เรือนเวลาสวยหรูที่ควรค่าแก่การลงทุน

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 60 | คอลัมน์ Collectable

หากพูดถึงการลงทุนกับสิ่งที่หลงใหลในยุคปัจจุบัน นอกจากคริปโทฯ อาร์ต (Crypto Art) หรือการสะสมงานศิลปะผ่าน NFT แล้ว สิ่งของที่ควรค่าแก่การสะสมและได้รับความนิยมในหมู่ Passion Investors มาอย่างต่อเนื่องนั้น คงต้องยกให้กับ “นาฬิกา” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่คุ้มค่า ทั้งในแง่ของคุณค่าทางจิตใจ ความรู้สึกภูมิใจที่ได้ครอบครองในสิ่งที่ชื่นชอบ ตลอดจนการได้สวมใส่ ทั้งยังอาจสร้างคุณค่าและมูลค่า (เพิ่ม) จากการซื้อขายในอนาคตได้แบบเหนือความหมายด้วย โดยการเติบโตของการลงทุนในนาฬิกา Pre-owned นั้นถือว่ามีการเติบโตขึ้นอย่างมาก ซึ่งในปี 2019 มีมูลค่าการซื้อขายในตลาดอยู่ที่ 18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ McKinsey เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลด้านการตลาดของนาฬิกาและเครื่องประดับชั้นนำ มีการคาดการณ์ว่าในปี 2025 จะเติบโตได้สูงถึง 30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ รวมถึงมีสัดส่วนการขายนาฬิกา Pre-owned ได้ราวครึ่งหนึ่งของตลาดนาฬิกามือหนึ่ง

สำหรับนักลงทุนและนักสะสมที่ติดตามกระแสการเติบโตของตลาดนาฬิกานี้ ย่อมรู้ดีว่าพวกเขาควรมองหานาฬิการุ่นใดบ้างไว้ในครอบครอง และนี่คือ 3 นาฬิการุ่นดังจากแบรนด์ในใจของบรรดานักลงทุนยุคปัจจุบันที่เราคัดสรรมาแนะนำสำหรับปี 2022 

Audemars Piguet Royal Oak “Jumbo” Extra-Thin Ref. 16202 หนึ่งในไอคอนตลอดกาลของแวดวงนาฬิกา

Royal Oak หนึ่งในนาฬิการะดับตำนานจากแบรนด์ Audemars Piguet ที่ทั้งบรรดานักสะสมและนักลงทุนต่างเสาะหาเพื่อมีไว้ในครอบครอง เพราะเป็นหนึ่งในผลงานที่เรียกได้ว่า เป็นไอคอนตลอดกาลของแวดวงนาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและยังคงดำเนินการผลิต ตลอดจนพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญคือได้ร่วมสร้างสถิติบนเวทีประมูลนาฬิกามาแล้วมากมาย และปี 2022 นี้ถือเป็นปีสำคัญของ Royal Oak เพราะเป็นการครบรอบ 50 ปีของการสร้างสรรค์คอลเลกชันนี้ขึ้นครั้งแรกในปี 1972 โดย Gerald Genta นักออกแบบนาฬิการะดับตำนาน ผู้อยู่เบื้องหลังนาฬิกาชื่อดังมากมาย ส่วนรุ่น “Jumbo” นั้น ได้รับฉายามาจากบรรดานักสะสม เพราะเป็นรุ่นที่อุทิศให้กับ Royal Oak 5402 รุ่นดั้งเดิมในปี 1972 ทั้งในแง่งานออกแบบและหน้าตา รวมถึงตัวเรือน 39 มม. ที่ถือว่ามีขนาดใหญ่มากสำหรับยุคนั้น ส่วนทายาทนาฬิการุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักสะสม ก็คือ Royal Oak “Jumbo” Extra-Thin Ref. 16202 ซึ่งงดงามด้วยหน้าปัดสี Smoked Green ไล่เฉดสี และตกแต่งแบบซันเบิรสต์ เพื่อช่วยกระจายแสงให้เกิดมิติที่สวยงามยิ่งขึ้นบนหน้าปัด พร้อมเพิ่มมิติความเปล่งประกายแบบรัศมีดวงอาทิตย์ด้วยการตกแต่งแบบซันเรย์ ซึ่งมาพร้อมกับตัวเรือน 39 มม. และสายแพลทินัม อีกทั้งยังบรรจุด้วยกลไกใหม่ Calibre 7121 ที่บอกเวลาได้อย่างแม่นยำและมีพลังงานที่มากขึ้น รวมถึงโรเตอร์ขึ้นลานของกลไกดีไซน์พิเศษ ที่ประทับคำว่า “50 YEARS” เพื่อสื่อถึงการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของ Royal Oak และสามารถมองเห็นได้ผ่านฝาหลังแบบเปลือยใสของนาฬิกาที่ติดตั้งด้วยกระจกแซฟไฟร์ ขณะที่ความนิยมในการลงทุนนั้นยังมาจากเมื่อปี 2020 หนึ่งในนาฬิกา Royal Oak Jumbo Ref. 5402 ซึ่งเป็นรุ่นตัวเรือนYellow Gold หายากนั้น สามารถทำราคาประมูลในงาน Antiquorum ที่จัดขึ้นที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา นั่นก็คือ 150,000 ฟรังก์สวิส (รวมค่าพรีเมียมของผู้ซื้อ) หรือประมาณ 164,175 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากการประเมินราคาไว้ที่ 60,000 - 120,000 ฟรังก์สวิส

file
file

Patek Philippe Nautilus Ref. 5711/1A นาฬิกาดีไซน์สปอร์ตหรูทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา

Patek Philippe ถือเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์นาฬิกาสุดหรูที่ราคาสูงลิ่ว และหนึ่งในรุ่นที่ได้รับความนิยม นั่นก็คือ Nautilus ที่เปิดตัวในปี 1976 และกลายเป็นนาฬิกาสปอร์ตคอลเลกชันเรือธงของแบรนด์ โดยการออกแบบของ Gerald Genta ซึ่งตัวเรือนของ Nautilus นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Porthole ของเรือ ผสานด้วยดีไซน์ขอบตัวเรือนทรงแปดเหลี่ยมกับขอบมุมกลมมนที่แตกต่างจากงานออกแบบของนาฬิกาทั่วไป กระทั่งครบรอบ 30 ปี ของ Nautilus ในปี 2006 จึงได้มีการปรับโฉมจากเวอร์ชันแรกๆ ของ Nautilus Ref. 3700 มาสู่ดีไซน์ที่ทันสมัยมากขึ้น ทั้งการปรับขนาดตัวเรือนเป็น 40 มม. ตลอดจนการปรับแต่งโครงสร้างและบรรจุด้วยฝาหลังกระจก ที่เปิดให้เห็นการทำงานภายในของกลไกจักรกลอันสวยงาม อันเป็นที่มาของสไตล์และรูปทรงของ Nautilus ยอดนิยมที่รู้จักกันในทุกวันนี้ โดยการปรับโฉมครั้งนั้นนำมาสู่การเปิดตัวนาฬิกา Ref. 5711/1A เวอร์ชันสตีลของ Nautilus ในปี 2006 และทันทีที่ Patek Philippe ประกาศ Discontinued เวอร์ชันสตีล Ref. 5711/1A เป็นปีสุดท้ายในปี 2021 ก็ทำให้ราคาของ Ref. 5711/1A รุ่นก่อนหน้าต่างๆ สูงขึ้นลิบลิ่วในตลาด Pre-owned อย่าง Ref. 5711/1A หน้าปัดสีน้ำเงิน ที่ผลิตขึ้นเพียง 170 เรือน สำหรับเฉลิมฉลองครบรอบ 170 ปีของ Tiffany นั้นมีราคาที่ราว 120,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าจะไปได้ถึง 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นเดียวกับนาฬิกา Ref. 5711/1A-014 หน้าปัดสีเขียวมะกอก (Olive Green) ของปี 2021 ที่คาดว่าจะเป็นรุ่นส่งท้ายของ Ref. 5711/1A ก็เริ่มหายากและกลายเป็นที่ตามหาของเหล่าบรรดานักสะสม จนมีราคาในตลาด Pre-owned เริ่มต้นถึง 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าราคาดังกล่าวก็คงจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ 

file
file

Vacheron Constantin Overseas 4500V กระแสความนิยมที่สร้างดีมานด์เกินความคาดหมาย

แม้ไม่ใช่ตัวเต็ง แต่กลายเป็นอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์ให้กับนักสะสมและนักลงทุน กับกระแสนิยมของ Overseas 4500V นาฬิกาสปอร์ตแคชชวลจาก Vacheron Constantin ที่กำลังฮอตบนโลกโซเชียลและตลาดนักลงทุนนาฬิกา โดยเป็นที่จับตามองมากยิ่งขึ้น เมื่อมูลค่าในตลาด Pre-owned ขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเวอร์ชันสตีลและหน้าปัดสีดำหรือสีน้ำเงิน ที่ได้รับความสนใจในตลาดมากเป็นพิเศษ ทั้งยังส่งผลให้นาฬิการุ่น Blue Overseas ของปี 2020 ซึ่งมาพร้อมกับตัวเรือน Pink Gold และหน้าปัดสีน้ำเงิน ได้กลายเป็นสัญลักษณ์สีของนาฬิกาสปอร์ตสำหรับนักเดินทาง จนเป็นที่ตามหาของเหล่าบรรดานักลงทุนไปด้วย โดยเสน่ห์ของตระกูล Overseas นั้นนอกจากจะเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว (คาดการณ์ว่าจะเป็นเช่นนี้ไปอีกระยะเวลาหนึ่ง) นาฬิกาOverseas 4500V ยังมีความพิเศษในเรื่องการติดตั้งด้วยกลไกเครื่อง In-house ซึ่งเป็นกลไกที่ทางแบรนด์ได้คิดค้นพัฒนาขึ้นเอง พร้อมทั้งส่งมอบมากับสายนาฬิกา ที่สามารถถอดเปลี่ยนสลับได้ระหว่างสายโลหะ สายหนังจระเข้ และสายยาง โดยถือเป็นคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของผู้คนในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบันราคา Pre-owned นั้นอยู่ที่ราว 40,000 - 55,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือว่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากราคาตั้งต้นที่ 23,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ