Multi-Cancer Screening นวัตกรรมรักษามะเร็งเปลี่ยนโลก

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1629276276205 1

“เมื่อเอาชนะโควิดได้แล้ว เราจะทำทุกวิถีทาง เพื่อจัดการกับโรคมะเร็ง” คำกล่าวนี้เป็นส่วนหนึ่งของสุนทรพจน์ของ Joe Biden ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่แสดงถึงความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะต่อสู้กับโรคมะเร็ง โรคร้ายแรงซึ่งได้พรากชีวิตลูกชายของเขาให้จากไปก่อนวัยอันควรในวัยเพียง 46 ปีและยังเป็นโรคร้ายแรงที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับสองของคนอเมริกันกว่า 6 แสนรายในแต่ละปี

ในมุมมองของรัฐบาล Biden นั้น โรคมะเร็งถือเป็นศัตรูตัวฉกาจต่อชีวิตของชาวอเมริกันไม่แพ้โควิด จากการคาดการณ์ของ American Cancer Society ชี้ว่าในปี 2021 จะมีผู้ป่วยมะเร็งชาวอเมริกันรายใหม่เพิ่มขึ้น 1.9 ล้านราย ทำให้รัฐบาลของ Biden ตัดสินใจตั้งหน่วยงานวิจัยชื่อว่า Advance Research Projects Agency of Health (ARPA-H) เพื่อทำหน้าที่ในการวิจัยและพัฒนาวิธีการรักษาโรคมะเร็ง รวมถึงโรคร้ายแรงชนิดอื่นๆ   

ค้นหามะเร็งด้วยเทคโนโลยี Multi-Cancer Screening

ตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา การรักษาผู้ป่วยมะเร็งมักจะเป็นการรักษาแบบเชิงรับ นั่นก็คือการรักษาไปตามอาการเมื่อคนไข้แสดงอาการออกมา เช่น การผ่าตัด การฉายแสง ตลอดจนการให้ยา แต่เนื่องจากโรคมะเร็งนั้น หากยิ่งตรวจพบได้เร็วตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น จะยิ่งช่วยลดอัตราการเสียชีวิตให้กับคนไข้ได้กว่า 90% และมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้ค่อนข้างสูง รวมถึงมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ต่ำ การรักษามะเร็งแบบ Preventive จึงได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญและก่อให้เกิดนวัตกรรมการตรวจคัดกรองมะเร็ง (Multi-Cancer Screening) ขึ้น

Multi-Cancer Screening เป็นการผสานกันระหว่างความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้าน Genome ซึ่งสามารถถอดรหัสพันธุกรรมของมนุษย์ได้ ร่วมกับการประยุกต์ใช้ AI (Artificial Intelligence) และ Machine Learning เข้ามาช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมมีความแม่นยำสูงและประมวลผลได้รวดเร็ว ทำให้สามารถคัดกรองมะเร็งให้พบได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มต้นจากการระบุตำแหน่งความผิดปกติของยีนและสามารถลดอัตราการเสียชีวิตของคนไข้ได้อย่างมีนัยสำคัญ 

ต้นทุนในการทำ Multi-Cancer Screening ได้ลดลงจาก 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2015 มาอยู่ที่ประมาณ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปัจจุบัน โดย ARK Invest คาดการณ์ว่า ต้นทุนดังกล่าวจะลดลงต่อเนื่องเหลือเพียง 250 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2025 และสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยมะเร็งในสหรัฐฯ ได้ถึง 6.6 หมื่นคนต่อปี ด้วยต้นทุนการคัดกรองมะเร็งที่ถูกลงอย่างมีนัยสำคัญและประสิทธิภาพที่เหนือกว่าการคัดกรองมะเร็งในรูปแบบดั้งเดิม จะส่งผลให้ Total Addressable Market (TAM) หรือขนาดตลาดรวมของ Multi-Cancer Screening เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไปสู่ระดับ 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2025 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยแบบทบต้นของอุตสาหกรรมราว 20% ต่อปี 

ธุรกิจนวัตกรรมการแพทย์พลิกโฉมการลงทุน

นวัตกรรม Multi-Cancer Screening ไม่ได้เพียงแต่พลิกโฉมรูปแบบการรักษามะเร็งและช่วยชีวิตผู้ป่วยมะเร็งที่มีจำนวนมหาศาลได้เท่านั้น แต่ในแง่ของการลงทุน หุ้นที่ทำธุรกิจ Cancer Screening ก็ถือเป็นหุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมให้กับนักลงทุนได้เช่นกัน เช่น บริษัท Exact Sciences Corporation ผู้นำในธุรกิจ Early Cancer Detection ซึ่งมีการนำเทคโนโลยี Genome มาประยุกต์ใช้ในการตรวจคัดกรองมะเร็ง โดยเน้นไปที่คนไข้กลุ่มเสี่ยงที่มีอายุมากกว่า 45 ปีขึ้นไป ซึ่งมีจำนวนกว่า 100 ล้านคนในสหรัฐฯ บริษัทมี Cologuard ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือในการตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่ที่มีความแม่นยำสูงถึง 92% เป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท  

โดยต้นทุนในการใช้ชุดตรวจนี้อยู่เพียงแค่ 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต้องตรวจซ้ำทุก 3 ปีและมีความสะดวกในการใช้งาน เนื่องจากสามารถซื้อมาทดสอบด้วยตัวเองที่บ้านได้ นอกจากนี้ สำหรับคนที่อยู่ในระบบประกันสุขภาพของสหรัฐฯ ก็สามารถใช้บริการดังกล่าวได้ฟรี เนื่องจากบริษัทประกันคุ้มครอง ส่งผลให้บริษัท Exact Sciences Corporation สามารถเพิ่ม Market Share ในตลาด Cancer Screening ได้อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา รายได้ของบริษัท Exact Sciences Corporation มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยแบบทบต้นสูงถึง 106.8% ต่อปี และราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 2,000% หรือ 20 เท่าตัวในช่วงเวลาเดียวกัน   

อีกตัวอย่างหนึ่งได้แก่ บริษัท Guardant Health ที่มีความชำนาญในด้านการตรวจคัดกรองมะเร็งแบบ “Liquid Biopsy” หรือการนำตัวอย่างเลือดเพื่อไปตรวจหามะเร็ง โดยมีการประยุกต์ใช้ AI เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลและรหัสพันธุกรรมของผู้ป่วยแต่ละราย จากการคาดการณ์ของ Morningstar พบว่า TAM ของตลาดการตรวจมะเร็งด้วยวิธี Liquid Biopsy ในสหรัฐฯ จะอยู่ที่ประมาณ 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่นับรวมโอกาสการเติบโตที่จะขยายไปต่างประเทศ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของบริษัทอย่างมหาศาลในอนาคต โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รายได้ของบริษัท Guardant Health มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยแบบทบต้นถึง 78% ต่อปี ในขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 340% ตั้งแต่จดทะเบียนเข้าซื้อ-ขายในตลาดหุ้น Nasdaq ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2018 

จะเห็นว่า ตลาด Multi-Cancer Screening เป็นหนึ่งใน Health Innovation ที่มีการเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดและน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งในช่วง 5 ปีข้างหน้า จาก Penetration Rate ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนให้เห็นว่า โอกาสการลงทุนที่จะสร้างผลตอบแทนแบบ Exponential Growth ในอุตสาหกรรมการแพทย์ไม่ได้ซ่อนอยู่ในหุ้นแบบ Conventional Healthcare อีกต่อไป หน้าที่ของนักลงทุนจึงเป็นการจับกระแสการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม หานวัตกรรมใหม่ที่เติบโตเร็วและลงทุนไปกับหุ้นของบริษัทที่จะเข้ามา Disrupt คนอื่น จนก้าวขึ้นไปเป็นผู้ชนะในอุตสาหกรรม    

 

==============================

 

เผยแพร่ครั้งแรกที่ Make Money Make Healthy  TNN

บทความล่าสุด

จับจังหวะความผันผวนระยะสั้น ช่วยเสริมพอร์ตเติบโตระยะยาว

สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังอิสราเอลและอิหร่านตอบโต้กันด้วยปฏิบัติการทางทหารอย่างรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนหนัก ทั้งราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ราคาทองคำที่แตะระดับสูงสุดใหม่ ภาพลงทุนเข้าสู่โหมดตั้งรับความเสี่ยง (Risk off) หุ้นส่วนใหญ่ถูกเทขายจากความกังวล

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตลงทุน สู้ศึกครึ่งปีหลัง 2025

เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังปี 2025 สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกยังคงเผชิญความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากความไม่แน่นอนในการเจรจาภาษีนำเข้าของสหรัฐฯกับคู่ค้า รวมถึงสงครามในตะวันออกกลางที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้การคาดเดาทิศทางเศรษฐกิจและจับจังหวะตลาดเป็นเรื่องที่ยาก

อ่านต่อ >>

เลือกประกันโรคร้ายแรงให้รอดจากค่าใช้จ่ายอัลไซเมอร์ 

เมื่อพูดถึงเหตุผลของการมีประกันโรคร้ายแรงเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาสุขภาพ เรามักจะคิดถึงโรคที่มีผลร้ายแรงแบบเฉียบพลันจนถึงแก่ชีวิต หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคหัวใจ, โรคมะเร็ง, ทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคเบาหวาน ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มโรคข้างต้นทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เมื่อปี 2021 พบสาเหตุของการเสียชีวิตด้วยโรค NCDs กว่า 80%

อ่านต่อ >>

จับจังหวะความผันผวนระยะสั้น ช่วยเสริมพอร์ตเติบโตระยะยาว

สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังอิสราเอลและอิหร่านตอบโต้กันด้วยปฏิบัติการทางทหารอย่างรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนหนัก ทั้งราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ราคาทองคำที่แตะระดับสูงสุดใหม่ ภาพลงทุนเข้าสู่โหมดตั้งรับความเสี่ยง (Risk off) หุ้นส่วนใหญ่ถูกเทขายจากความกังวล

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตลงทุน สู้ศึกครึ่งปีหลัง 2025

เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังปี 2025 สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกยังคงเผชิญความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากความไม่แน่นอนในการเจรจาภาษีนำเข้าของสหรัฐฯกับคู่ค้า รวมถึงสงครามในตะวันออกกลางที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้การคาดเดาทิศทางเศรษฐกิจและจับจังหวะตลาดเป็นเรื่องที่ยาก

อ่านต่อ >>

เลือกประกันโรคร้ายแรงให้รอดจากค่าใช้จ่ายอัลไซเมอร์ 

เมื่อพูดถึงเหตุผลของการมีประกันโรคร้ายแรงเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาสุขภาพ เรามักจะคิดถึงโรคที่มีผลร้ายแรงแบบเฉียบพลันจนถึงแก่ชีวิต หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคหัวใจ, โรคมะเร็ง, ทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคเบาหวาน ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มโรคข้างต้นทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เมื่อปี 2021 พบสาเหตุของการเสียชีวิตด้วยโรค NCDs กว่า 80%

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า