ปรับพอร์ตอย่างไรเมื่อดอกเบี้ยเฟดใกล้จบรอบ

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1685096635806

ผลจากการประชุมเฟด เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมาคณะกรรมการเฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด เป็นการชะลอการขึ้นดอกเบี้ยลงจากระดับ 50bps ในการประชุมเดือน มี.ค. และลดลงจากระดับ 75bps ในการประชุม 4 ครั้งในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2022  แม้ว่าคุณ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดยังยืนยันว่าการขึ้นดอกเบี้ยรอบที่ผ่านมาอาจจะยังไม่ใช่ครั้งสุดท้าย แต่มุมมองของ TISCO Wealth Advisory เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวในตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายอย่าง และมีความเป็นไปได้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่เริ่มตั้งแต่เดือน มี.ค. 22 ที่ผ่านมาใกล้ถึงจุดสุดทางหรืออาจจะไม่สามารถปรับขึ้นดอกเบี้ยได้อีกในการประชุมรอบหน้า

โดย TISCO Wealth Advisory มองว่า 3 เหตุผลหลักที่คิดว่าวงจรการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดมาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว

1. เงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตและผู้บริโภคชะลอตัวลงมาต่อเนื่อง โดยเงินเฟ้อ CPI เดือน เม.ย. ออกมาต่ำสุดในรอบ 2 ปี ที่ระดับ 4.9%YoY ด้านผลกระทบจากราคาพลังงานติดลบเป็นเดือนที่ 2 ขณะที่ Core PCE เดือน มี.ค. ที่เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อ Fed อยู่ที่ 4.6%YoY โดยปัจจุบันมาตรวัดเงินเฟ้อทั้ง 2 แบบอยู่ต่ำกว่าระดับดอกเบี้ยนโยบายที่ 5.00% – 5.25%

2. เศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) จากข้อมูล Leading Economic Indicator ที่ประกอบไปด้วยข้อมูลด้านเศรษฐกิจและด้านการเงิน และเป็นดัชนีที่สำนักงานสถิติสหรัฐฯใช้ในการระบุการเกิด Recession ของสหรัฐฯได้หดตัวลงต่อเนื่องจนปัจจุบันอยู่ที่ระดับใกล้เคียงจุดต่ำสุดของช่วงวิกฤตแฮมเบอเกอร์ และวิกฤต COVID – 19

3. Fed มักจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยหลังเกิดวิกฤติด้านการเงินหรือฟองสบู่สินทรัพย์แตก ซึ่งปัจจุบันก็เริ่มเห็นผลกระทบในภาคธนาคารจากที่เห็นในกรณีของธนาคาร silicon valley และธนาคาร First Republic ส่งผลให้ธนาคารเริ่มมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นซึ่งจะกระทบต่อบริษัทที่ยังขาดทุนและมีหนี้สินสูง

แม้ว่าคาดว่าวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นของ Fed ใกล้ถึงปลายทาง แต่ Fed จะยังไม่จำเป็นต้องรีบร้อนลดดอกเบี้ยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจที่ทยอยออกมา ทำให้ยังมีความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงข้างหน้า ทาง TISCO Wealth Advisory มองว่าสินทรัพย์ที่นักลงทุนควรจะมีในพอร์ตการลงทุนในช่วงนี้ คือ สินทรัพย์คุณภาพสูง ที่ราคาปรับตัวลงมาเหมาะสมใน 3 ธีมการลงทุน ดังนี้

1. Recession fighter : เน้นการลงทุนในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบต่อความผันผวนของเศรษฐกิจจำกัดซึ่งจะทำให้ฟื้นตัวได้รวดเร็วเมื่อเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น ได้แก่ หุ้นกลุ่ม Quality ที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ มีกระแสเงินสดดี หนี้สินต่ำ เติบโตได้สม่ำเสมอ และหุ้นกลุ่ม Healthcare มีลักษณะทนทาน(Defensive) ต่อความผันผวนเศรษฐกิจและมีศักยภาพในการเติบโตระยาว

2. Hope for the last rate hike, prepare to the first rate cut : เน้นสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวลงในช่วงข้างหน้า ได้แก่ กลุ่มตราสารหนี้คุณภาพสูง โดยเน้นไปที่พันธบัตรและหุ้นกู้เอกชนคุณภาพดี และหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีการเติบโตที่น่าสนใจแต่ถูกผลกระทบจากดอกเบี้ยขาขึ้นจนราคาปรับตัวลงมามาก เช่น ทั้งกลุ่ม information technology, cloud computing รวมถึง cybersecurity

และสุดท้าย 3. High potential Asia growth countries : เน้นในประเทศในเอเซียที่กำลังฟื้นตัวต่อเนื่องจากภาคการผลิตและการท่องเที่ยวทั้ง หุ้นในประเทศจีนและเวียดนาม

ซึ่ง TISCO Wealth Advisory มองว่าธีมการลงทุนทั้ง 3 แบบ เป็นกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนเพื่อเตรียมรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจรวมถึงได้รับประโยชน์ในช่วงที่ดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงและมีเริ่มกลับทิศในช่วงข้างหน้า

——

บทความโดย ยศรวี จงแสงทอง AFPTTM 

Senior Wealth Manager ธนาคารทิสโก้   

เผยแพร่ครั้งแรก หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ

บทความล่าสุด

4 ปัจจัยหนุน หุ้นญี่ปุ่นพุ่งทะยานปี 2025

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2025 ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากนโยบายกีดกันทางค้าของสหรัฐฯ ความเสี่ยงเงินเฟ้อที่อาจกลับมาเร่งตัวขึ้น ตลอดจน Valuation ของตลาดหุ้นหลายแห่งที่เริ่มตึงตัว ปัจจัยเหล่านี้อาจสร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นทั่วโลกได้

อ่านต่อ >>

ยุคทองของหุ้นสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้น 

นายโดนัลด์ ทรัมป์ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่า “ยุคทอง” ของสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้นขึ้น โดยออกคำสั่งประธานาธิบดี (Executive orders) หลายฉบับ และคำแถลงต่างๆ ที่เป็นแนวทางในการบริหารประเทศในช่วง 100 วันแรก

อ่านต่อ >>

เปิด 3 กลยุทธ์ ที่ต้องมีเมื่อเริ่มยุคทองของทรัมป์ในปี 2025

ผ่านพ้นปี 2024 เป็นปีที่สินทรัพย์ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกต่อเนื่องอีกปี ตลาดหุ้นโลกให้ผลตอบแทน 18% ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 20% ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แม้แต่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นได้ 18% หลังจากเงียบเหงามากว่า 2 ปี

อ่านต่อ >>

4 ปัจจัยหนุน หุ้นญี่ปุ่นพุ่งทะยานปี 2025

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2025 ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากนโยบายกีดกันทางค้าของสหรัฐฯ ความเสี่ยงเงินเฟ้อที่อาจกลับมาเร่งตัวขึ้น ตลอดจน Valuation ของตลาดหุ้นหลายแห่งที่เริ่มตึงตัว ปัจจัยเหล่านี้อาจสร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นทั่วโลกได้

อ่านต่อ >>

ยุคทองของหุ้นสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้น 

นายโดนัลด์ ทรัมป์ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่า “ยุคทอง” ของสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้นขึ้น โดยออกคำสั่งประธานาธิบดี (Executive orders) หลายฉบับ และคำแถลงต่างๆ ที่เป็นแนวทางในการบริหารประเทศในช่วง 100 วันแรก

อ่านต่อ >>

เปิด 3 กลยุทธ์ ที่ต้องมีเมื่อเริ่มยุคทองของทรัมป์ในปี 2025

ผ่านพ้นปี 2024 เป็นปีที่สินทรัพย์ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกต่อเนื่องอีกปี ตลาดหุ้นโลกให้ผลตอบแทน 18% ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 20% ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แม้แต่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นได้ 18% หลังจากเงียบเหงามากว่า 2 ปี

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า