อาณาจักรสวรรค์ใต้ผืนน้ำ ณ เกาะทะเลใต้ Skin Dive, Free Dive และ Scuba ต้องไม่พลาดเช็กอิน!

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 64 | คอลัมน์ Going Away

file

นอกจากน้ำทะเลใสที่มีเฉดสีฟ้าเขียวสวยงามจับใจจนมีชื่อเสียงโด่งดังดึงดูดนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติจากทั่วโลก ทะเลทางภาคใต้ของประเทศไทย ยังจัดเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำทั้งลึกและตื้นที่สวยงามติดอันดับโลก ด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ทะเลใต้จึงอุดมด้วยพันธุ์สัตว์น้ำหลากหลาย รวมทั้งปะการังรูปทรงสวยงามตระการตา เกาะน้อยใหญ่ทางภาคใต้จึงเป็นจุดหมายสำคัญที่นักท่องเที่ยวสายผจญภัยผู้ชื่นชอบการดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจไม่ควรพลาดเดินทางไปเช็กอิน สำหรับใครที่กำลังมองหาทริปดำน้ำประจำปี Going Away ฉบับนี้ ชวนมาปักหมุดจุดดำน้ำสุดตระการตา ดินแดนสวรรค์ใต้ผืนน้ำที่รับรองว่าจะสร้างประสบการณ์ประทับใจไม่รู้ลืม 

“ทะลอันดามัน” ความงดงามที่ไม่เป็นรองทะเลใด ๆ ในโลก

น้ำทะเลใสเคลียร์ราวกระจก ลึกลงไปคือความงดงามที่เหล่าบรรดานักดำน้ำฝันจะได้เห็นด้วยตา ไม่ว่าจะเป็นปะการังสวยแปลกตา ปลาน้อยใหญ่สีสันสดใส หมึกยักษ์ เต่าทะเล หรือแม้แต่ฉลามวาฬ ทำให้ทะเลอันดามันเป็นจุดดำน้ำสำคัญที่เหล่า Diver ต้องไปเยือน

“หมู่เกาะสิมิลัน” อลังการใต้ท้องทะเลฝั่งอันดามันเหนือ

เริ่มต้นการเดินทาง ณ หมู่เกาะสิมิลัน ฝั่งอันดามันเหนือ เพียงแค่หาดทรายขาวล้อมรอบเกาะและน้ำทะเลสีฟ้าใสก็เพียงพอที่จะทำให้คนรักทะเลดื่มด่ำจนแทบจะหยุดหายใจ แต่ความอลังการใต้ท้องทะเลยิ่งจับใจไปอีกขั้น สมฐานะการเป็นแหล่งดำน้ำสวยงามติดอันดับต้น ๆ ของโลก เพราะมีจุดดำน้ำทั้งลึกและตื้นมากกว่า 20 แห่ง  

“สิมิลัน” แปลว่า เก้า ในภาษายาวี ตั้งชื่อตามลักษณะทางกายภาพของหมู่เกาะแห่งนี้ ที่ประกอบด้วยเกาะทั้งเก้า เรียงลำดับจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ เริ่มจากเกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง เกาะปายู เกาะบอน เกาะสิมิลัน และเกาะบางู โดยในปัจจุบัน เกาะตาชัยซึ่งอยู่เหนือเกาะหูยงขึ้นไปได้รับการผนวกรวมเข้าไปในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันด้วย

file

จุดดำน้ำที่สวยงามขึ้นชื่อของหมู่เกาะสิมิลัน คือแนวปะการังบริเวณด้านชายฝั่งตะวันออก ลึกลงไปประมาณ  40 เมตร ซึ่งมีลักษณะเป็นผาหิน มีทั้งปะการังแข็ง ปะการังอ่อน ที่สวยงามตระการตา ส่วนทางด้านตะวันตกมีชื่อเสียงโดดเด่นเรื่องกองหินกองใหญ่ มีปะการังอ่อนมากมาย รวมทั้งฝูงปลาสีสันสวยงาม แต่ถือว่าเป็นจุดที่ค่อนข้างจะท้าทาย เพราะความรุนแรงของกระแสน้ำ จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มีประสบการณ์ดำน้ำลึกพอสมควร

หนึ่งในจุดที่ถือเป็นไฮไลต์ของการดำน้ำของสิมิลัน คือบริเวณเกาะบอน ที่มีช่องทะลุเกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเล จึงมีอีกชื่อเรียกว่าเกาะทะลุ สิ่งที่เกาะบอนไม่มีคือชายหาด แต่สิ่งที่มีและทำให้นักดำน้ำใฝ่ฝันจะได้มาเปิดประสบการณ์ประทับใจสักครั้ง คือแนวปะการังน้ำลึกที่สมบูรณ์และสวยงาม จุดเด่นของโลกใต้ทะเลบริเวณนี้คือ “สะพานหิน” ที่เกิดจากนำ้ทะเลกัดเซาะจนหินกลายเป็นโพรงรูปทรงคล้ายสะพาน และกลายเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของฝูงปลามากมาย อีกทั้งจุดดำน้ำแห่งนี้ยังมีโอกาสสูงที่นักดำน้ำจะได้เจอกับ “กระเบนราหู” สัตว์น้ำหายาก อย่างไรก็ตาม เกาะบอนยังถือเป็นความท้าทายสำหรับนักดำน้ำ นั่นเพราะเป็นจุดดำน้ำที่ลึกและมีกระแสน้ำพัดแรง จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องอาศัยทักษะการดำน้ำที่สูงพอตัว

file

ส่วนอีกหนึ่งเกาะที่ไม่ควรพลาดชมความงามอย่างยิ่งคือเกาะตาชัย สมาชิกใหม่ล่าสุดของหมู่เกาะแห่งนี้ โดยเป็นเกาะที่อยู่เหนือสุด สำหรับชื่อเกาะ คือชื่อของผู้ที่ค้นพบเกาะแห่งนี้นั่นเอง เสน่ห์ของเกาะตาชัยคือหาดทรายขาวละเอียด เนียนนุ่ม มีความยาวของหาดประมาณ 700 เมตร ทอดตัวไปกับผืนน้ำทะเลสีสดใส ส่วนลึกลงไปใต้ทะเลก็มีแนวปะการังขนานไปตามแนวชายหาดของเกาะเช่นกัน ทางด้านเหนือของเกาะเป็นแนวปะการังน้ำตื้น น้ำทะเลลึกประมาณ 4 - 6 เมตร ส่วนทางด้านใต้เกาะ น้ำทะเลลึก 6 - 10 เมตร มีปะการังแข็งและมีโอกาสเจอฝูงปลาได้มากกว่าจุดแรก นอกจากนี้ บนเกาะยังมีกิจกรรมดูปูไก่ ปูน้ำจืดที่อาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำตื้นที่มีลักษณะเฉพาะตัวน่าสนใจทีเดียว ด้วยลำตัวสีแดงสด ก้ามสีดำเหลือบน้ำเงิน เวลาร้องจะมีเสียงคล้ายไก่ จึงเป็นที่มาของชื่อนั่นเอง

Travel’s Guide

• เวลาที่เหมาะสมสำหรับการไปเยือนหมู่เกาะสิมิลัน คือ เดือนตุลาคม-พฤษภาคม

• ค่าธรรมเนียมการเข้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน 

ชาวไทย: ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท

ชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ 500 บาท เด็ก 250 บาท 

ฝั่งอันดามันใต้...ตระการตากับหมู่แมนต้าและฉลามวาฬ 

เก็บประสบการณ์ความงามของฝั่งเหนือแล้ว ก็ต้องเดินทางเลาะลงมาเก็บความสวยงามของโลกใต้ทะเลที่อันดามันฝั่งใต้กันให้ครบสมบูรณ์ โดยเฉพาะสองเกาะในสองจังหวัดที่มีความสวยงามยืนหนึ่ง แม้ต้องเดินทางกันยาวนานหน่อยแต่ทัศนียภาพของทั้งสองแห่งนี้สร้างประสบการณ์ความประทับใจได้ไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน

เริ่มต้นที่จังหวัดกระบี่ ณ เกาะห้า ลากูน ชื่อเกาะห้าได้มาเพราะประกอบไปด้วยกลุ่มเกาะ 5 เกาะตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา เป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงเพราะมีจุดดำน้ำถึงเก้าแห่งในน้ำลึก ทำให้มีโอกาสสูงที่จะได้เจอฉลามวาฬและปลากระเบนหรือแมนต้า ส่วนแนวปะการังเป็นแหล่งที่อยู่ของสัตว์น้ำขนาดเล็ก บริเวณพื้นที่ของเกาะห้าลากูนเป็นแอ่งน้ำตรงกลางมีเกาะล้อมรอบ ทำให้กระแสน้ำนิ่งและนำ้ใสราวกระจก มีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับการดำน้ำตื้น น้ำในลากูนมีความลึก 5 - 6 เมตร มีแนวปะการังบนโขดหินที่สูงจากพื้นทะเลถึงใต้ผิวน้ำในระยะหนึ่งเมตรหลายจุด บริเวณขอบของลากูนเป็นพื้นทรายลาดลงไปในน้ำลึก มีโอกาสพบปลาผีเสื้อกลางคืน ปลาลิ้นหมา ปลาจิ้มฟัน ส่วนปลาในแนวปะการังมีมากมาย ทั้งปลานกแก้ว ปลาเทวดา ปลาผีเสื้อ ปลาวัว ปลานกขุนทอง รวมถึงปลาไหลมอเรย์ที่ว่ายน้ำท่ามกลางปะการัง

Travel’s Guides :

เวลาที่เหมาะสมของการไปเกาะห้าลากูน คือ กลางเดือนตุลาคมไปจนถึงเดือนพฤษภาคม

file
file

  อีกหนึ่งเกาะที่งดงามจนไม่ว่าบรรยายอย่างไรก็ไม่สามารถเทียบเท่ากับการได้ไปเห็นภาพตรงหน้า “เกาะหลีเป๊ะ สตูล” เป็นเกาะที่อยู่ห่างไกลจากชายฝั่ง จึงมีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูง แค่เพียงความงามของท้องทะเลที่มองออกไปจากเกาะก็สวยงามจับใจอย่างยิ่ง อีกทั้งเป็นสถานที่อันพิเศษสำหรับผู้ที่แพลนทริปมาดำน้ำโดยเฉพาะ เพราะมีจุดดำน้ำที่สวยงามมากมาย แบ่งออกเป็นโซนในและโซนนอก แต่ละโซนมีจุดดำน้ำที่สวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกาะหินงามที่มีหาดหินสวยเป็นเอกลักษณ์ และด้านหลังของเกาะมีจุดดำน้ำดูปะการังและร่องน้ำจาบัง ซึ่งเป็นจุดที่จะได้ชมปะการังเจ็ดสี ซึ่งเป็นจุดเช็กอินยอดนิยมของโซนใน

ส่วนจุดดำน้ำเด่นของโซนนอก ได้แก่ เกาะหินซ้อน เกาะรอกลอย อ่าวกำนัน ซึ่งล้วนเป็นจุดที่มีปะการังและสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งยังมีจุดดำน้ำดูปะการังสุดเลิศอยู่บริเวณหน้าเกาะโซนตะวันออก อย่างเกาะอุเส็น เกาะขนาดเล็กบริเวณด้านหน้าเกาะหลีเป๊ะที่อุดมสมบูรณ์ด้วยปะการังเขากวาง

Travel’s Guide

• แม้ว่าช่วงฤดูท่องเที่ยว (High Season) บนเกาะหลีเป๊ะอยู่ที่กลางเดือนตุลาคม-พฤษภาคม แต่สำหรับการดำน้ำสามารถทำได้ตลอดทั้งปี แม้จะเป็นฤดูฝนก็ตาม เพียงแค่ต้องเปลี่ยนจุดดำน้ำไปตามแต่ละช่วงเวลา ซึ่งกัปตันเรือผู้เชี่ยวชาญเส้นทางสามารถพานักดำน้ำออกไปตามจุดที่เหมาะสมสำหรับสภาพอากาศในวันนั้น ๆ

• แนะนำให้เดินทางมาถึงเกาะหลีเป๊ะช่วงบ่ายกลาง ๆ แล้วพักผ่อนอย่างเต็มที่ ก่อนจะแพลนทริปดำน้ำในวันรุ่งขึ้นหรือวันต่อ ๆ ไป

• สามารถแพลนทริปไปจุดดำน้ำตามความเหมาะสมกับความชอบและสภาพอากาศในแต่ละวัน ซึ่งกัปตันเรือแต่ละคนจะมีความเชี่ยวชาญและให้คำแนะนำได้เป็นอย่างดี

 

โลกใต้น้ำสวยจับใจ ณ กลางทะเลอ่าวไทย

ข้ามฝั่งมายังอ่าวไทยก็มีจุดดำน้ำสวยงามอย่างยิ่งสองจุด ณ เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่แนะนำว่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง 

 เพลินตากลุ่มปะการัง ดอกไม้ทะเล ที่กองหินชุมพร

เริ่มกันที่ “กองหินชุมพร” กองหินน้ำขนาดใหญ่ ห่างจากเกาะเต่าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือราว 12 กิโลเมตร เนื่องจากอยู่ห่างไกลจากชายฝั่งจึงเป็นแหล่งน้ำใสด้วยความลึกในหลายระดับ สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำลึกและน้ำตื้น ประกอบด้วยหินใต้น้ำขนาดใหญ่ อุดมด้วยกลุ่มปะการังหลากหลาย ดอกไม้ทะเล และสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก อาทิ ปลาหูช้าง ปลาสาก ปลาเก๋าดอกหมากขนาดยักษ์ ที่นี่ยังเป็นจุดดำน้ำดูฉลามวาฬที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในอ่าวไทยด้วย 

file

หินใบ (Sail Rock) ดินแดนแห่งฉลามวาฬของเกาะเต่า 

อีกหนึ่งแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงอย่างมากของเกาะเต่า คือ “หินใบ (Sail Rock)” ที่เหมาะกับนักดำน้ำลึกที่มีทักษะขั้นสูง หินใบอยู่ห่างจากเกาะเต่าประมาณ 1.30 - 2 ชั่วโมง แต่ถือเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับประสบการณ์ที่จะได้รับ นักดำนำ้สามารถใช้เวลาตลอดทั้งวันเพื่อสำรวจความงามของโลกใต้น้ำของหินใบอย่างเต็มอิ่ม เพลิดเพลินกับการสังเกตการณ์เหล่าฝูงปลาน้อยใหญ่ที่ว่ายวนไปมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ฝูงปลาสาก ปลากะมงพร้าว ปลาหูช้าง ปลาผีเสื้อ และพันธุ์ปลาอื่น ๆ อีกมากมาย รวมไปถึงมีโอกาสสูงมากที่จะได้เจอฉลามวาฬที่หลาย ๆ คนอยากจะเจอและจับภาพเก็บไว้เป็นความประทับใจ 

file

Travel’s Guide

สามารถเดินทางไปเที่ยวเกาะเต่าได้ตลอดทั้งปี สำหรับช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการดำน้ำลึก คือเดือนมีนาคมถึงมิถุนายน ส่วนช่วงเดือนตุลาคมถึงมีนาคม น้ำทะเลจะขึ้นสูงเต็มอ่าว จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การว่ายน้ำและดำน้ำตื้น