ตอบโจทย์ ตรงใจวัยเกษียณ ด้วยกองทุน Dual Shark – Fin

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1678344987023 1

     “เงินต้นไม่หาย แต่มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูง” คือ การลงทุนในฝันของนักลงทุนหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มคน “วัยเกษียณ” ที่ใจหนึ่งก็อยาก “รักษาเงินต้น” ที่ได้สั่งสมมาตลอดชีวิต ไม่กล้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง แต่อีกใจหนึ่งก็ยังคงอยากได้ “ผลตอบแทนที่สูง” กว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและตราสารหนี้ ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ทางการเงินได้มีความก้าวหน้ามากขึ้น จนเกิดทางเลือกการลงทุนรูปแบบใหม่อย่าง กองทุน Dual Shark – Fin ที่ตอบโจทย์นักลงทุนวัยเกษียณที่ยังมีความต้องการจะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความกังวลกับการสูญเสียเงินต้น ทำให้วัยเกษียณสามารถลงทุนได้อย่างสบายใจมากขึ้น อีกทั้งยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงได้ทั้งในภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง

       โดยทั่วไปรูปแบบการจัดพอร์ตลงทุนของคนวัยเกษียณส่วนใหญ่ มักจะมุ่งเน้นไปที่การ “ลดความเสี่ยง” ด้วยการลดสัดส่วนการลงทุนสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่น หุ้น และหันมาเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ อย่างเช่น เงินฝาก พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือ สินทรัพย์เสี่ยงต่ำเหล่านี้ ก็ให้ผลตอบแทนที่ต่ำตามไปด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้พอร์ตการลงทุนได้รับผลตอบแทนที่แพ้อัตราเงินเฟ้อ และยิ่งไปกว่านั้นยังคงต้องเผชิญกับปัญหา “เงินไม่พอใช้หลังเกษียณ” ในระยะยาว

         กองทุน Dual Shark – Fin เป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ Pain Point เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี เพราะมีลักษณะเป็นกองทุนลูกผสมที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ ผนวกกับ ตราสารอนุพันธ์ ทำให้กองทุนดังกล่าวมีคุณสมบัติที่พิเศษทั้งในแง่ของการ “ปกป้องเงินต้น พร้อมกับทำกำไรทั้งขาขึ้นและขาลง” โดยเป้าหมายการลงทุนของกองทุนดังกล่าวจะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้

         เป้าหมายแรก คือ การลดความเสี่ยงการขาดทุนเงินต้น ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดของนักลงทุนวัยเกษียณ ทำได้โดยการนำเงินลงทุนส่วนใหญ่ เช่น 98% ของเงินลงทุนทั้งหมดไปลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment Grade ขึ้นไป ดังนั้น เมื่อครบกำหนด กองทุนจะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยและเงินต้นคืน ส่งผลให้เงินลงทุนในส่วนนี้เติบโตขึ้นเป็น 100% นั่นเท่ากับว่า สามารถปิดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินต้นได้

         เป้าหมายต่อมา คือ การสร้างผลตอบแทนที่สูง ด้วยการนำเงินลงทุนส่วนน้อย เช่น 2% ของเงินลงทุนทั้งหมด ไปลงทุนในตราสารอนุพันธ์ เช่น Option หรือ Warrant โดยสามารถเลือกสินทรัพย์อ้างอิงได้หลากหลายประเภท เช่น ดัชนีตลาดหุ้น กองทุนรวม ETF ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ หากราคาสินทรัพย์อ้างอิงมีการเคลื่อนไหวไปตามเงื่อนไขที่กองทุนกำหนดไว้ นักลงทุนก็มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากหรือตราสารหนี้ได้ ในทางกลับกัน หากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงไม่เคลื่อนไหวไปตามเงื่อนไข นักลงทุนก็ไม่ต้องเผชิญกับภาวะการขาดทุนและยังได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

         ยกตัวอย่างเช่น กองทุน Dual Shark – Fin อายุ 1 ปีที่สินทรัพย์อ้างอิงเป็นดัชนี S&P 500 โดยมีการกำหนดกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไว้ที่ระหว่าง +20% กับ -20% อัตราการมีส่วนร่วม 50% และอัตราผลตอบแทนชดเชยที่ 0.25%

         ผลลัพธ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นจากการลงทุนกองทุน Dual Shark – Fin แบ่งได้ออกเป็น 2 กรณีหลัก ดังนี้

กรณีที่ 1 ดัชนี S&P 500 เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่กำหนดไว้ระหว่าง +20% กับ -20% ณ วันสิ้นอายุโครงการ

ยกตัวอย่างเช่น หากตลาดหุ้น S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15% ผลตอบแทนที่ได้รับจะเท่ากับ 15% คูณกับอัตราการมีส่วนร่วม 50% นั่นก็คือ 7.5% และได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน

ในทางกลับกัน หากตลาดหุ้น S&P 500 ปรับตัวลดลง -20% ผลตอบแทนที่ได้รับจะเท่ากับ 20% คูณกับอัตราการมีส่วนร่วม 50% นั่นก็คือ 10% และได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน

นั่นเท่ากับว่า นักลงทุนสามารถทำกำไรและรักษาเงินต้นได้ ไม่ว่าตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นหรือลง

กรณีที่ 2 ดัชนี S&P 500 เคลื่อนไหวทะลุกรอบ +20% กับ -20% ณ วันทำการใดวันทำการหนึ่งในช่วง 1 ปีที่ลงทุน จะเกิดกรณีที่เรียกว่า การ “Knock Out” โดยผลตอบแทนที่ได้จะเท่ากับอัตราผลตอบแทนชดเชยที่ 0.25% ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน

              จะเห็นได้ว่า หัวใจสำคัญที่นักลงทุนได้จากการลงทุนในกองทุน Dual Shark – Fin ก็คือ “การปกป้องเงินต้น” ไม่ว่าสินทรัพย์อ้างอิงจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดและเท่าไร ในขณะเดียวกัน ยังเปิดโอกาสให้สามารถ “สร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้” ดังนั้น การลงทุนในกองทุนประเภทนี้ จึงเปรียบเสมือนการโยนเหรียญที่ “ออกหัวเราไม่เสียอะไร ออกก้อยเราได้ผลตอบแทนสูง” นับเป็นทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ ตรงใจวัยเกษียณให้สามารถลงทุนได้อย่างสบายใจ อีกทั้งยังมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงได้ทั้งในภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง

เผยแพร่ครั้งแรกที่เพจ TNN WEALTH

บทความล่าสุด

Super Stocks ปลดล็อกพอร์ตลงทุน ข้ามวัฏจักรเศรษฐกิจ

ในโลกการลงทุนที่ตลาดหุ้นผันผวนรุนแรงจนกลายเป็น “New Normal” นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเริ่มยกธงขาวยอมแพ้และยอมรับว่า การพยายามจับจังหวะตลาดหรือคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจ อาจไม่ใช่คำตอบที่ยั่งยืนอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม มีกลยุทธ์การลงทุนหนึ่งที่เรียบง่าย แต่ทรงพลัง ซึ่งได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมในระยะยาว โดยไม่ต้องจับจังหวะตลาดหรือปรับพอร์ตตามวัฏจักรเศรษฐกิจ คือ การลงทุนในหุ้นที่เรียกว่า “Super Stocks

อ่านต่อ >>

เปิดกลยุทธ์ลงทุนครึ่งหลังปี 2025 รับมือ 2 ทางแยกเศรษฐกิจ

ก้าวเข้าสู่เดือนสุดท้ายของครึ่งปีแรกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจากประเด็นภาษีการค้า และมีแนวโน้มว่าความไม่แน่นอนนี้จะยังคงดำเนินต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 การวางกลยุทธ์การลงทุนเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนพร้อมสร้างผลตอบแทนท่ามกลางสถานการณ์นี้จึงแบ่งได้เป็น 2 กรณี

อ่านต่อ >>

LTF ครบกำหนดแล้ว เลือก THAIESGX ดีไหม?

หนึ่งในคำถามยอดฮิตช่วงนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี โดยเฉพาะในคนที่ถือกองทุน LTF จนครบกำหนดและกำลังมองหาทางเลือกใหม่ที่ยังใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทำให้กองทุนที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากในเวลานี้คือ THAIESGX นอกเหนือไปจากการลงทุนที่นำไปลดหย่อนภาษีได้อย่างกองทุนเพื่อการเกษียณ (RMF), กองทุน THAIESG (เดิม), ประกันสะสมทรัพย์ และประกันบำนาญ

อ่านต่อ >>

Super Stocks ปลดล็อกพอร์ตลงทุน ข้ามวัฏจักรเศรษฐกิจ

ในโลกการลงทุนที่ตลาดหุ้นผันผวนรุนแรงจนกลายเป็น “New Normal” นักลงทุนจำนวนไม่น้อยเริ่มยกธงขาวยอมแพ้และยอมรับว่า การพยายามจับจังหวะตลาดหรือคาดการณ์ทิศทางเศรษฐกิจ อาจไม่ใช่คำตอบที่ยั่งยืนอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม มีกลยุทธ์การลงทุนหนึ่งที่เรียบง่าย แต่ทรงพลัง ซึ่งได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถสร้างผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมในระยะยาว โดยไม่ต้องจับจังหวะตลาดหรือปรับพอร์ตตามวัฏจักรเศรษฐกิจ คือ การลงทุนในหุ้นที่เรียกว่า “Super Stocks

อ่านต่อ >>

เปิดกลยุทธ์ลงทุนครึ่งหลังปี 2025 รับมือ 2 ทางแยกเศรษฐกิจ

ก้าวเข้าสู่เดือนสุดท้ายของครึ่งปีแรกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนจากประเด็นภาษีการค้า และมีแนวโน้มว่าความไม่แน่นอนนี้จะยังคงดำเนินต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 การวางกลยุทธ์การลงทุนเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนพร้อมสร้างผลตอบแทนท่ามกลางสถานการณ์นี้จึงแบ่งได้เป็น 2 กรณี

อ่านต่อ >>

LTF ครบกำหนดแล้ว เลือก THAIESGX ดีไหม?

หนึ่งในคำถามยอดฮิตช่วงนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี โดยเฉพาะในคนที่ถือกองทุน LTF จนครบกำหนดและกำลังมองหาทางเลือกใหม่ที่ยังใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ทำให้กองทุนที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากในเวลานี้คือ THAIESGX นอกเหนือไปจากการลงทุนที่นำไปลดหย่อนภาษีได้อย่างกองทุนเพื่อการเกษียณ (RMF), กองทุน THAIESG (เดิม), ประกันสะสมทรัพย์ และประกันบำนาญ

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า