เฟ้นหาหุ้น Tech สุดโดดเด่น ไร้กังวล Stagflation

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1636427425107

ในปัจจุบันเราเริ่มได้ยินนักวิชาการและนักวิเคราะห์การลงทุนพูดถึงคำว่า Stagflation กันมากขึ้น ซึ่งคำๆ นี้เกิดขึ้นจากคำว่า Stagnation ที่หมายถึง ภาวะเศรษฐกิจหยุดนิ่ง หรือซบเซา กับ Inflation หรือภาวะเงินเฟ้อ โดยในภาวะปกติ ภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวกับตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นมักจะไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกัน แต่ในช่วงนี้ที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้ราคาสินค้าและบริการปรับตัวเพิ่มขึ้น และส่งต่อมายังตัวเลขเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้น อาทิ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราว 2% YoY ในช่วงต้นปี ขึ้นมาเป็น 4.0% YoY ในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี ในขณะเดียวกันตัวเลข GDP ทั่วโลกก็ดูเหมือนมีแนวโน้มที่จะผ่านช่วงจุดสูงสุดไปแล้วในหลายประเทศ ทำให้นักลงทุนมีความกังวลว่าอาจเกิดภาวะ Stagflation ขึ้นได้ในอนาคต และจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ดี หลังพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมต่างๆ พบว่าในปัจจุบันโอกาสที่จะเกิดภาวะ Stagflation ยังคงอยู่ในระดับต่ำ แต่อาจจะเข้าสู่ภาวะ Slowdown หรือช่วงการเติบโตแบบชะลอตัวลง

TISCO Economic Strategy Unit (TISCO ESU) เชื่อว่า ถึงแม้ในปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก และอาจทรงตัวอยู่ในระดับสูงไปอีกระยะหนึ่ง บวกกับอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มชะลอตัวลงมาบ้าง แต่โอกาสที่จะเกิดภาวะ Stagflation ยังคงอยู่ในระดับต่ำราว 15% เท่านั้น และสถานการณ์ปัจจุบันไม่เหมือนกับในช่วงปี 1970s ที่เกิด Stagflation ขึ้น โดยในครั้งนั้นเกิดขึ้นจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินของ Fed เพื่อลดค่าใช้จ่ายและภาระหนี้ของรัฐฯ จากการทำสงครามเวียดนาม และการสวัสดิการต่างๆ ตลอดจนในช่วงนั้นเกิดวิกฤตพลังงาน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นราว 939% ในช่วงปี 1973 – 1979

นอกจากนี้ เราอาจพิจารณาจากตัวเลขทางการเงิน อาทิ ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนของตลาดหุ้นกับพันธบัตรรัฐบาล (Earning Yield Gap) และ Forward P/E Ratio เพื่อระบุว่า ในปัจจุบันหรืออนาคตอันใกล้นี้ ภาวะเศรษฐกิจการลงทุนอยู่ในภาวะใด ซึ่งในปัจจุบันที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อยู่ที่ 1.6 – 1.7% และคาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับปัจจุบัน Earning Yield Gap ที่ราว 3.4% และ Forward P/E Ratio ที่ราว 20.x เท่า อ้างอิงจาก EPS2022 ที่ 222 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น พบว่า มีโอกาสราว 50% ที่จะเข้าสู่ภาวะชะลอตัว (Slowdown) และมีโอกาส 30% ที่จะเป็นช่วงเศรฐกิจฟื้นตัว (Reflation) ในขณะที่โอกาสในการเกิด Stagflation มีเพียง 15% เท่านั้น

จากข้อมูลข้างต้น ถึงแม้สภาพเศรษฐกิจอาจเข้าสู่ช่วง Slowdown แต่ยังมีหุ้นในบางอุตสาหกรรมที่เป็น Growth Stock ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้น ตลอดจนยังสามารถเติบโตได้ดีในอนาคต อาทิ บริษัท Technology ในกลุ่ม  Esports และ Cloud Computing ซึ่ง Global x Asset Management คาดการณ์ว่า จะมียอดขายในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเติบโต +25.5% yoy และ +19.6% yoy ตามลำดับ (as of 30 Sep 2021)

จะเห็นได้ว่า การกังวลในประเด็น Stagflation ในอนาคตอันใกล้ อาจทำให้พลาดโอกาสในการลงทุนในปัจจุบัน  ซึ่งการปรับพอร์ตเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์จะสามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนโดยรวมได้ อีกทั้งในปัจจุบันยังมีหุ้นที่มีอัตราการเติบโตในอัตราที่น่าสนใจ ตลอดจนได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในระดับต่ำ ซึ่งต่างเป็นโอกาสในการลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนที่คุ้มค่า 

===================================

บทความโดย

วิศรุต จารุอนันตพงษ์ AFPT™ Wealth Manager ธนาคารทิสโก้

บทความล่าสุด

4 ปัจจัยหนุน หุ้นญี่ปุ่นพุ่งทะยานปี 2025

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2025 ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากนโยบายกีดกันทางค้าของสหรัฐฯ ความเสี่ยงเงินเฟ้อที่อาจกลับมาเร่งตัวขึ้น ตลอดจน Valuation ของตลาดหุ้นหลายแห่งที่เริ่มตึงตัว ปัจจัยเหล่านี้อาจสร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นทั่วโลกได้

อ่านต่อ >>

ยุคทองของหุ้นสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้น 

นายโดนัลด์ ทรัมป์ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่า “ยุคทอง” ของสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้นขึ้น โดยออกคำสั่งประธานาธิบดี (Executive orders) หลายฉบับ และคำแถลงต่างๆ ที่เป็นแนวทางในการบริหารประเทศในช่วง 100 วันแรก

อ่านต่อ >>

เปิด 3 กลยุทธ์ ที่ต้องมีเมื่อเริ่มยุคทองของทรัมป์ในปี 2025

ผ่านพ้นปี 2024 เป็นปีที่สินทรัพย์ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกต่อเนื่องอีกปี ตลาดหุ้นโลกให้ผลตอบแทน 18% ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 20% ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แม้แต่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นได้ 18% หลังจากเงียบเหงามากว่า 2 ปี

อ่านต่อ >>

4 ปัจจัยหนุน หุ้นญี่ปุ่นพุ่งทะยานปี 2025

ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2025 ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทั้งจากนโยบายกีดกันทางค้าของสหรัฐฯ ความเสี่ยงเงินเฟ้อที่อาจกลับมาเร่งตัวขึ้น ตลอดจน Valuation ของตลาดหุ้นหลายแห่งที่เริ่มตึงตัว ปัจจัยเหล่านี้อาจสร้างแรงกดดันให้กับตลาดหุ้นทั่วโลกได้

อ่านต่อ >>

ยุคทองของหุ้นสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้น 

นายโดนัลด์ ทรัมป์ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่า “ยุคทอง” ของสหรัฐฯ กำลังเริ่มต้นขึ้น โดยออกคำสั่งประธานาธิบดี (Executive orders) หลายฉบับ และคำแถลงต่างๆ ที่เป็นแนวทางในการบริหารประเทศในช่วง 100 วันแรก

อ่านต่อ >>

เปิด 3 กลยุทธ์ ที่ต้องมีเมื่อเริ่มยุคทองของทรัมป์ในปี 2025

ผ่านพ้นปี 2024 เป็นปีที่สินทรัพย์ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกต่อเนื่องอีกปี ตลาดหุ้นโลกให้ผลตอบแทน 18% ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนสูงกว่า 20% ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 แม้แต่ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นได้ 18% หลังจากเงียบเหงามากว่า 2 ปี

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า