ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน : กองทุนตราสารหนี้แบบไหนควรมีติดพอร์ตในปี 2025

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

ยิ่งผันผวน ยิ่งต้องวางแผน 800X420

ผ่านช่วง 4 เดือนแรกของการลงทุน เห็นได้ว่าปี 2025 จะเป็นอีกปีที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูงขึ้นจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประเทศสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายหรือเลื่อนนโยบายแต่ก็ยังคาดเดาได้ยาก ส่งผลให้หลายบริษัทเริ่มชะลอการลงทุน และเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงกว่าที่คาด ทิศทางเงินลงทุนเริ่มหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำที่ช่วยลดความผันผวนพร้อมกับสามารถทำให้เงินลงทุนเติบโตไปพร้อมกัน ทำให้ในจังหวะแบบนี้ “กองทุนตราสารหนี้” กลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นคงในพอร์ตได้ดี มีความยืดหยุ่นสูงและตอบโจทย์การเลือกให้เหมาะกับสถานการณ์เศรษฐกิจ 

กองทุนตราสารหนี้เลือกลงทุนยังไงให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจ 

1.พันธบัตรและตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล กลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่ำสุด เนื่องจากลูกหนี้คือรัฐบาล เน้นการรักษาเงินต้นและความแน่นอน 2.หุ้นกู้ Investment Grade (AAA ถึง BBB-) มักจะออกโดยบริษัทมั่นคงขนาดใหญ่ มีระดับความเสี่ยงปานกลาง โอกาสผิดนัดชำระหนี้ต่ำและให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าพันธบัตร และ 3.หุ้นกู้ High Yield (BB+ ถึง D) เป็นบริษัทที่อาจจะมีความเสี่ยงด้านการเงินที่สูงขึ้น แต่ก็ชดเชยด้วยผลตอบแทนที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน

เปรียบเทียบตามความเสี่ยง : พันธบัตรรัฐบาล < Investment Grade < High yield  

 

เลือกตาม Duration หรือ อายุเฉลี่ยตราสารหนี้ 

Duration หรือ อายุเฉลี่ยตราสารหนี้ เกิดจากการคำนวณโดยรวมดอกเบี้ยที่ตราสารหนี้จ่ายออกมา และเป็นตัวเลขสำคัญที่บอกถึงผลกระทบราคาตราสารหนี้(Capital gain/Loss) เมื่อดอกเบี้ยในตลาดเปลี่ยนไป โดยกองทุนตราสารหนี้ที่มี Duration ยาว มักจะมีราคาเปลี่ยนแปลงมากกว่า เช่น หากมองว่าแนวโน้มดอกเบี้ยช่วงที่ลงทุนจะปรับตัวลงในช่วง 1-2 ปี ข้างหน้า การเลือกกองทุนที่มี Duration กลางถึงยาว จะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า เปรียบเทียบตามความผันผวนของราคเมื่ออัตราดอกเบี้ยเปลี่ยนไป : Duration สั้น < Duration ยาว

 

กองทุนตราสารหนี้ยืดหยุ่นและช่วยกระจายความเสี่ยงได้ดี 

การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้อาจจะไม่ได้เหมือนการลงทุนตราสารหนี้รายตัว เนื่องจากนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้มีการซื้อขายทุกวันทำให้กองทุนต้องมีการ Mark to Market เพื่อปรับ NAV ของสินทรัพย์ในกองทุนให้เหมาะสม ผลคือ นักลงทุนมีโอกาสที่ได้ส่วนต่างกำไร (Capital Gain) เมื่อดอกเบี้ยปรับตัวลงหรืออาจจะกลายเป็น (Capital Loss) ได้เมื่อดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น ดังนั้น การเลือกกองทุนตราสารหนี้ที่มีความยืดหยุ่นของการลงทุนในชนิดกองทุนตราสารหนี้และช่วงเวลาลงทุนที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญ  

 

กลยุทธ์การลงทุนในปี 2025 
สำหรับภาพการลงทุนในปี 2025 ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจมีทิศทางชะลอตัวลง การเริ่มต้นลงทุนในกองตราสารหนี้อาจจะพิจารณาเลือกกองทุนตราสารหนี้ที่มีความยืดหยุ่นในการลงทุน อย่างกองทุนในกลุ่ม Global bond เพื่อกระจายความเสี่ยงและมีอันดับความน่าเชื่อถือเฉลี่ย (Avg Credit rating) ในระดับ Investment grade ขึ้นไป รวมถึงเสริมด้วยมุมมองระยะสั้น (Tactical) ตามภาพข้างต้นจะช่วยทำให้นักลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารพอร์ตลงทุนได้อย่างชัดเจน 

01 1

  Source : TISCO WEALTH  ADVISORY

บทความโดย ยศรวี จงแสงทอง AFPT™ 

Senior Wealth Manager ธนาคารทิสโก้ 

บทความล่าสุด

สยบสงครามการค้า 2025 ด้วยการลงทุน Global bond

สัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาสามารถสงบศึกการค้ากับจีนได้ชั่วคราว โดยระงับการเก็บภาษีร่วมกันที่อัตรา -115% ออกไปอย่างน้อย 90 วัน เพื่อหาข้อตกลงใหม่สำหรับแก้ปัญหาการค้าที่ไม่เป็นธรรม (Tariff and Non-tariff Barriers) รวมถึงสหรัฐฯ สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างเป็นทางการกับสหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรก

อ่านต่อ >>

พลิกวิกฤติสงครามการค้า สู่โอกาสลงทุนหุ้นโลก

ช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญแรงกดดันจากประเด็นกำแพงภาษีที่สหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้กับประเทศต่าง ๆ ในอัตราที่สูงเป็นประวัติการณ์ ก่อนจะส่งสัญญาณผ่อนคลายลงและเปิดช่องเจรจา นี่จึงเป็นโอกาสสำคัญในการลงทุนหุ้นโลกที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องด้วยระดับราคาที่เหมาะสม

อ่านต่อ >>

ล็อก Yield ดี หนีความผันผวน เข้า Global Bond

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่รุนแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรงและให้ผลตอบแทนติดลบ

อ่านต่อ >>

สยบสงครามการค้า 2025 ด้วยการลงทุน Global bond

สัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาสามารถสงบศึกการค้ากับจีนได้ชั่วคราว โดยระงับการเก็บภาษีร่วมกันที่อัตรา -115% ออกไปอย่างน้อย 90 วัน เพื่อหาข้อตกลงใหม่สำหรับแก้ปัญหาการค้าที่ไม่เป็นธรรม (Tariff and Non-tariff Barriers) รวมถึงสหรัฐฯ สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าอย่างเป็นทางการกับสหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรก

อ่านต่อ >>

พลิกวิกฤติสงครามการค้า สู่โอกาสลงทุนหุ้นโลก

ช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นทั่วโลกเผชิญแรงกดดันจากประเด็นกำแพงภาษีที่สหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศใช้กับประเทศต่าง ๆ ในอัตราที่สูงเป็นประวัติการณ์ ก่อนจะส่งสัญญาณผ่อนคลายลงและเปิดช่องเจรจา นี่จึงเป็นโอกาสสำคัญในการลงทุนหุ้นโลกที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องด้วยระดับราคาที่เหมาะสม

อ่านต่อ >>

ล็อก Yield ดี หนีความผันผวน เข้า Global Bond

นับตั้งแต่ต้นปี 2025 จนถึงปัจจุบัน ตลาดการเงินต้องเผชิญกับความผันผวนที่อยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง อันเนื่องมาจากการดำเนินนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯที่รุนแรงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลัก ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายอย่างรุนแรงและให้ผลตอบแทนติดลบ

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า