
‘วิทนาถ วรรธนะกุล’ เดินหน้า Episode ใหม่ รอยัล คลิฟ พัทยา The Timeless Luxury Destination Resort
นิตยสาร Trust ฉบับที่ 72 | คอลัมน์ New Generation

กว่า 4 ทศวรรษที่ ‘รอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ป’ โด่งดังและเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ในวันที่มีโอกาสได้มาเยือนประเทศไทยและแวะพักผ่อน ณ เมืองพัทยา โดยเฉพาะภายหลังจากการทุ่มทุนกว่า 150 ล้านบาท เพื่อทำการรีโนเวตห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวก และการบริการที่ครบวงจร เน้นสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในทุกรายละเอียดของผู้คนในโลกยุคใหม่ ภายใต้ความมุ่งมั่นในการบริหารธุรกิจของรอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ป ที่ขับเคลื่อนทั้งทัพหน้าและทัพหลัง โดยซีอีโอหนุ่ม ทายาทรุ่นที่ 2 ‘คุณแก๊ป-วิทนาถ วรรธนะกุล’
“ผมชอบธุรกิจโรงแรม มันมีความท้าทายในการบริหารเหมือนกับเรากำลังเรียน MBA เพราะผมต้องดูทุกอย่าง ตั้งแต่การตลาด HR การเงิน ฯลฯ มีเรื่องต่าง ๆ เข้ามาให้แก้ไขปัญหาทุก ๆ วัน และต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เสมอ ในทุกมิติของงานบริหารจัดการ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า คือ ผมรักที่นี่ รักรอยัล คลิฟที่คุณแม่ก่อร่างสร้างความสำเร็จมาด้วยสองมือของท่านเอง ดังนั้น การเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัวจึงเป็นเป้าหมายในชีวิตที่ผมได้ปักธงไว้ว่าจะทำให้ดีที่สุด และภูมิใจในความเป็นแบรนด์ไทยของรอยัล คลิฟ ที่ทุกวันนี้กลายเป็นจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยว ที่เมื่อพูดถึงชื่อก็รู้จักในเอกลักษณ์ความเป็นไทยร่วมสมัย โดดเด่นในเรื่องของการบริการที่สร้างความประทับใจให้แก่ทุกท่านที่มาเยือน และจากนี้ไม่ว่าจะผ่านไปกี่เจเนอเรชันก็ตาม เป้าหมายของผมคือ Timeless อยากให้รอยัล คลิฟเป็น Thai Family Business แบบที่ถูกพูดถึงว่าเป็น One Family One Hundred Years ผมมองแบบนั้น และมองล้ำไปกว่านั้นด้วยว่า ต้องให้รอยัล คลิฟ ไปต่ออย่างยั่งยืนในความเป็นแบรนด์ที่คนไทยบริหารจริง ๆ ไม่ใช่เป็น International Brand ประกาศให้โลกรู้ไปเลยว่า Thai Hospitality เป็นอันดับหนึ่งและเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเกริ่นเล่าถึงทิศทางการเดินหน้าของรอยัล คลิฟ โฮเต็ล กรุ๊ป
DNA ซีอีโอกับก้าวต่อไปของ รอยัล คลิฟ พัทยา

คุณแก๊ปได้เล่าต่อว่า ตัวเขาถูกถ่ายทอด DNA นักบริหารมาจากทั้งคุณพ่อและคุณแม่ (คุณชาญและคุณพงา วรรธนะกุล)
“คุณพ่อผมเคยเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทกรุงเทพประกันชีวิต ส่วนคุณแม่เป็นผู้บุกเบิกรอยัล คลิฟ พัทยา ผมได้มุมมองจากที่ทั้งสองท่านได้ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา ดังนั้น ภารกิจหลักของเราคือนำทุกอย่างมาเชื่อมต่อให้การบริหารธุรกิจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ยังเป็นการบริหารในแบบที่เป็นตัวเราในยุคนี้ บุคลากรที่ทำงานมาตั้งแต่รุ่นคุณแม่บริหารและที่เป็นรุ่นใหม่ ๆ ซึ่งแค่นี้ก็ท้าทายสำหรับผมแล้วว่าทำยังไงให้คน 2 กลุ่ม Blend in เข้าหากัน ให้ทุกคนมีความสุขกับการทำงาน และโดยส่วนตัวผมเปิดรับฟังทุกไอเดียจากทีมงาน แล้วนำมากลั่นกรองว่าอะไรที่เหมาะกับเรา การรับพนักงานเข้ามาทำงานในทีมก็จะมองหาคนทำงานที่มีประสบการณ์ต่างกัน เพราะถ้าแต่ละคนมีความคิดที่แตกต่าง ก็ยิ่งทำให้เห็นมุมมองที่น่าสนใจ และทำให้เราสามารถแก้ปัญหาได้รวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้น”
ทั้งนี้ ในความหมายของ Timeless Luxury Hotel อันเป็นเป้าหมายสำคัญต่อไปของการเดินหน้าของกลุ่มธุรกิจรอยัล คลิฟ หลังจากผ่านการเดินทางไปมากกว่า 50 ปีแล้วนั้น คุณแก๊ปกล่าวเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้ครอบคลุมประโยคนี้ว่า “Making magical memories for all generations. Capturing the hearts of all guests and being the top of the mind when travelers are coming to Pattaya” นั่นหมายถึง ที่นี่จะเป็นจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยประสบการณ์และความมหัศจรรย์ที่ไม่มีวันลืม ซึ่งรอยัล คลิฟพร้อมให้การต้อนรับและมอบบริการอันแสนประทับใจด้วยความใส่ใจ ชนะใจแขกทุกคนด้วยการบริการที่แฝงไปด้วยเสน่ห์และเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ซึ่งสร้างความประทับใจไปทั่วโลก
ปัจจุบัน อาณาจักรรอยัล คลิฟ มี 4 โรงแรมในบริเวณเดียวกัน คือ รอยัล คลิฟ บีช โฮเต็ล, รอยัล คลิฟ บีช เทอเรซ, รอยัล คลิฟ แกรนด์ โฮเต็ล และรอยัล วิง สวีท แอนด์ สปา
“นอกจากนี้ ทั้ง 4 โรงแรมของรอยัล คลิฟ ถูกยกระดับความลักชัวรีที่ผมไม่ได้มองแค่ Narrow Scope แต่มันคือ Define Luxury Based on Lifestyle of the Customers สำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น Family Luxury, Business Luxury, Romantic Luxury และ Ultimate Luxury ซึ่งโดยปกตินักท่องเที่ยวก็ต้องมองหาประสบการณ์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองอยู่แล้ว เราจึงสร้าง Products & Facilities ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่กำลังมองหาสิ่งเหล่านี้เพื่อให้เหมาะสมกับสไตล์การท่องเที่ยวของเขาเอง”
ไม่เพียงแค่นี้ ซีอีโอแห่งรอยัล คลิฟ ทุ่มทุนสร้างสปอร์ตคลับเพื่อให้เป็นศูนย์รวมคนรักการเล่นกีฬาแห่งใหม่ของเมืองพัทยา ทำให้ต่อไปนี้ นอกจากมีสนามเทนนิส สวย ๆ มาตรฐานแกรนด์สแลม ห้องสควอช สระว่ายน้ำ และยิมแล้ว ต่อไปจะมีสนามพิคเคิลบอล (Pickleball), บาสเกตบอล และฟุตซอล ต้อนรับให้ทุกคนได้แวะมาเยือนที่นี่ และสมัครเป็นสมาชิกสปอร์ตคลับกับที่นี่ต่อไป
สำหรับอีเวนต์ประชุมใหญ่ระดับโลก โดยเฉพาะการประชุมกลุ่ม MICE ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นอย่างแตกต่างของพื้นที่ในการจัดการประชุมขนาดใหญ่ของรอยัล คลิฟที่นานาชาตินึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย “เรายังคงให้ความสำคัญและยกระดับการจัดงานประชุมที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น ให้ทุกอีเวนต์ออกมาดีที่สุด สร้างความประทับใจแก่ทั้งผู้จัดงานและแขกร่วมงานให้ได้มากที่สุด และรอยัล คลิฟมีความโดดเด่นตรงที่มีศูนย์ประชุมนานาชาติพีชที่รับรองแขกถึง 10,000 คน ที่เชื่อมกับตัวโรงแรม ทำให้การจัดประชุมสะดวกยิ่งขึ้น”
รอยัล คลิฟ ตอบโจทย์ทุกเทรนด์ท่องเที่ยวของโลกยุคดิจิทัล
เพราะเทรนด์การท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงจาก Mass Tourism ไปสู่การท่องเที่ยวแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น สัมผัสประสบการณ์ที่เฉพาะส่วนตัวในแต่ละจุดหมายปลายทางมากขึ้น รวมถึงได้สร้างเทรนด์ท่องเที่ยวใหม่ ๆ เช่น การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมถึงการท่องเที่ยว Digital Nomad Tourism ตอบรับการทำงานโลกยุคใหม่
“วันนี้เทรนด์วิถีเที่ยวไม่ได้มีแค่การจองโรงแรม เข้าพัก นอนแล้วตื่นมากิน Breakfast นั่งเล่น นอนชิลล์ทิ้งร่างในโรงแรมอีกต่อไป แต่มันกลายเป็นการตื่นมาแล้วรู้ว่าอยู่ที่ไหน เมืองไหน ที่นี่มีอะไรดี ที่นี่มีอะไรให้ Experience เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวของเรา ตื่นเช้ามาเขารู้ว่าเขาอยู่ในประเทศไทย เพราะรอบตัวห้องพักออกแบบสื่อความเป็นไทยอย่างเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงการไหว้และรอยยิ้มจากทีมพนักงาน นี่คือ Thai Hospitality และนี่คือเทรนด์อย่างหนึ่งที่รอยัล คลิฟอยากให้นักท่องเที่ยวสัมผัสในความเป็นไทย อยากให้ชื่นชมวัฒนธรรมที่พวกเราคนไทยเองก็ภาคภูมิใจด้วยเช่นกัน”
สำหรับสายรักสุขภาพที่ให้ความสนใจ Health and Wellness ให้การต้อนรับด้วยบริการสปา เพื่อช่วงเวลาผ่อนคลายและดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ ยังมีศูนย์ออกกำลังกาย Fitz Club ที่สามารถเล่นทั้งกีฬา Indoor และ Outdoor ส่วนสายทำงานแบบ Work from Anywhere รอยัล คลิฟ พัทยาลงทุนพัฒนาระบบ WiFi 6 ที่มีศักยภาพและความปลอดภัยสูง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเจเนอเรชันใหม่ให้ได้ทำงานและสื่อสารกับทุกคนทั่วโลก รวมไปถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวสายรักษ์โลกก็จะหลงรักที่นี่ด้วยเช่นกัน
“สำหรับ Sustainable Tourism รอยัล คลิฟเป็นแห่งแรก ๆ ของพัทยาที่ทำเกี่ยวกับ Green Programme เราร่วมดูแลสิ่งแวดล้อมในการทำ Waste Water Treatment System ที่ไม่มีการปล่อยลงทะเล แต่นำมาผ่านการฟีลเตอร์แล้วเอากลับมาใช้ใหม่ รวมไปถึงเรื่อง Food Wastage เรามีจัดทำป้ายรณรงค์ให้ทุกคนตักแบบพอดี ด้านฝั่งของพนักงาน เราก็ได้มีการรณรงค์แบบเดียวกัน ด้านกิจกรรมเพื่อสังคม ผู้บริหารและทีมงานของรอยัล คลิฟได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นประจำทุกปี อาทิ ทำความสะอาดเมือง ทำความสะอาดชายหาด และยังมีไปร่วมช่วยอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกับทีมงานเมืองพัทยา ฯลฯ”

ลุยกลยุทธ์การตลาดให้รอยัล คลิฟ ปรากฎทุกแพลตฟอร์มทั่วโลก
ด้านเทคโนโลยีในโลกดิจิทัล รอยัล คลิฟมีการพัฒนาพาตัวเองเข้าไปอยู่ในทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของแต่ละประเทศ “เนื่องจากทีมงานต้องเจาะทุกตลาดโลก อาทิ ยุโรป จีน อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย ทำให้เรามีทั้ง WhatsApp เว่ยป๋อ Wechat ฯลฯ และทุกแพลตฟอร์มที่เข้าไปอยู่ รอยัล คลิฟมีทีมงานที่สามารถสนทนาด้วยภาษาของประเทศนั้น ๆ ได้ อย่างแชทผ่านเว่ยป๋อ ก็มีเจ้าหน้าที่ที่สามารถตอบเป็นภาษาจีนได้ ภายใน 24 ชั่วโมง ทุกข้อความ ทุกคอมเมนต์ จะต้องมีการตอบกลับการสนทนา นอกจากนี้ การรวบรวม Data เพื่อให้ได้ Personalise Customer Journey เป็นอีกโจทย์ที่ผมให้ทีมงานทำด้วยเช่นกัน รวมไปถึงการทำอย่างไรให้ลูกค้าที่เสิร์ชถึงพัทยา แล้วให้ไดรฟ์เข้ามาในโลกของรอยัล คลิฟ เพื่อตอบโจทย์ทุกประสบการณ์การเดินทางเที่ยวเมืองพัทยา”
นี่คือทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจของซีอีโอแห่งรอยัล คลิฟ ผู้ไม่เคยหยุดนิ่งการเรียนรู้ในศาสตร์ทุกแขนง สามารถมองทุกวิกฤตให้เป็นโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืนที่ผ่านเบื้องหลังการทำงานอย่างเป็นระบบ