ทำไม World Financial Planning Day กลายเป็นวาระสำคัญระดับโลก ?

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1633079186245

“World Financial Planning Day” ซึ่งตรงกับวันพุธแรกของเดือนตุลาคม มีไว้เพื่อจุดประสงค์อะไร ทำไมวันนี้จึงกลายเป็น “วาระสำคัญระดับโลก”ได้

“World Financial Planning Day” คือ วันอะไร?

ความจริงแล้ว “World Financial Planning Day” ได้ถูกริเริ่มให้เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 5 ปีก่อน โดย The Financial Planning Standards Board (FPSB)  ซึ่งเป็นหน่วยงานระดับโลก ทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงิน CFP เกือบ 200,000 คนทั่วโลก  โดย FPSB ต้องการให้วันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ระดับโลก เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีทางการเงิน เพิ่มการรับรู้ถึงคุณค่าของการวางแผนทางการเงินแก่ผู้บริโภค และแบ่งปันประโยชน์ของการมีแผนทางการเงิน

ดังนั้น ในระหว่างวันและสัปดาห์ของวันสำคัญนี้ นักวางแผนทางการเงินทั่วโลก ก็จะร่วมกันใช้โซเชียลมีเดียและสื่ออื่นๆ เพื่อส่งเสริมประโยชน์ของการวางแผนทางการเงินที่ดีและการใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนทางการเงิน เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งในปีนี้ มาในธีม “Live your today. Plan your tomorrow.” 

Aging Society พร้อมดูแลชีวิตตัวเองหรือยัง ?

ความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมการแพทย์ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประชากรโลกมีอายุไขที่ยืนยาวมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากข้อมูลของเว็บไซต์ Statistic ที่รายงานว่า ในปี 2020 นั้น ทั่วโลกมีผู้สูงอายุเกิน 100 ปี รวมกันกว่า 5 แสนราย และกราฟการเพิ่มจำนวนของผู้สูงอายุ ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อได้อีก

โดยถ้าหันกลับมามองในบ้านเรา ก็จะพบว่า ประเทศไทยเองก็มีแนวโน้มของสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจเช่นกัน อ้างอิงจากรายงานของ Statistic ซึ่งได้ชี้ให้เห็นถึงสถิติประชากรที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2015 ถึงปี 2020 และคาดการณ์ไปจนถึงปี 2100 ว่า มีแนวโน้มที่ปรับตัวสูงขึ้น

1633079429451

การมีอายุที่ยืนยาว ได้อยู่กับคนที่รัก นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ก็ตามมาด้วยคำถามเช่นกันว่า “คุณพร้อมที่จะดูแลชีวิตตัวเองหรือยัง?”

การวางแผนรายได้-รายจ่าย ให้กลายผู้อยู่รอดในยุค Aging Society

โดยปกติ คนส่วนใหญ่มักจะวางแผนไว้ว่า จะเกษียณตัวเองจากการทำงานในวัย 60-65ปี และคาดการณ์ว่า น่าจะมีชีวิตไปถึงประมาณ 80 ปี ซึ่งนั่นหมายความว่าในช่วงหลังเกษียณ ประมาณ 15-20 ปี คุณจะต้องใช้ชีวิตด้วยเงินเก็บ เงินลงทุน ฯลฯ ที่มีมาก่อนหน้านี้ สำหรับดูแลตัวเองในช่วงบั้นปลาย

แน่นอนว่า หลายคนอาจวางแผนได้ดีจริง สำหรับในฝั่ง “รายรับ” ซึ่งอาจจะมาจากหลายช่องทาง ทั้งการลงทุนในผลิตภัณฑ์การเงินต่างๆ รายได้จากดอกเบี้ย ฯลฯ แต่… รายได้ ≠รายจ่าย !!

อย่าลืมว่า คุณยังจำเป็นจะต้องมี “รายจ่าย” ด้านอื่นๆ อย่างเช่น รายจ่ายด้านสุขภาพ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะ เมื่อเกษียณแล้ว คุณจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้อย่างเต็มที่ เนื่องจากไม่มีสวัสดิการของบริษัทดูแลเหมือนเดิม … และยิ่งหากมีรายจ่ายอื่นๆ ที่ไม่คาดฝันเพิ่มเข้ามาอีก คำถามคือ วัยเกษียณของคุณจะมีเงินเพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตจริงหรือ ?

ทิสโก้กับบทบาทการส่งเสริม Holistic Financial Advisory

จากการเข้าสู่ยุค Aging Society บวกกับสภาวะและปัจจัยต่างๆ ในปัจจุบันเปลี่ยนไป ทำให้ความต้องการของลูกค้าเริ่มเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่ม Wealth ดังนั้น จึงทำให้ยุทธศาสตร์ใน “การวางแผนการเงิน” ต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามโจทย์ใหม่ ซึ่งประกอบด้วย 3 ความต้องการหลัก คือ

1.ความต้องการด้านการลงทุน (Investment Return) ซึ่งเป็นสิ่งที่กลุ่มทิสโก้ดำเนินธุรกิจมาตลอด โดยเฉพาะการให้คำแนะนำด้านการลงทุนเมกะเทรนด์ ที่จะเติบโตอย่างโดดเด่นในอนาคต

2.ความต้องการความคุ้มครองทางด้านชีวิตและสุขภาพ (Life Protection / Health Protection) ที่ไม่ปฏิเสธการต่ออายุ

3.ความต้องการความคุ้มครองด้านคุณภาพชีวิตตลอดหลังการเกษียณ (Retirement Protection)

ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อให้ “การวางแผนการเงิน” ทันต่อกระแสเมกะเทรนด์โลกที่กำลังเกิดขึ้น  ซึ่งจะส่งผลให้การผลตอบแทนการลงทุนอาจไม่เพียงพอ หากต้องการใช้ชีวิต มีไลฟ์สไตล์หลังเกษียณที่ดี ไม่น้อยไปกว่าชีวิตวัยทำงาน

พันธกิจ Holistic Financial Advisory ของทิสโก้ เพื่อให้บริการครบวงจร (One-stop Service) โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง จึงเป็นการวางแผนทางการเงิน ที่ทิสโก้มุ่งมั่นที่จะเดินหน้า และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นนับจากนี้

===================================

บทความโดย

นางวรสินี เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน และสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)

นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)

บทความล่าสุด

ล็อก Yield ดี หนีความผันผวน เข้า Global Bond

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่รุนแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรงและให้ผลตอบแทนติดลบ

อ่านต่อ >>

กางสถิติหุ้นสหรัฐฯ บ่งชี้เข้าใกล้จุดซื้อลงทุน

หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศวันปลอดปล่อย (Liberation day) เมื่อวันที่ 2 เม.ย. เปรียบเสมือนประกาศทำสงครามการค้าอย่างเป็นทางการด้วยการคิดอัตราภาษีตอบโต้การค้า (Reciprocal tariff) กับทุกประเทศทั่วโลก 10% ถึง 145% ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 วันลดลงแรง -10.73% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดอันดับ 11 นับตั้งแต่เก็บสถิติช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

อ่านต่อ >>

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด

อ่านต่อ >>

ล็อก Yield ดี หนีความผันผวน เข้า Global Bond

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่รุนแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรงและให้ผลตอบแทนติดลบ

อ่านต่อ >>

กางสถิติหุ้นสหรัฐฯ บ่งชี้เข้าใกล้จุดซื้อลงทุน

หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศวันปลอดปล่อย (Liberation day) เมื่อวันที่ 2 เม.ย. เปรียบเสมือนประกาศทำสงครามการค้าอย่างเป็นทางการด้วยการคิดอัตราภาษีตอบโต้การค้า (Reciprocal tariff) กับทุกประเทศทั่วโลก 10% ถึง 145% ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ 3 วันลดลงแรง -10.73% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดอันดับ 11 นับตั้งแต่เก็บสถิติช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

อ่านต่อ >>

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า