โลกเสี่ยงเศรษฐกิจถดถอย แต่กองทุนไบโอเทค-ดิจิตอล เฮลธ์แคร์สู้ได้ ?!?

file

“โลกกำลังเดินหน้าเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือ Recession” เป็นประเด็นที่หลายคนน่าจะได้ยินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในช่วงที่ผ่านมา ทุกคนต่างมองหาแหล่งพักเงินให้ปลอดภัย ทั้งที่จริงแล้ว เราสามารถสู้ เพื่อสร้างผลตอบแทนสวนตลาดได้..คุณพร้อมลุกขึ้นสู้แล้วหรือยัง?

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ถ้าเศรษฐกิจโลกเป็นเหมือนคนที่ตีตั๋วเล่นรถไฟเหาะ ก็ต้องถือว่าได้เจอแรงเหวี่ยงมาเกือบครบทุกโค้งวัฏจักรแล้ว โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งเป็นเส้นทางที่พาเศรษฐกิจโลกดิ่งลงอย่างรวดเร็ว จากภาวะการปิดเมืองทั่วโลก

หลังจากนั้นก็ได้เข้าสู่เฟสของการขยายตัว (Expansion)ในปี 2021 ซึ่งเกิดจาก 3 เรื่องหลัก 1.นโยบายการเงิน ที่มาจากการอัดฉีดเม็ดเงินตามมาตรการทางการเงินเชิงปริมาณ (QE) และการลดดอกเบี้ย 2.นโยบายการคลัง ซึ่งมาจากการที่รัฐบาลก็เข้ามากระตุ้นด้วยการโครงการต่างๆ 3.การเปิดเมือง

แต่รถไฟขบวนนี้ก็แล่นมาถึงจุดที่ไปต่อไม่ได้ หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นมาก ทำให้กำลังซื้อลดลง แถมยังมีประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งก็ไปเพิ่มต้นทุนเงินทุนของบริษัทเอกชนต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจขึ้นต่อไม่ได้ จนเดินทางไปสู่จุดที่เรียกว่าเศรษฐกิจถดถอย (Recession) และมีโอกาสที่จะถอยลงเรื่อยๆไปถึงจุดต่ำสุด

ในภาวะแบบนี้ เป็นสถานการณ์ที่ทำให้วางแผนลงทุนยากขึ้น หลายคนอาจจะอยากเก็บเงินในแหล่งปลอดภัย เพราะกลัวความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทั้งที่จริงแล้วเรายังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น ด้วยกองทุนรวมที่เน้นธุรกิจ ไบโอเทคโนโลยี และกองทุนรวมดิจิตอล เฮลธ์แคร์

กองทุนรวม ไบโอเทคโนโลยี : ราคาถูก-เงินจ่อไหลเข้า-เป้าหมายถูกซื้อกิจการ

หากซื้อกองทุนรวมที่เน้นธุรกิจด้านไบโอเทคโนโลยีในตอนนี้ จะได้ราคาที่ไม่แพง เห็นได้จากการที่หุ้นกลุ่มไบโอเทคฯ ซื้อขายในระดับราคาที่ต่ำกว่าดัชนีS&P 500 Healthcare ซึ่งมีP/Eอยู่ที่ประมาณ 15.55 เท่า ในขณะที่ดัชนีS&P500 Biotechnlogy Industry Index ซึ่งเป็นตัวแทนของกลุ่มธุรกิจไบโอเทคฯ เทรดที่ P/E ประมาณ 11.22 เท่า (ข้อมูล ณ 28 มิ.ย.) ซึ่งหากเทียบอัตราส่วน P/E ระหว่างดัชนี S&P500 Biotechnology Industry และ S&P500 Healthcare จะพบว่าครั้งล่าสุดที่ราคาเคยปรับลดลงมาในระดับนี้ ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1998 ช่วงก่อนเกิดวิกฤตดอทคอม หรือประมาณ 20 ปีก่อน เลยทีเดียวจึงจะมีโอกาสได้ซื้อหุ้นในระดับราคาแบบนี้(1)

file

นอกจากนี้ธุรกิจในกลุ่มไบโอเทค ยังมีปัจจัยบวกจากโอกาสที่จะเกิดการควบรวมกิจการ (M&A) เข้ามาเป็นแรงหนุนด้วย โดยในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า กลุ่มธุรกิจไบโอเทคฯมีโอกาสจะเกิด M&A เพราะราคาหุ้นทั้งกลุ่มเล็กและใหญ่ ปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก ประกอบกับเป็นช่วงที่เพิ่งผ่าน COVID-19มา หลายบริษัทจึงไม่ได้มีการลงทุนมาก ทำให้ยังมีกระแสเงินสดดี ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะซื้อหุ้นที่ราคาปรับลดลง ทำให้โอกาสการเกิด M&A ระหว่างบริษัทมีความเป็นไปได้ยิ่งขึ้น(2)

นอกจากนี้กลุ่มหุ้นไบโอเทคฯยังมีโอกาสได้รับอานิสงส์จากเงินทุนไหลเข้า (Fund Flow) อีกด้วย เพราะเมื่อราคาหุ้นไบโอเทคฯอยู่ในระดับที่ไม่แพง แถมมีโอกาสที่จะได้รับข่าวบวกจากการ M&A ผสานกับประเด็นความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย ก็น่าจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้ Fund Flow เคลื่อนย้ายกลับเข้ามาในกลุ่มธุรกิจที่จะเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นอย่างชัดเจนขึ้น

กองทุนรวม ไบโอเทคโนโลยี : ราคาถูก-เงินจ่อไหลเข้า-เป้าหมายถูกซื้อกิจการ

ธุรกิจดิจิตอลเฮลธ์แคร์ เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เรียกได้ว่าน่าสนใจตรงที่ตอนนี้มีราคาที่ไม่แพง เห็นได้จาก Enterprise value Per sale หรือ มูลค่ากิจการต่อยอดขายซึ่งเคยปรับตัวขึ้นไปสูงเกือบ 14 เท่า แต่ในปลายปี 2021-2022 ได้ปรับตัวลดลงมาเทรดที่ 6เท่า เพราะได้รับแรงกดดันจากการที่บอนด์ยิลด์ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามสถานการณ์หลังจากนี้ประเมินว่าปัจจัยด้านบอนด์ยิลด์อาจจะเข้ามารบกวนธุรกิจนี้ได้ไม่มากแล้ว ดังนั้นแนวโน้มของการปรับตัวลดลง (Down side) ก็จะค่อนข้างจำกัด(3)

file

ไม่เพียงแค่นี้ธุรกิจในกลุ่มดิจิตอลเฮลธ์แคร์ ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ บริษัทโปรแกรมและซอฟแวร์ด้านการแพทย์ ฯลฯ ยังคงมีความสำคัญอย่างมากต่อการรักษาทั่วโลก ดังนั้นไม่ว่าเศรษฐกิจจะถดถอยหรือตลาดหุ้นเป็นช่วงขาลงผู้ป่วยก็ยังคงมีความต้องการสินค้าและบริการในกลุ่มนี้

ยกตัวอย่างเช่น DexCom, Inc. ผู้พัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายระบบตรวจสอบกลูโคส (CGM) สำหรับ“โรคเบาหวาน” ซึ่งเป็นโรคที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก และมีแนวโน้มจะเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่อง โดยองค์กรเบาหวานโลก (International Diabetes Federation) ประเมินว่าในปี 2021 มีผู้ป่วยทั่วโลกจำนวน 537 ล้านคน (อายุ 20-79 ปี) และคาดว่าภายในปี 2045 จะมีผู้ป่วย 783 ล้านคน เลยทีเดียว(4)

กองทุนรวม ไบโอเทคโนโลยี : ราคาถูก-เงินจ่อไหลเข้า-เป้าหมายถูกซื้อกิจการ

จากความโดดเด่นของสองธีมไบโอเทคฯ และ ธีมดิจิตอล เฮลธ์แคร์ ธนาคารทิสโก้ จึงคัดเลือก 2 กองทุนที่น่าสนใจ ได้แก่

กองทุนเปิด ทิสโก้ ไบโอเทคโนโลยี เฮลธ์แคร์ (TBIOTECH) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Polar Capital Funds plc - Biotechnology ชนิดหน่วยลงทุน I US Dollar (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายลงทุนอย่างน้อย 51% ของมูลค่าทรัพย์สินในตราสารทุนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) การวินิจฉัยโรค (Diagnostics) และเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต (Life Sciences Tools) ทั่วโลก กองทุนดังกล่าวบริหารและจัดการโดย Polar Capital LLP

และ กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล ดิจิตอล เฮลธ์ อิควิตี้ (TGHDIGI) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมหุ้นเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Credit Suisse (Lux) Digital Health Equity ชนิดหน่วยลงทุน MB USD (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายการลงทุนอย่างน้อย 2 ใน 3 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนในตราสารทุน หลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับตราสารทุน และใบแสดงสิทธิต่างๆ ที่ออกโดยบริษัทที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการทางการแพทย์ (Digital Health) ทั่วโลก รวมถึงกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ กองทุนดังกล่าวบริหารและจัดการโดย Credit Suisse Fund Management S.A.

โดยพิเศษเมื่อลูกค้าซื้อกองทุน TBIOTECH หรือ TGHDIGI ผ่านธนาคารทิสโก้ ระหว่างวันที่ 1 - 31 กรกฎาคม 2565 โดยมียอดเงินลงทุนสะสมทุกๆ 1 ล้านบาท หลังหักค่าธรรมเนียมการขาย รับ Central Gift Card มูลค่า 1,000 บาท

และสำหรับลูกค้าที่ลงทุนผ่านแอปพลิเคชัน TISCO My Wealth 250,000 บาทขึ้นไป รับ Central Gift Card มูลค่า 500 บาท

กองทุนเปิด TBIOTECH และ TGHDIGI ลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก และอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในต่างประเทศ โดยมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน ติดต่อสอบถามรายละเอียด หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 2 กด 4

====================

ที่มา

(1).”หุ้นกลุ่ม Biotech กำลังซื้อขาย Discount ดัชนี S&P 500 Healthcare” Bloomberg,June 2022

(2). “Which HC subsector is going to see the most M&A activity in 2H22” Goldman Sachs, June 2022

(3). “Valuation หุ้นกลุ่มHealthcare กลับมาใกล้เคียงช่วงโควิด” Credit Suisse, Mar 2022

(4). “Annual report which provides a comprehensive overview of the company for the past year”Dexcom, Feb 2022

================================

บทความโดย : นางวรสินี เศรษฐบุตร

ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุนและสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)

file

บทความล่าสุด

หุ้นกลุ่ม Healthcare ทวงคืนตำแหน่ง Top Performer บนเวทีหุ้นโลก

โพสต์เมื่อ 26 เมษายน 2567

ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา หุ้นกลุ่ม Healthcare กลับมาสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น จากแนวโน้มการเติบโตที่คาดว่าจะสูงกว่าตลาดโดยรวมในปีนี้ ในขณะที่ยังซื้อขายในระดับราคาที่ไม่แพงโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับกลุ่มเทคโนโลยีที่เติบโตในระดับใกล้เคียงกัน ทำให้ปีนี้มีโอกาสสูงที่กลุ่ม Healthcare จะกลับมาทวงคืนตำแหน่ง Top Performer บนเวทีตลาดหุ้นโลก

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตสร้างกำไร ขายหุ้นสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น เบนเข็มลงทุน “หุ้น Asia ex Japan”

โพสต์เมื่อ 26 เมษายน 2567

ในปี 2024 เศรษฐกิจโลกภาพรวมเติบโตดีกว่าคาด โดยภูมิภาคที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดคือ ภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่จะเติบโตได้ดีในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว และยังเป็นปีแห่งโอกาส

อ่านต่อ >>

จับจังหวะทำกำไร กับขาขึ้นรอบใหม่ของตลาดหุ้น Asia

โพสต์เมื่อ 26 เมษายน 2567

ตลาดหุ้นเอเชีย (Asia ex Japan) ถือเป็นตลาดหุ้นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงไม่แพ้ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Markets) โดยเฉพาะในฝั่งของภาคการผลิตที่บริษัทยักษ์ใหญ่จากภูมิภาคเอเชีย ได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในหลายอุตสาหกรรมการผลิตของโลก

อ่านต่อ >>