ส่องหาโอกาสการลงทุนจากโยบายรัฐบาลจีนยุคใหม่ ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1679482525067 1

                การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนหรือ National People’s Congress ในปีนี้ ถูกจับตามองจากทั่วโลกเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่เพียงแต่เป็นการประชุมครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่รัฐบาลจีนยกเลิกนโยบาย Zero COVID เท่านั้น แต่ยังเป็นปีที่มีการเปลี่ยนผ่านอำจาจครั้งสำคัญของบุคลที่จะเข้ามารับตำแหน่งในรัฐบาลและหน่วยงานอื่น ๆ โดยเฉพาะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และ ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBoC) และยังถือเป็นการประชุมครั้งสำคัญที่รัฐบาลจีนจะแถลงนโยบายด้านต่าง ๆ ทั้งนโยบายภายใน ด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ในปีนี้ถือเป็นความท้าทายสำคัญหลังจากตัดสินใจเปิดประเทศ และนโยบายภายนอก ที่ความสัมพันธ์กับสหรัฐ ฯ และการวางตัวในสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกฝ่ายจับตา

           ซึ่งการประชุมได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางท้องฟ้าที่ขุ่นมัวในกรุงปักกิ่งหลังจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่รัฐบาลจีนพยายามแก้ปัญหามาโดยตลอดเริ่มกลับมาอีกครั้ง สอดคล้องกับหนึ่งในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลจีนที่ยังคงผลักดันและสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง และในปี 2023 นี้จะมีการลงทุนก่อสร้างเพื่อขยายการใช้พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอีกจากเดิมที่มีอยู่

               ส่วนในประเด็นหลักที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจ คือ การตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ที่ 5% ซึ่งถือเป็นระดับที่ถือว่าไม่ต่ำหรือสูงจนเกินไป เมื่อเทียบกับความคาดหมายของนักวิเคราะห์ แต่ก็ถือเป็นการสะท้อนว่า จีนอาจจะไม่ต้องมีความจำเป็นในการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมากนักเพื่อทำให้การเติบโตถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ อย่างไรก็ดีจากปัจจัยภายนอกที่เศรษฐกิจโลกมีทิศทางชะลอตัวลง รวมถึงปัญหาความขัดแย้งกับสหรัฐ ฯ ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุให้จีนต้องหันมาผลักดันการพึ่งพาบริโภคในประเทศให้เป็นเครื่องจักรสำคัญในการทำให้เศรษฐกิจเติบโตอีกครั้ง

                ด้านทิศทางการดำเนินนโยบายในระยะยาวที่รัฐบาลแถลงออกมาในการประชุม แน่นอนว่าจีนจำเป็นต้องหันมาพึ่งพาตนเองมากยิ่งขึ้น หลังจากเผชิญแรงกดดันจากสหรัฐ ฯ และชาติตะวันตกในการกีดกันทางการค้า โดยเฉพาะการผลิต Semiconductor ที่จีนจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทุ่มเม็ดเงินในการสนับสุนนการวิจัยพัฒนาเพื่อค้นคว้านวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เป็นของตนเอง ทั้ง Semiconductor และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่น ๆ

                ส่วนในด้านการเปลี่ยนแปลงบุคคลสำคัญที่จะเข้ามารับตำแหน่งต่าง ๆ นั้น ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่จะเปลี่ยนจากนาย Li Keqiang เป็นนาย Li Qiang ดูเหมือนจะไม่ได้สร้างความกังวลให้กับตลาดมากนัก เนื่องจากในช่วงการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนในช่วงปลายเดือนตุลาคมปีที่แล้วการที่นาย Li Qiang ถูกแต่งตั้งขึ้นมาเป็นคณะกรรมการโปลิตบูโรลำดับที่ 2  ในตอนนั้นได้สร้างความตกใจให้กับตลาด เนื่องจากนาย Li Qiang ถือเป็นคนสนิทที่เคยทำงานร่วมกับ ปธน.Xi Jinping ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าอาจจะเกิดการรวบอำนาจ และนาย Li Qaing ถือเป็นบุคคลสำคัญในการประกาศ Lockdown มหานครเซี่ยงไฮ้ในปี 2022 ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมหานครเซี่ยงไฮ้ในตอนนั้น แต่ความกังวลในประเด็น Lockdown ดูเหมือนจะคลี่คลายลง เนื่องจากในคำแถลงเปิดประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน ไม่ได้มีการระบุถึงคำว่า Zero COVID แม้แต่ครั้งเดียว นั่นหมายความว่าถึงแม้นาย Li Qiang จะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการแต่การกลับมา Lockdown เมืองใหญ่ ๆ ของจีนอีกครั้งจึงแทบจะไม่มีความเป็นไปได้เลย ในทางกลับกันเมื่อดูประวัติการทำงานในอดีตที่ผ่านมาของ นาย Li Qiang ซึ่งมีประวัติในการสนับสนุนภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อาทิ ผลักดันให้ Tesla สามารถตั้งโรงงานการผลิตในเซี่ยงไฮ้ได้ และยังถือเป็นบุคคลสำคัญในการผลักดันให้เกิดกระดาน ซื้อ-ขายหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีความคล้ายคลึงกับตลาดหุ้น Nasdaq ของสหรัฐ ฯ ในชื่อ STAR Market ดังนั้นการก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งของนาย Li Qiang ไม่ได้แปลว่าจะเป็นผลลบกับตลาดหุ้นอย่างที่หลายฝ่ายกังวลในช่วงแรก และประวัติการสนับสนุนภาคธุรกิจที่ผ่านมาอาจหมายถึงการที่นโยบายของรัฐบาลที่เคยกดดันภาคธุรกิจโดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยีจะไม่รุนแรงเหมือนที่ผ่านมา

                ดังนั้น สรุปได้ว่าจากผลการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน ภาคอุตสาหกรรมที่รัฐบาลจีนจะเน้นสนับสนุนต่อจากนี้คืออุตสาหกรรมที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรม Semiconductor อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับพลังงานสะอาด นอกจากนี้บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เคยโดนกดดันจากนโยบายของรัฐบาล อาจจะได้รับแรงกดดันลดลง ถึงแม้คงไม่ถึงขั้นได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลก็ตาม

                   และการที่จีนพึ่งจะเปิดประเทศหลังจากยกเลิกนโยบาย Zero COVID ในปีนี้ การมุ่งเป้าหมายหลักไปที่การเติบโตทางเศรษฐกิจน่าจะถือเป็นภารกิจหลักของรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งอย่างน้อยในปีนี้ ตลาดหุ้นจีนก็จะไม่ต้องเผชิญปัจจัยลบจากแรงกดดันจากการดำเนินนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลเหมือนที่ผ่านมา

เผยแพร่ครั้งแรก เว็บไซต์เนชั่นออนไลน์

บทความล่าสุด

จับจังหวะความผันผวนระยะสั้น ช่วยเสริมพอร์ตเติบโตระยะยาว

สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังอิสราเอลและอิหร่านตอบโต้กันด้วยปฏิบัติการทางทหารอย่างรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนหนัก ทั้งราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ราคาทองคำที่แตะระดับสูงสุดใหม่ ภาพลงทุนเข้าสู่โหมดตั้งรับความเสี่ยง (Risk off) หุ้นส่วนใหญ่ถูกเทขายจากความกังวล

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตลงทุน สู้ศึกครึ่งปีหลัง 2025

เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังปี 2025 สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกยังคงเผชิญความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากความไม่แน่นอนในการเจรจาภาษีนำเข้าของสหรัฐฯกับคู่ค้า รวมถึงสงครามในตะวันออกกลางที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้การคาดเดาทิศทางเศรษฐกิจและจับจังหวะตลาดเป็นเรื่องที่ยาก

อ่านต่อ >>

เลือกประกันโรคร้ายแรงให้รอดจากค่าใช้จ่ายอัลไซเมอร์ 

เมื่อพูดถึงเหตุผลของการมีประกันโรคร้ายแรงเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาสุขภาพ เรามักจะคิดถึงโรคที่มีผลร้ายแรงแบบเฉียบพลันจนถึงแก่ชีวิต หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคหัวใจ, โรคมะเร็ง, ทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคเบาหวาน ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มโรคข้างต้นทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เมื่อปี 2021 พบสาเหตุของการเสียชีวิตด้วยโรค NCDs กว่า 80%

อ่านต่อ >>

จับจังหวะความผันผวนระยะสั้น ช่วยเสริมพอร์ตเติบโตระยะยาว

สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังอิสราเอลและอิหร่านตอบโต้กันด้วยปฏิบัติการทางทหารอย่างรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนหนัก ทั้งราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ราคาทองคำที่แตะระดับสูงสุดใหม่ ภาพลงทุนเข้าสู่โหมดตั้งรับความเสี่ยง (Risk off) หุ้นส่วนใหญ่ถูกเทขายจากความกังวล

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตลงทุน สู้ศึกครึ่งปีหลัง 2025

เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังปี 2025 สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกยังคงเผชิญความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากความไม่แน่นอนในการเจรจาภาษีนำเข้าของสหรัฐฯกับคู่ค้า รวมถึงสงครามในตะวันออกกลางที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้การคาดเดาทิศทางเศรษฐกิจและจับจังหวะตลาดเป็นเรื่องที่ยาก

อ่านต่อ >>

เลือกประกันโรคร้ายแรงให้รอดจากค่าใช้จ่ายอัลไซเมอร์ 

เมื่อพูดถึงเหตุผลของการมีประกันโรคร้ายแรงเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาสุขภาพ เรามักจะคิดถึงโรคที่มีผลร้ายแรงแบบเฉียบพลันจนถึงแก่ชีวิต หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคหัวใจ, โรคมะเร็ง, ทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคเบาหวาน ซึ่งทั้ง 4 กลุ่มโรคข้างต้นทางองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า เมื่อปี 2021 พบสาเหตุของการเสียชีวิตด้วยโรค NCDs กว่า 80%

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า