สภาวะ Un-inversion กับโอกาสลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้น

บทความการลงทุนเชิงลึก ที่คุณไม่ควรพลาด

1728533263007

การเริ่มต้นปรับลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกของสหรัฐอเมริกาในรอบ 4 ปีเมื่อกลางเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาทำให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงส่วนใหญ่ต่างตอบรับในเชิงบวก เช่น ดัชนีหุ้นทั่วโลก MSCI ACWI ทำจุดสูงสุดใหม่โดยปรับขึ้นราว 3% ภายใน 12 วัน เช่นเดียวกับราคาทองคำโลกที่ปรับเพิ่มขึ้นระดับใกล้เคียงกับหุ้นทั่วโลกและทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน รวมไปถึงราคาของตราสารหนี้ทั่วโลกที่จะปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับทิศทางดอกเบี้ยที่เป็นขาลง อย่างไรก็ดีการเริ่มต้นวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงจะตามมาด้วยเหตุการณ์ Un-inversion ของเส้นผลตอบแทน หรือ Yield curve ซึ่งอาจทำให้ตอบแทนรวมในแต่ละช่วงอายุของตราสารหนี้อาจมีความแตกต่างกันแม้ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายจะปรับลดลงพร้อมกันก็ตาม

ภาวะ Un-inversion คือภาวะที่ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของตราสารหนี้ระยะยาวกับระยะสั้นที่คำนวณจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีและ 2 ปีที่เริ่มพลิกกลับมาเป็นบวก หรือเป็นรูปแบบ Yield curve ในภาวะปกตินั่นเอง ซึ่งจะเรียกว่า Un-inversion ในช่วงเวลาที่เกิด Inverted yield curve หรืออัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรระยะสั้นจะสูงกว่าระยะยาวมาก่อนหน้านี้ หรือตรงข้ามกับ Yield curve ในภาวะปกตินั่นเอง โดยเมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา Fed เริ่มขึ้นดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วจนทำให้เกิดเหตุการณ์ Inverted yield curve สาเหตุจากเศรษฐกิจและเงินเฟ้อคาดการณ์เริ่มชะลอลงและตลาดคาดหวังว่า Fed จะเริ่มลดดอกเบี้ยในไม่ช้า จึงทำให้ดอกเบี้ยระยะยาวเริ่มปรับลดลงก่อนดอกเบี้ยระยะสั้นที่จะใกล้เคียงกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เป็นปัจจุบันมากกว่า ดังนั้นนักลงทุนที่ลงทุนตราสารหนี้ระยะยาวไปก่อนหน้านี้จะได้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยลดลงมากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น

และเมื่อเริ่มต้นวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงจะทำให้ Yield curve เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หรือ Un-inversion เมื่อดอกเบี้ยนโยบายปรับลดลงส่วนของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจะปรับลดลงสอดคล้องกัน แต่ดอกเบี้ยระยะยาวที่ปรับลดลงมาก่อนหน้านี้หากจะลดลงต่อ ตลาดต้องมีมุมมองด้านเศรษฐกิจเชิงลบมากขึ้นและเงินเฟ้อคาดการณ์ต้องลดลงอีกหลังจากนี้ แต่ล่าสุดแบบจำลอง GDPNow โดย Fed สาขา Atlanta ยังคาดการณ์ GDP ไตรมาส 3 ปีนี้เติบโต +3.1% YoY ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มประมาณการณ์ข้อมูลไตรมาสนี้ รวมไปถึงข้อมูลตลาดแรงงานฝั่งสหรัฐฯ ที่ยังไม่น่ากังวลจากอัตราว่างงานเดือน ส.ค. กลับมาลดลงจากเดือนก่อนเหลือ 4.2% และตำแหน่งจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. ที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 แสนตำแหน่งซึ่งเป็นระดับปกติของการเริ่มลดดอกเบี้ยที่เศรษฐกิจไม่ถดถอย หรือ Soft-landing ดังนั้นเมื่อภาพรวมกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีทิศทางเชิงบวกก็จะสนับสนุนให้เงินเฟ้อไม่ชะลอลงแรงและสุดท้ายก็จะทำให้ดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาวยังไม่ปรับลดลงมากนัก

ปัจจุบัน TISCO Economic Strategy Unit (ESU) ประเมินอัตราผลตอบแทนรวมของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี และ 10 ปี หากเริ่มลงทุนที่อัตราดอกเบี้ย 3.6% และ 3.8% ตามลำดับ และคาดว่าสิ้นปี 2025 อัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรอายุ 2 ปี และ 10 ปีจะอยู่ที่ 3.4% และ 3.9% ตามลำดับ ผลตอบแทนรวม ณ สิ้นปี 2025 ของพันธบัตรอายุ 2 ปีจะอยู่ที่ 5% ซึ่งสูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปีที่เพียง 4% เนื่องจากพันธบัตรอายุ 10 ปีมีผลตอบแทนส่วนเพิ่มเป็นลบเพราะอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นโดยคาดว่าเศรษฐกิจจะประคองตัวเป็น Soft-landing ได้ 

ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศช่วงหลังจากการลดดอกเบี้ยครั้งแรกของ Fed นักลงทุนอาจต้องทยอยปรับพอร์ตลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยทยอยลดสัดส่วนตราสารหนี้ที่มี Duration เกิน 3 ปีขึ้นไปและเพิ่มการลงทุนตราสารหนี้ที่มี Duration ประมาณ 2-3 ปี เพื่อรับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่ยังสูงใกล้เคียงกับดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันของสหรัฐฯ ที่ 4.75-5.00% ซึ่งยังสูงกว่าเป้าหมายดอกเบี้ยของ Fed ที่มีแผนว่าจะลดดอกเบี้ยลงอีกราว 2% ภายในปี 2026

 

แผนภาพ: ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 10 และ 2 ปีจะเริ่มกลับมาเป็นบวกเมื่อ Fed เริ่มวัฏจักรดอกเบี้ยขาลง  

1728533368647
Source: Bloomberg, TISCO Wealth Advisory
 

บทความโดย ศิวกร ทองหล่อ

CFP® Wealth Manager 

บทความล่าสุด

ถึงเวลาทยอยขาย “หุ้นสหรัฐฯ” กระจายซื้อหุ้นทั่วโลก หรือหุ้นปันผล

ตลาดหุ้นทั่วโลกทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ภายหลังเริ่มมีประเทศที่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ได้ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เริ่มทำจุดสูงใหม่อีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นเพราะนักลงทุนคาดว่าสถานการณ์สงครามการค้าจะค่อย ๆ ผ่อนคลายลง อย่างไรก็ดีดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นมาอาจเป็นการขึ้นเกินกว่าปัจจัยพื้นฐาน เพราะปัจจุบันกำแพงภาษียังคงอยู่และอาจทำให้กำไรของบริษัทต่าง ๆ ภายในสหรัฐฯ เองมีแนวโน้มลดลงสวนทางกับดัชนีตลาดหุ้น

อ่านต่อ >>

จับจังหวะความผันผวนระยะสั้น ช่วยเสริมพอร์ตเติบโตระยะยาว

สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังอิสราเอลและอิหร่านตอบโต้กันด้วยปฏิบัติการทางทหารอย่างรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนหนัก ทั้งราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ราคาทองคำที่แตะระดับสูงสุดใหม่ ภาพลงทุนเข้าสู่โหมดตั้งรับความเสี่ยง (Risk off) หุ้นส่วนใหญ่ถูกเทขายจากความกังวล

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตลงทุน สู้ศึกครึ่งปีหลัง 2025

เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังปี 2025 สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกยังคงเผชิญความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากความไม่แน่นอนในการเจรจาภาษีนำเข้าของสหรัฐฯกับคู่ค้า รวมถึงสงครามในตะวันออกกลางที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้การคาดเดาทิศทางเศรษฐกิจและจับจังหวะตลาดเป็นเรื่องที่ยาก

อ่านต่อ >>

ถึงเวลาทยอยขาย “หุ้นสหรัฐฯ” กระจายซื้อหุ้นทั่วโลก หรือหุ้นปันผล

ตลาดหุ้นทั่วโลกทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ภายหลังเริ่มมีประเทศที่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ได้ โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่เริ่มทำจุดสูงใหม่อีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นเพราะนักลงทุนคาดว่าสถานการณ์สงครามการค้าจะค่อย ๆ ผ่อนคลายลง อย่างไรก็ดีดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับขึ้นมาอาจเป็นการขึ้นเกินกว่าปัจจัยพื้นฐาน เพราะปัจจุบันกำแพงภาษียังคงอยู่และอาจทำให้กำไรของบริษัทต่าง ๆ ภายในสหรัฐฯ เองมีแนวโน้มลดลงสวนทางกับดัชนีตลาดหุ้น

อ่านต่อ >>

จับจังหวะความผันผวนระยะสั้น ช่วยเสริมพอร์ตเติบโตระยะยาว

สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังอิสราเอลและอิหร่านตอบโต้กันด้วยปฏิบัติการทางทหารอย่างรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี ส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนหนัก ทั้งราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น ราคาทองคำที่แตะระดับสูงสุดใหม่ ภาพลงทุนเข้าสู่โหมดตั้งรับความเสี่ยง (Risk off) หุ้นส่วนใหญ่ถูกเทขายจากความกังวล

อ่านต่อ >>

ปรับพอร์ตลงทุน สู้ศึกครึ่งปีหลัง 2025

เข้าสู่ช่วงครึ่งหลังปี 2025 สถานการณ์การลงทุนทั่วโลกยังคงเผชิญความท้าทายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากความไม่แน่นอนในการเจรจาภาษีนำเข้าของสหรัฐฯกับคู่ค้า รวมถึงสงครามในตะวันออกกลางที่กลับมาปะทุขึ้นอีกครั้ง ทำให้การคาดเดาทิศทางเศรษฐกิจและจับจังหวะตลาดเป็นเรื่องที่ยาก

อ่านต่อ >>
Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า