตัดได้ยาก แต่หากไม่ตรวจให้แน่ชัดว่าชิ้นเนื้อนั้นเป็นเนื้อดีหรือเนื้อร้าย อาจทำให้เกิดความล่าช้าในการรักษาได้

ดังนั้น “Liquid Biopsy” ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถตรวจหาและวิเคราะห์มะเร็ง จากเลือดของผู้ป่วยได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องผ่าชิ้นเนื้อ จึงเป็นสิ่งที่เข้ามาตอบโจทย์ด้านการตรวจหาโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าที่เคยเป็น
 

โดยแนวคิดของ Liquid Biopsy เริ่มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1869 นายแพทย์ Thomas Ashworth เผยแพร่งานวิจัยว่า เซลล์มะเร็งจะปลดปล่อยสารพันธุกรรมของเซลล์มะเร็งสู่กระแสเลือดได้ ซึ่งมี 2 รูปแบบ คือ

ชิ้นส่วนของสารพันธุกรรมจากเซลล์มะเร็งที่ตายได้เข้าสู่กระแสเลือด เรียกว่า ชิ้นส่วนของสารพันธุกรรมมะเร็งในกระแสเลือด (Circulating Tumor DNA: ctDNA)

เซลล์ทั้งเซลล์ที่แยกออกจากเซลล์มะเร็ง เรียกว่า เซลล์มะเร็งในกระแสเลือด (Circulating Tumor Cell: CTC)

จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2016 การตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งด้วยวิธี Liquid Biopsy ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา (US FDA) ให้เป็นวิธีการตรวจหามะเร็งเบื้องต้น (Early Detection) ซึ่งปัจจุบันมักนิยมใช้ตรวจหามะเร็งเต้านม ลำไส้ ต่อมน้ำเหลือง ปอด ผิวหนัง และไทรอยด์

อย่างไรก็ดีเทคโนโลยี Liquid Biopsy ในช่วง 10 ปีก่อนยังไม่แม่นยำพอที่จะใช้เปลี่ยนเครื่องมือวินิจฉัยหลัก เนื่องจาก ctDNA อาจมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับ DNA ทุกชนิดในเลือด ซึ่งอาจเกิดผลลวงจากการตรวจได้ จึงยังจำเป็นต้องใช้วิธีการตรวจชิ้นเนื้อควบคู่กันไป เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัย

นอกจากนี้เซลล์มะเร็งมักมีการกลายพันธุ์ตลอดเวลาจนทำให้วิธี Liquid Biopsy ยังเป็นเพียงแค่เป็นเครื่องมือตรวจหามะเร็งเบื้องต้นเท่านั้น

“Liquid Biopsy” ในประเทศไทย

ด้วยนวัตกรรมการแพทย์ในปัจจุบัน เทคโนโลยีการจัดเรียงลำดับพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต (DNA Sequencing) จะเข้ามาเป็นตัวช่วยให้ Liquid Biopsy มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต

ประการแรกคือ ทำให้การวินิจฉัยมะเร็งแม่นยำมากขึ้นว่า เป็นมะเร็งชนิดใด และอยู่ตำแหน่งไหนในร่างกาย และยังสามารถติดตามผลการรักษาว่าเป็นอย่างไรเพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนแผนการรักษาได้อย่างทันท่วงที ตามอาการของผู้ป่วยระหว่างการรักษา ด้วยวิธีการทางเทคนิคคือ นำ ctDNA ที่อยู่ในเลือดมาจัดเรียง DNA และอาศัยการประมวลผลหลายๆ ครั้ง เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวินิจฉัย ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงการตรวจไม่พบหรือตรวจเจอผลลวง

โดยสำหรับประเทศไทยนั้น มีการใช้ Liquid Biopsy เพื่อประกอบการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งแล้ว เช่น ศูนย์จุฬายีนโปร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ใช้ตรวจหามะเร็งปอดที่เกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมจากเลือดของผู้ป่วย รวมทั้งการตรวจการกลายพันธุ์ของยีนที่มีผลต่อการรักษา โดยการตรวจยีน Epidermal Growth Factor Receptor (EGFR) จากเลือดของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด ซึ่งหากป่วยเป็นมะเร็งปอดด้วยสาเหตุดังกล่าว การให้ยาแบบ Targeted Therapy จะได้ผลดีสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้มากกว่า

กล่าวคือ ผลข้างเคียงจะน้อยกว่าการทำเคมีบำบัด ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากกับผู้ป่วยในกรณีที่ชิ้นเนื้อมีปริมาณไม่เพียงพอต่อการตรวจหรือผู้ป่วยอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอและไม่สามารถตัดชิ้นเนื้อออกมาตรวจได้

สรุปก็คือ วิธีการตรวจหามะเร็งด้วย Liquid Biopsy กำลังพัฒนาเป็นนวัตกรรมสำคัญที่จะช่วยให้มนุษย์สามารถตรวจพบมะเร็งได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะช่วยให้เพิ่มโอกาสรอดชีวิตจากมะเร็งได้มากขึ้น

รวมทั้งช่วยติดตามผลการรักษาว่าเซลล์มะเร็งจะกลายพันธุ์ไปหรือไม่ เพื่อปรับเปลี่ยนแผนการรักษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และยังตัดข้อจำกัดการตรวจโรคหากผู้ป่วยอยู่ในภาวะที่อ่อนแอจนไม่สามารถตัดชิ้นเนื้อมาตรวจได้ ซึ่งวงการแพทย์ของไทยในปัจจุบันถือได้ว่ามีเครื่องมือที่ทัดเทียมระดับโลก

นั่นหมายความว่าในความโชคร้ายที่เราอาจเป็นหนึ่งคนที่มีโอกาสป่วยเป็นโรคมะเร็ง ยังมีความโชคดีที่เทคโนโลยีการแพทย์ของไทยสามารถตรวจพบมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะแรกที่มีโอกาสหายเป็นปกติได้ง่าย

บทความโดย : ศิวกร ทองหล่อ AFPTTM Wealth Manager ธนาคารทิสโก้

บทความล่าสุด

ปรับพอร์ตลงทุน สู้ศึกครึ่งปีหลัง 2025

เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังปี 2025 สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกยังคงเผชิญความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากความไม่แน่นอนในการเจรจาภาษีนำเข้าของสหรัฐฯกับคู่ค้า รวมถึงสงครามในตะวันออกกลางที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้การคาดเดาทิศทางเศรษฐกิจและจับจังหวะตลาดเป็นเรื่องที่ยาก

อ่านต่อ >>

เลือกประกันโรคร้ายแรงให้รอดจากค่าใช้จ่ายอัลไซเมอร์ 

เมื่อพูดถึงเหตุผลของการมีประกันโรคร้ายแรงเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาสุขภาพ เรามักจะคิดถึงโรคที่มีผลร้ายแรงแบบเฉียบพลันจนถึงแก่ชีวิต หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคหัวใจ, โรคมะเร็ง, ทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคเบาหวาน ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มโรคข้างต้นทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เมื่อปี 2021 พบสาเหตุของการเสียชีวิตด้วยโรค NCDs กว่า 80%

อ่านต่อ >>

Super Stocks ปลดล็อกพอร์ตลงทุน ข้ามวัฏจักรเศรษฐกิจ

ในโลกการลงทุนที่ตลาดหุ้นผันผวนรุนแรงจนกลายเป็น “New Normal” นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเริ่มยกธงขาวยอมแพ้และยอมรับว่า การพยายามจับจังหวะตลาดหรือคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจ อาจไม่ใช่คำตอบที่ยั่งยืนอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม มีกลยุทธ์การลงทุนหนึ่งที่เรียบง่าย แต่ทรงพลัง ซึ่งได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมในระยะยาว โดยไม่ต้องจับจังหวะตลาดหรือปรับพอร์ตตามวัฏจักรเศรษฐกิจ คือ การลงทุนในหุ้นที่เรียกว่า “Super Stocks

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตลงทุน สู้ศึกครึ่งปีหลัง 2025

เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังปี 2025 สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกยังคงเผชิญความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากความไม่แน่นอนในการเจรจาภาษีนำเข้าของสหรัฐฯกับคู่ค้า รวมถึงสงครามในตะวันออกกลางที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้การคาดเดาทิศทางเศรษฐกิจและจับจังหวะตลาดเป็นเรื่องที่ยาก

อ่านต่อ >>

เลือกประกันโรคร้ายแรงให้รอดจากค่าใช้จ่ายอัลไซเมอร์ 

เมื่อพูดถึงเหตุผลของการมีประกันโรคร้ายแรงเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาสุขภาพ เรามักจะคิดถึงโรคที่มีผลร้ายแรงแบบเฉียบพลันจนถึงแก่ชีวิต หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคหัวใจ, โรคมะเร็ง, ทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคเบาหวาน ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มโรคข้างต้นทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เมื่อปี 2021 พบสาเหตุของการเสียชีวิตด้วยโรค NCDs กว่า 80%

อ่านต่อ >>

Super Stocks ปลดล็อกพอร์ตลงทุน ข้ามวัฏจักรเศรษฐกิจ

ในโลกการลงทุนที่ตลาดหุ้นผันผวนรุนแรงจนกลายเป็น “New Normal” นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเริ่มยกธงขาวยอมแพ้และยอมรับว่า การพยายามจับจังหวะตลาดหรือคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจ อาจไม่ใช่คำตอบที่ยั่งยืนอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม มีกลยุทธ์การลงทุนหนึ่งที่เรียบง่าย แต่ทรงพลัง ซึ่งได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมในระยะยาว โดยไม่ต้องจับจังหวะตลาดหรือปรับพอร์ตตามวัฏจักรเศรษฐกิจ คือ การลงทุนในหุ้นที่เรียกว่า “Super Stocks

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า