จำกัดความเสี่ยงขาลง – โอกาสสร้างกำไรทุกสภาวะตลาด   ธ.ทิสโก้เชียร์ซื้อ ! กอง UCEQC1Y2  

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1685094120008 1

ธนาคารทิสโก้เอาใจนักลงทุนกังวลขาดทุนเงินต้น เชียร์ซื้อกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไชน่า อิควิตี้ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น ฟันด์ 1Y2 (UCEQC1Y2) กองทุนประเภท Complex Fund ที่ช่วยลดความเสี่ยงการสูญเสียเงินต้น จำกัดความเสี่ยงขาลง เพิ่มโอกาสสร้างกำไรทั้งในช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 25 – 31 พฤษภาคม 2566 

นางวรสินี เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน และสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ เปิดเผยว่า ปัจจุบันนักลงทุนบางส่วนเริ่มกังวลถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนข้างหน้าซึ่งจะส่งผลลบโดยตรงต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ขณะที่การเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ ยังไม่มีความชัดเจน หากการเจรจาล้มเหลวจะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถจ่ายเงินเจ้าหนี้และลูกจ้างได้ จากความกังวลดังกล่าวส่งให้นักลงทุนบางกลุ่มไม่กล้าลงทุนในช่วงนี้เพราะเกรงว่าหากตลาดพลิกตัวเป็นขาลงจะทำให้ขาดทุนเงินต้น 

ธนาคารทิสโก้เข้าใจถึงความกังวลของนักลงทุนเป็นอย่างดี ดังนั้น ตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 ที่ผ่านมาธนาคารทิสโก้จึงแนะนำให้ลูกค้าสับเปลี่ยนการลงทุนไปยัง “กองทุนตราสารซับซ้อน” (Complex Fund) เพราะเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนของเงินต้น และเพิ่มโอกาสสร้างกำไรแม้ตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลง ขณะเดียวกันยังช่วยเพิ่มโอกาสสร้างกำไรหากตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยกองทุน Complex Fund ที่น่าสนใจในช่วงนี้ ธนาคารทิสโก้แนะนำซื้อ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไชน่า อิควิตี้ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น ฟันด์ 1Y2 (UCEQC1Y2) ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) ซึ่งจะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ตั้งแต่วันที่ 25 – 31 พฤษภาคม 2566

ทั้งนี้ กองทุน UCEQC1Y2 มีนโยบายการลงทุนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและ/หรือต่างประเทศ รวมกันทั้งสิ้นประมาณ 95.00 – 99.90% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนโดย ในส่วนที่ 1 กองทุนจะลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน (FX Hedging) อย่างไรก็ดี ในกรณีที่สภาวการณ์ไม่ปกติกองทุนอาจพิจารณาป้องกันความเสี่ยงตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน และอาจปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เกี่ยวกับการทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดังกล่าว เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การลงทุน 
ส่วนที่ 2 เพื่อเปิดโอกาสให้กับกองทุนสามารถแสวงหาผลตอบแทนส่วนเพิ่มกองทุนจะแบ่งเงินลงทุนประมาณ 0.10 – 5.00 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน เพื่อลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับระดับราคาของสินทรัพย์อ้างอิง คือ Xtrackers Harvest CSI300 China A-Shares ETF นอกจากนี้ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนใน Derivatives เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน และอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX Hedging) โดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน

ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 1 ปี ได้ ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก 

การลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มด้วย Payoff ที่สามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนได้ในสภาวะที่ Xtrackers Harvest CSI300 China A-Shares ETF ปรับตัวขึ้นและลง 

กองทุนรวมนี้มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุน กองทุนรวมนี้มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน ซึ่งมีความแตกต่างจากการลงทุนในกองทุนรวมทั่วไป แม้ว่าผู้ลงทุนจะเคยมีประสบการณ์ในการลงทุนหรือทำธุรกรรมในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมาก่อน กองทุนรวมนี้มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน โดยมีการจ่ายผลตอบแทนที่อ้างอิงกับดัชนี ซึ่งมีความแตกต่างกับการลงทุนในดัชนีโดยตรง กองทุนรวมนี้จะทำการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนในส่วนการลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่ม 

ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ www.tiscowealth.com

ที่มา: Morgan Stanley Research Estimates

บทความโดยณัฐพร ธรวงศ์ธวัช 

AFPT Senior Wealth Manager ธนาคารทิสโก้ 

เผยแพร่ครั้งแรก เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ

บทความล่าสุด

ลงทุน Global Bond ให้ดี ปีนี้ต้องเลือก Bond ระยะกลาง-สั้น

เปิดปี 2568 ด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ รวมถึงประเทศหลักส่วนใหญ่ยังเป็นทิศทางขาลง ช่วงนี้จึงนับเป็นจังหวะที่น่าสนใจในการเข้าลงทุนตราสารหนี้โลก แต่ต้องเลือกลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง-สั้น เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ในปีนี้

อ่านต่อ >>

ฝ่ากระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลง สู่โอกาสในปี 2025

ท่ามกลางการกลับมาของนโยบาย Trump 2.0 ปี 2025 ถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับนักลงทุน โดยนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ประกาศไว้ระหว่างการหาเสียงที่โดยเน้นไปที่การลดภาษีนิติบุคคลและการขึ้นภาษีนำเข้า อาจนำไปสู่การยกระดับความตึงเครียดในสงครามการค้า ขณะเดียวกัน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2024 ยังคงส่งผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินในวงกว้าง

อ่านต่อ >>

ความเข้าใจผิดกับ Copayment ของประกันสุขภาพ

หลังจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ออกหลักเกณฑ์สำหรับเพิ่มเงื่อนไขความคุ้มครองประกันสุขภาพให้มีเกณฑ์การจ่ายสินไหมที่กำหนดค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment) หรือ ผู้ถือประกันสุขภาพต้องมีส่วนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับบริษัทประกันตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ พร้อมกับการประกาศแนวทางยกเลิกประกันสุขภาพเหมาจ่ายจากสมาคมประกันวินาศภัยและสมาคมประกันชีวิต ซึ่งข่าวข้างต้นอาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ที่สนใจซื้อประกันสุขภาพหรือมีประกันสุขภาพอยู่แล้วว่าความคุ้มครองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เป็นต้น แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก อีกทั้งยังอาจเป็นประโยชน์แก่ผู้ทำประกันสุขภาพในระยะยาวด้วย

อ่านต่อ >>

ลงทุน Global Bond ให้ดี ปีนี้ต้องเลือก Bond ระยะกลาง-สั้น

เปิดปี 2568 ด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ รวมถึงประเทศหลักส่วนใหญ่ยังเป็นทิศทางขาลง ช่วงนี้จึงนับเป็นจังหวะที่น่าสนใจในการเข้าลงทุนตราสารหนี้โลก แต่ต้องเลือกลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลาง-สั้น เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ในปีนี้

อ่านต่อ >>

ฝ่ากระแสลมแห่งการเปลี่ยนแปลง สู่โอกาสในปี 2025

ท่ามกลางการกลับมาของนโยบาย Trump 2.0 ปี 2025 ถูกมองว่าเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับนักลงทุน โดยนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ประกาศไว้ระหว่างการหาเสียงที่โดยเน้นไปที่การลดภาษีนิติบุคคลและการขึ้นภาษีนำเข้า อาจนำไปสู่การยกระดับความตึงเครียดในสงครามการค้า ขณะเดียวกัน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2024 ยังคงส่งผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินในวงกว้าง

อ่านต่อ >>

ความเข้าใจผิดกับ Copayment ของประกันสุขภาพ

หลังจากคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ออกหลักเกณฑ์สำหรับเพิ่มเงื่อนไขความคุ้มครองประกันสุขภาพให้มีเกณฑ์การจ่ายสินไหมที่กำหนดค่าใช้จ่ายร่วม (Copayment) หรือ ผู้ถือประกันสุขภาพต้องมีส่วนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับบริษัทประกันตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ พร้อมกับการประกาศแนวทางยกเลิกประกันสุขภาพเหมาจ่ายจากสมาคมประกันวินาศภัยและสมาคมประกันชีวิต ซึ่งข่าวข้างต้นอาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้ที่สนใจซื้อประกันสุขภาพหรือมีประกันสุขภาพอยู่แล้วว่าความคุ้มครองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เป็นต้น แต่ในความเป็นจริงแล้วอาจไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมนัก อีกทั้งยังอาจเป็นประโยชน์แก่ผู้ทำประกันสุขภาพในระยะยาวด้วย

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า