Ramsay Hunt Syndrome ความเจ็บป่วยที่ไม่ทันตั้งตัว

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1655954983465 1

โรคภัยไข้เจ็บเป็นสิ่งที่ยากจะหลีกเลี่ยงและมักมาโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เช่น กรณีของนักร้องชื่อดัง จัสติน บีเบอร์ วัย 28 ปี ที่ล่าสุดเกิดอาการใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก ทำให้ต้องเลื่อนทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกออกไปอย่างไม่มีกำหนดเพื่อรักษาตัว

อาการใบหน้าอัมพาตครึ่งซีกของจัสติน บีเบอร์ เรียกว่า แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม (Ramsay Hunt Syndrome) เป็นอาการแทรกซ้อนโดยตรงจากโรคงูสวัด ซึ่งเกิดจาก Varicella Zoster Virus (VZV) ซึ่งเป็นกลุ่มไวรัสเดียวกันกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคอีสุกอีใส อาการ แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม จะเกิดขึ้นเมื่อเชื้อไวรัสเข้าไปจู่โจมเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ซึ่งเป็นเส้นประสาทใบหน้าใกล้หู และเป็นเส้นประสาทที่ทำหน้าที่เลี้ยงกล้ามเนื้อใบหน้า เมื่อไวรัสจู่โจมที่บริเวณนี้ จึงทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรง เกิดอาการใบหน้าอัมพาตและอาจสูญเสียการได้ยิน

ในกรณีของจัสติน บีเบอร์ นอกจากจะไม่สามารถบังคับใบหน้าข้างหนึ่งได้แล้ว ยังไม่สามารถกระพริบตาข้างที่ได้รับผลกระทบด้วย ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้กระจกตาเกิดความเสียหาย นอกจากนั้น แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม ยังก่อให้เกิดอาการอื่นๆ เช่น ผื่นแดงและตุ่มน้ำรอบหู ปวดหู การรับรู้รสชาติเปลี่ยนแปลงหรืออาจสูญเสียการรับรู้รสชาติ และในบางรายอาจสูญเสียการได้ยิน นอกจากนี้ หาก Varicella Zoster Virus ที่เป็นไวรัสก่อโรคกลุ่มงูสวัดและอีสุกอีใสเข้าทำลายที่ระบบอื่น เช่น แนวเส้นประสาทสมองที่ 5 ก็อาจจะทำให้ตาบอดได้ หรือหากเชื้อไวรัสเข้าไปจู่โจมที่อวัยวะภายในต่างๆ ก็อาจทำให้เกิดอาการที่แตกต่างออกไป เช่น ปอดอักเสบ ตับอักเสบ ไข้สมองอักเสบ ไขสันหลังอักเสบ และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งอาจส่งผลกระทบรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

อย่างไรก็ตาม อาการ แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม นี้ หากเส้นประสาทไม่ได้เสียหายรุนแรงและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ภายใน 3 วันหลังจากได้รับเชื้อ ก็จะสามารถบรรเทาลงและหายได้ภายใน 2 – 3 สัปดาห์ แต่หากเส้นประสาทได้รับความเสียหายรุนแรงอาจใช้เวลานานหลายเดือนหรือเป็นปีในการรักษา และจากการที่แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม เกิดจากไวรัสก่อโรคอีสุกอีใส จึงสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้เช่นเดียวกันกับโรคอีสุกอีใส เนื่องจากเชื้อไวรัสนี้สามารถหลบซ่อนบริเวณปมประสาทได้หลายปี เมื่อภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ ไวรัสจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบของโรคอีสุกอีใสหรืองูสวัด และอาจก่อให้เกิดอาการแทรกซ้อนอย่าง แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม อีกครั้งได้

แม้อาการ แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม ที่เป็นภาวะแทรกซ้อนโดยตรงของโรคงูสวัด มักเกิดกับผู้สูงอายุ แต่ไม่ใช่ว่าคนอายุน้อยจะไม่เสี่ยงที่จะเผชิญกับโรคนี้ ดังเช่นกรณีของ จัสติน บีเบอร์ หากร่างกายอ่อนแอ และไปเจอกับไวรัสเข้า คนอายุน้อยก็สามารถติดเชื้อและได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงแค่สุขภาพ แต่ยังรวมถึงการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพด้วย และถึงแม้จะสามารถป้องกันการเป็นโรคงูสวัดได้ด้วยการฉีดวัคซีน แต่ในอากาศยังมีไวรัสอีกมากมายหลายสายพันธุ์ที่พร้อมจะโจมตีเรา ซึ่งส่งผลกระทบทั้งสุขภาพและความมั่งคั่งได้ สุกอีใส จึงสามารถกลับมาเปยหายรุนแรงอาจใช้เวลานานหลายเดือนในการรัก

สำหรับ จัสติน บีเบอร์ นักร้องระดับโลก การเลื่อนหรือยกเลิกคอนเสิร์ต แม้จะสร้างความเสียหาย แต่ก็คงไม่ใช่ประเด็นใหญ่เท่ากับการรักษาอาการป่วยให้หาย แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ใช่บุคคลระดับโรคที่มีทรัพย์สินมหาศาล ความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อร่างกายและการสร้างรายได้การสร้างความมั่งคั่งแล้ว ยังกระทบต่อความมั่งคั่งที่เก็บสะสมมา เพื่อใช้ในการรักษาตัวด้วย ดังนั้น ในเมื่อเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเจ็บป่วยได้ แต่เราสามารถปกป้องความมั่งคั่งของเราได้ด้วยการทำประกันสุขภาพที่ครอบคลุมเพียงพอในการรักษาตัว

 

====================================================

 

เผยแพร่ครั้งแรกที่คอลัมน์ Health is Wealth ใน กรุงเทพธุรกิจ

บทความล่าสุด

ฝ่ากระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลง สู่โอกาสในปี 2025

ท่ามกลางการกลับมาของนโยบาย Trump 2.0 ปี 2025 ถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับนักลงทุน โดยนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ประกาศไว้ระหว่างการหาเสียงที่โดยเน้นไปที่การลดภาษีนิติบุคคลและการขึ้นภาษีนำเข้า อาจนำไปสู่การยกระดับความตึงเครียดในสงครามการค้า ขณะเดียวกัน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2024 ยังคงส่งผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินในวงกว้าง

อ่านต่อ >>

ความเข้าใจผิดกับ Copayment ของประกันสุขภาพ

หลังจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ออกหลักเกณฑ์สำหรับเพิ่มเงื่อนไขความคุ้มครองประกันสุขภาพให้มีเกณฑ์การจ่ายสินไหมที่กำหนดค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment) หรือ ผู้ถือประกันสุขภาพต้องมีส่วนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับบริษัทประกันตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ พร้อมกับการประกาศแนวทางยกเลิกประกันสุขภาพเหมาจ่ายจากสมาคมประกันวินาศภัยและสมาคมประกันชีวิต ซึ่งข่าวข้างต้นอาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ที่สนใจซื้อประกันสุขภาพหรือมีประกันสุขภาพอยู่แล้วว่าความคุ้มครองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เป็นต้น แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก อีกทั้งยังอาจเป็นประโยชน์แก่ผู้ทำประกันสุขภาพในระยะยาวด้วย

อ่านต่อ >>

จัดพอร์ตลงทุนปี 2025 ฝ่าสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง

ก้าวเข้าสู่ปี 2025 สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้พัดผ่านเข้ามาหลายทิศทาง สมรภูมิการลงทุนจะเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น ทั้งในบริบทการเมืองโลกที่สหรัฐฯ กำลังจะได้ Donald Trump กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ทั้งในมุมของนโยบายการเงินที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกกำลังเข้าสู่วัฎจักรขาลง ทั้งในแง่ของการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน รวมถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่พร้อมจะปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา

อ่านต่อ >>

ฝ่ากระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลง สู่โอกาสในปี 2025

ท่ามกลางการกลับมาของนโยบาย Trump 2.0 ปี 2025 ถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับนักลงทุน โดยนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ประกาศไว้ระหว่างการหาเสียงที่โดยเน้นไปที่การลดภาษีนิติบุคคลและการขึ้นภาษีนำเข้า อาจนำไปสู่การยกระดับความตึงเครียดในสงครามการค้า ขณะเดียวกัน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2024 ยังคงส่งผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินในวงกว้าง

อ่านต่อ >>

ความเข้าใจผิดกับ Copayment ของประกันสุขภาพ

หลังจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ออกหลักเกณฑ์สำหรับเพิ่มเงื่อนไขความคุ้มครองประกันสุขภาพให้มีเกณฑ์การจ่ายสินไหมที่กำหนดค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment) หรือ ผู้ถือประกันสุขภาพต้องมีส่วนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับบริษัทประกันตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ พร้อมกับการประกาศแนวทางยกเลิกประกันสุขภาพเหมาจ่ายจากสมาคมประกันวินาศภัยและสมาคมประกันชีวิต ซึ่งข่าวข้างต้นอาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ที่สนใจซื้อประกันสุขภาพหรือมีประกันสุขภาพอยู่แล้วว่าความคุ้มครองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เป็นต้น แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก อีกทั้งยังอาจเป็นประโยชน์แก่ผู้ทำประกันสุขภาพในระยะยาวด้วย

อ่านต่อ >>

จัดพอร์ตลงทุนปี 2025 ฝ่าสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง

ก้าวเข้าสู่ปี 2025 สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้พัดผ่านเข้ามาหลายทิศทาง สมรภูมิการลงทุนจะเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น ทั้งในบริบทการเมืองโลกที่สหรัฐฯ กำลังจะได้ Donald Trump กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ทั้งในมุมของนโยบายการเงินที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกกำลังเข้าสู่วัฎจักรขาลง ทั้งในแง่ของการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่แน่นอน รวมถึงความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่พร้อมจะปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า