Magnificent Seven เสน่ห์ของหุ้น Tech ที่ไม่หยุดแค่ 7 ตัว

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1697440981179

หากพูดถึง Magnificent Seven ในอดีต อาจนึกถึงภาพยนตร์เกี่ยวกับ 7 ยอดฝีมือในยุคคาวบอย แต่สำหรับในปี 2023 นี้ Magnificent Seven คือ 7 ยอดฝีมือในกลุ่มเทคโนโลยี ที่มีอิทธิพลต่อโลกในยุคปัจจุบัน

เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่เป็นผู้นำตลาดสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง สามารถต้านทานแม้เศรษฐกิจชะลอตัวได้ ดังเช่นในช่วงปีนี้ที่กระแสการเติบโตของเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะการเปิดตัวของ ChatGPT เป็นตัวจุดประกายสำคัญที่ทำให้กลุ่ม Magnificent Seven กลายเป็นหุ้นที่ทั่วโลกจับตามองแทนที่กลุ่ม FAANG โดยกลุ่ม Magnificent Seven ได้แก่ Apple, Microsoft, Google (Alphabet), Amazon, NVIDIA, Tesla และ Facebook (Meta) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้ง 7 บริษัท ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และเป็นตัวนำตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ปรับตัวขึ้นในปีนี้ โดยนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายเดือน ก.ค. ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นมาราว 20% ซึ่งหุ้นกลุ่ม Magnificent Seven ปรับตัวขึ้นมาถึง 65.6% ในขณะที่หุ้นอีก 493 ตัวในดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นมาเพียง 7.3%

ในขณะเดียวกัน ผลประกอบการของกลุ่ม Magnificent Seven ก็สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นและการเติบโตของเทคโนโลยี AI ที่บริษัทเหล่านี้มีส่วนสำคัญในการพัฒนา โดยในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา พบว่าผลกำไรของบริษัทในกลุ่มอย่าง NVIDIA ขยายตัวกว่า 429% และ Amazon ขยายตัวกว่า 245% ในขณะที่ Meta, Tesla, Alphabet, Microsoft ยังคงเติบโตได้ดีที่ราว 20% มีเพียง Apple ที่เติบโตเพียง 5% แต่เป็นที่น่าจับตามองว่า iPhone15 ที่กำลังจะเปิดตัวในช่วงสัปดาห์นี้ อาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะดึงผลประกอบการของ Apple ให้กลับมาโดดเด่นได้

และนี่เป็นเพียงการเริ่มต้นของยุค AI นับจากนี้เทคโนโลยี AI จะเข้ามามีบทบาทอย่างมากในหลากหลายแง่มุม กลุ่มบริษัทที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี AI มีโอกาสเติบโตในอนาคตได้อีกในอัตราสูง และอาจมีบริษัทอื่นนอกเหนือจาก 7 เทพเทคโนโลยีนี้ที่จะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ได้ อย่างเช่น ARM บริษัทออกแบบชิป ที่เพิ่งยื่นขอจดทะเบียนซื้อขายในตลาด NASDAQ ช่วงปลายเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา โดยคาดว่าการออก IPO ของ ARM จะเป็นการออก IPO ครั้งใหญ่ที่สุดของปีนี้ ด้วยมูลค่าราว 6-7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ ARM มีโอกาสจะเป็นตัวแปรสำคัญในระยะข้างหน้าด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมในการออกแบบชิปของ ARM ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยี AI ทำให้บรรดายักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยีต่างให้ความสนใจที่เข้าซื้อหุ้น ARM เพื่อครอบครองเทคโนโลยีนี้ ไม่ว่าจะเป็น Apple, Alphabet, NVIDIA รวมไปถึง บริษัทผู้ผลิตชิปอย่าง Intel, Samsung, TSMC และ AMD

เทคโนโลยียังคงพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง แน่นอนว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจะยังคงมีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุคสมัย ดังที่เราได้เห็นจากผลประกอบการและราคาของหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องของกลุ่ม Magnificent Seven นี้ และนี่เป็นโอกาสที่จะสร้างพอร์ตลงทุนให้เติบโตไปพร้อมกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ด้วยการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งของโลก

ภาพ: ผลตอบแทนของกลุ่ม Magnificent Seven ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน เทียบกับผลตอบแทนของหุ้นอื่น ๆ และดัชนี S&P500

1697441151972

ที่มา: Bloomberg, as of 07.28.2023

    หากท่านใดมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการวางแผนการเงินของตนเอง สามารถส่งคำถามของท่านมาได้ที่ [email protected]  I

บทความโดย ณัฐพร ธรวงศ์ธวัช AFPT™

Senior Wealth Manager ธนาคารทิสโก้

เผยแพร่ครั้งแรก เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ

บทความล่าสุด

ฝ่ากระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลง สู่โอกาสในปี 2025

ท่ามกลางการกลับมาของนโยบาย Trump 2.0 ปี 2025 ถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับนักลงทุน โดยนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ประกาศไว้ระหว่างการหาเสียงที่โดยเน้นไปที่การลดภาษีนิติบุคคลและการขึ้นภาษีนำเข้า อาจนำไปสู่การยกระดับความตึงเครียดในสงครามการค้า ขณะเดียวกัน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2024 ยังคงส่งผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินในวงกว้าง

อ่านต่อ >>

ความเข้าใจผิดกับ Copayment ของประกันสุขภาพ

หลังจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ออกหลักเกณฑ์สำหรับเพิ่มเงื่อนไขความคุ้มครองประกันสุขภาพให้มีเกณฑ์การจ่ายสินไหมที่กำหนดค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment) หรือ ผู้ถือประกันสุขภาพต้องมีส่วนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับบริษัทประกันตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ พร้อมกับการประกาศแนวทางยกเลิกประกันสุขภาพเหมาจ่ายจากสมาคมประกันวินาศภัยและสมาคมประกันชีวิต ซึ่งข่าวข้างต้นอาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ที่สนใจซื้อประกันสุขภาพหรือมีประกันสุขภาพอยู่แล้วว่าความคุ้มครองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เป็นต้น แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก อีกทั้งยังอาจเป็นประโยชน์แก่ผู้ทำประกันสุขภาพในระยะยาวด้วย

อ่านต่อ >>

จัดพอร์ตลงทุนปี 2025 ฝ่าสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง

ก้าวเข้าสู่ปี 2025 สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้พัดผ่านเข้ามาหลายทิศทาง สมรภูมิการลงทุนจะเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น ทั้งในบริบทการเมืองโลกที่สหรัฐฯ กำลังจะได้ Donald Trump กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ทั้งในมุมของนโยบายการเงินที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกกำลังเข้าสู่วัฎจักรขาลง ทั้งในแง่ของการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน รวมถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่พร้อมจะปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา

อ่านต่อ >>

ฝ่ากระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลง สู่โอกาสในปี 2025

ท่ามกลางการกลับมาของนโยบาย Trump 2.0 ปี 2025 ถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับนักลงทุน โดยนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ประกาศไว้ระหว่างการหาเสียงที่โดยเน้นไปที่การลดภาษีนิติบุคคลและการขึ้นภาษีนำเข้า อาจนำไปสู่การยกระดับความตึงเครียดในสงครามการค้า ขณะเดียวกัน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2024 ยังคงส่งผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินในวงกว้าง

อ่านต่อ >>

ความเข้าใจผิดกับ Copayment ของประกันสุขภาพ

หลังจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ออกหลักเกณฑ์สำหรับเพิ่มเงื่อนไขความคุ้มครองประกันสุขภาพให้มีเกณฑ์การจ่ายสินไหมที่กำหนดค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment) หรือ ผู้ถือประกันสุขภาพต้องมีส่วนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับบริษัทประกันตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ พร้อมกับการประกาศแนวทางยกเลิกประกันสุขภาพเหมาจ่ายจากสมาคมประกันวินาศภัยและสมาคมประกันชีวิต ซึ่งข่าวข้างต้นอาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ที่สนใจซื้อประกันสุขภาพหรือมีประกันสุขภาพอยู่แล้วว่าความคุ้มครองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เป็นต้น แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก อีกทั้งยังอาจเป็นประโยชน์แก่ผู้ทำประกันสุขภาพในระยะยาวด้วย

อ่านต่อ >>

จัดพอร์ตลงทุนปี 2025 ฝ่าสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง

ก้าวเข้าสู่ปี 2025 สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้พัดผ่านเข้ามาหลายทิศทาง สมรภูมิการลงทุนจะเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น ทั้งในบริบทการเมืองโลกที่สหรัฐฯ กำลังจะได้ Donald Trump กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ทั้งในมุมของนโยบายการเงินที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกกำลังเข้าสู่วัฎจักรขาลง ทั้งในแง่ของการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน รวมถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่พร้อมจะปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า