TISCO 55 ปี การเติบโตบนเส้นทางความยั่งยืน

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 67 | คอลัมน์ Exclusive

file

 

ปี 2567 นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่กลุ่มทิสโก้ดำเนินธุรกิจมาครบรอบ 55 ปี การเดินทางอันยาวนานเกินกว่าครึ่งศตวรรษ ตลอดจนการเติบโตอย่างยั่งยืน คือบทพิสูจน์ของการเป็นสถาบันการเงินอันมั่นคง ลูกค้าให้ความเชื่อถือ ไว้วางใจ และพร้อมอยู่เคียงคู่สังคมไทยเสมอมา

TRUST ฉบับนี้ ได้รับเกียรติอีกครั้งจาก “คุณศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ มาร่วมพูดคุยถึงผลงานและแผนงานในอนาคตข้างหน้า ที่กลุ่มทิสโก้จะเติบโตต่อไปด้วยเป้าหมายแห่งความยั่งยืน ตลอดจนการมุ่งมั่นที่จะเป็น Your Trusted Financial Advisor ให้กับทุกคน

เส้นทางแห่งความไว้วางใจ

    ในฐานะที่เป็นบุคลากรในกลุ่มทิสโก้มานานกว่า 30 ปี ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตในแต่ละยุคสมัย คุณศักดิ์ชัยกล่าวว่า หากย้อนกลับไปในยุคแรก ทิสโก้ถือเป็นผู้บุกเบิกและสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงินมากมาย ตลอดจนมีส่วนร่วมในการพัฒนาบริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ในแต่ละกลุ่มลูกค้ามาอย่างยาวนาน เรียกว่าเป็นองค์กรที่มี Innovation สูง มีการพัฒนา Financial Product และ Solution มาใช้ตั้งแต่ยุคแรกๆ

    โดยเป็นผู้นำระบบเช่าซื้อเข้ามาในเมืองไทยเพื่อให้คนเข้าถึงแหล่งเงินได้ง่ายขึ้น เป็นผู้บุกเบิกบริการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่สร้างความมั่นคงให้กับคนไทย ริเริ่มและพัฒนาตลาดทุน รวมถึงมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการจัดตั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในฐานะสมาชิกรุ่นบุกเบิกษ ริเริ่มหน่วยงานวิจัยธุรกิจ การคำนวณดัชนีราคาหุ้น (TISCO Price Index) จัดตั้งศูนย์ข้อมูลเครดิต คิดค้นบริการเงินกู้ร่วม (Syndicate Loan) ฯลฯ มาถึงวันที่ก้าวสู่ปีที่ 55 นับได้ว่าทิสโก้เป็นองค์กรทางการเงินที่เติบโตได้อย่างมั่นคงและได้รับความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญมาโดยตลอด

    หัวใจสำคัญที่ทำให้กลุ่มทิสโก้เติบโตอย่างโดดเด่นและยั่งยืนมาอย่างยาวนาน คือ ค่านิยม และวัฒนธรรมองค์กรที่ดีและแข็งแรง วัฒนธรรมองค์กรประการแรก คือ วัฒนธรรมการให้ความสำคัญกับจรรยาบรรณในการทำธุรกิจและธรรมาภิบาลที่ดี ประการที่สอง คือ วัฒนธรรมในการรักษาความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการความเสี่ยง ประการที่สาม คือ การเอาใจไปใส่ไว้ในใจลูกค้าภายใต้หลักการ Customer Centricity และประการสุดท้ายคือ วัฒนธรรมส่งเสริมการสร้างนวัตกรรม (Culture of Innovation) ส่งผลให้ทิสโก้ฟันฝ่าวิกฤตต่างๆ และประสบความสำเร็จมาได้เสมอ ไม่เพียงเท่านั้นทิสโก้ยังเป็นสถาบันการเงินอันดับต้นๆ ที่ขึ้นชื่อว่าสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น พนักงาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างเสมอต้นเสมอปลาย

    “ผมมองว่าขนาดของธุรกิจไม่ใช่สิ่งสำคัญ เราควรมองกันที่ความมั่นคงและการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร ดูแลทุก Key Stakeholders อย่างรอบด้าน และไม่ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร ทิสโก้ยังคงให้ความสำคัญต่อการบริหารความเสี่ยง โดยยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง มีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 22.3% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย” คุณศักดิ์ชัยกล่าว  

มุ่งมั่นกับการเป็น “Your Trusted Financial Advisor”

    การจะเติบโตผ่านร้อนผ่านหนาวมาได้กว่า 55 ปี แน่นอนว่าจะต้องได้รับความ “ไว้เนื้อเชื่อใจ” และ “ไว้วางใจ” จากทุกภาคส่วน โดยคุณศักดิ์ชัยมองว่า สำหรับองค์กรที่ให้บริการเรื่องการเงิน คำว่า “TRUST” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และเป็นคำที่บ่งบอกความเป็นตัวตนของทิสโก้ได้ดีที่สุด

    “สำหรับผมแล้วคำว่า “TRUST” ลึกซึ้งและยิ่งใหญ่มาก สมมุติว่าเรารักใครสักคน เราอาจไม่ถึงกับไว้วางใจให้เขาเข้ามาบริหารเงิน เพราะไม่ได้ไว้ใจขนาดนั้น แต่ถ้าเรา TRUST ใครสักคนจะมีคำว่า Love อยู่ในนั้นด้วย ดังนั้น ทิสโก้ในสถานะสถาบันการเงินจึงให้ความสำคัญอย่างมากที่จะสร้าง TRUST กับลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งทั้งหมดนี้หล่อหลอมมาจากค่านิยมขององค์กร ที่เกิดจากส่วนผสมที่ลงตัวจากตัวอักษร 7 ตัวของคำว่า “MIRACLE” ประกอบด้วย Mastery - เชี่ยวชาญอย่างผู้นำ Integrity - ซื่อสัตย์ มีคุณธรรม Reliability - สร้างผลงานที่น่าเชื่อถือ Advice - การให้คำแนะนำ Creativity - ความคิดสร้างสรรค์ Learning - เรียนรู้สิ่งใหม่เสมอ Empathy - ใส่ใจบริการ ” คุณศักดิ์ชัยกล่าว

ดังนั้น เพื่อให้ภาพดังกล่าวชัดเจนขึ้น ในโอกาสครบรอบ 55 ปี ทิสโก้จึงก้าวต่ออีกขั้นด้วยสโลแกน “Your Trusted Financial Advisor”  

    “หากจะพูดให้ง่ายๆ ก็คือ ผมอยากให้การเป็น Your Trusted Financial Advisor ของทิสโก้ เป็นส่วนหนึ่งของลูกค้า ในเวลาที่เขาคิดถึงเรื่องการเงิน เขาจะนึกถึงเรา ทิสโก้จะเป็นบริษัทที่เขาไว้ใจ สามารถมานั่งคุยปรึกษากัน แล้วให้เราช่วยวางแผน หรือออกแบบสิ่งที่เขาต้องการหรือเหมาะสม และเติบโตทางการเงินไปด้วยกัน ขณะเดียวกัน ทิสโก้จะเป็นองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ต้องวิ่งไปเร็วมาก แต่เป็นการวิ่งมาราธอน ขยันทำงานไปเรื่อยๆ วิ่งไปเรื่อยๆ ไม่หยุดแข่งขันกับตัวเอง และส่งไม้ต่อจากรุ่นสู่รุ่น”  

    นอกจากนี้ เป้าหมายสำคัญของกลุ่มทิสโก้ คือการมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในกลุ่มการเงินแบบ Total Solutions โดยพนักงานทิสโก้ที่มีความรอบรู้ รอบด้าน มีความชำนาญ ความเชี่ยวชาญ สามารถวางแผนและให้คำปรึกษาทางการเงินกับลูกค้าได้ (Advisory Model) รวมถึงมี Mindset เดียวกันคือ เลือกส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุด ตรงความต้องการให้กับลูกค้าด้วยจุดแข็งที่ทิสโก้มโมเดลธุรกิจ Open Architecture ทำให้สามารถคัดเลือกผลิตภัณฑ์กองทุนและประกันจากบริษัทชั้นนำที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าได้อย่างไม่จำกัดค่าย

    “เราทราบดีว่าแต่ละบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนและบริษัทประกัน ล้วนมีจุดแข็งที่ไม่เหมือนกัน การที่เราเปิดกว้างในการเสนอขายประกันและกองทุนจากหลากหลายบริษัทจะช่วยให้ลูกค้าได้รับโอกาสการลงทุนและโอกาสในการสร้างหลักประกันให้กับชีวิตได้อย่างดีที่สุด ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงการออกแบบและคัดเลือกผลิตภัณฑ์โดยใช้ความต้องการของลูกค้า (Customer Focus) เป็นตัวตั้ง”

ยุทธศาสตร์เติบโตบนเส้นทางความยั่งยืน

    ทุกวันนี้ทุกองค์กรต่างให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ดำเนินธุรกิจโดยไม่หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่คำนึงถึง 3 ปัจจัยหลัก คือ การดูแลสิ่งแวดล้อม (E-Environmental) การรับผิดชอบต่อสังคม (S-Social) พร้อมไปกับการมีธรรมาภิบาล (G-Governance) คุณศักดิ์ชัยมองว่า ความใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม และการมีธรรมาภิบาลที่ดี เป็นรากฐานสำคัญที่ทุกธุรกิจต้องมีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จำเป็นต้องให้ความสำคัญมากขึ้นคือ S-Social ในฐานะที่ทิสโก้เป็นสถาบันทางการเงิน จำเป็นต้องวางทิศทางให้ตอบโจทย์บริบทที่เปลี่ยนแปลงพร้อมกับสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้สังคมด้วย

    เส้นทางข้างหน้า ทิสโก้จะมุ่งขับเคลื่อนองค์กรสู่แนวคิดของการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Direction) เข้าไปในทุกธุรกิจ ทั้งสายงานลูกค้าธนบดีและจัดการกองทุน (Wealth & Asset Management) สายงานลูกค้ารายย่อย (Retail Banking) และสายงานลูกค้าบรรษัท (Corporate Banking) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนไทยและสังคมไทย

    เริ่มจากกลุ่มธุรกิจ Wealth ที่เน้นเรื่องการวางแผนทางการเงินให้เกษียณสุข (Social Well-being with Financial Freedom & Security) เพราะปัจจุบันสังคมไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) และอีกไม่ถึง 10 ปี ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super-Aged Society) โดยทิสโก้จะนำความเชี่ยวชาญในทุกแขนงมาพัฒนาต่อยอด เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและเติมเต็มโอกาสทางการเงินอันจะนำมาสู่ความมั่งคั่งอย่างมั่นคงให้แก่ลูกค้า และครอบคลุมทุกมิติ ด้วยการให้คำแนะนำอย่างผู้เชี่ยวชาญแบบองค์รวม (Holistic Financial Advisory)

    “กลุ่มธุรกิจ Wealth เราจะเน้นให้คนไทยวางแผนทั้งก่อนและหลังเกษียณ โดยก่อนเกษียณเราแนะนำให้ลูกค้าลงทุนสร้างความมั่งคั่งผ่านกองทุน หรือหุ้นในกลุ่มธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลกเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ในด้านการปกป้องความมั่งคั่ง ทิสโก้ได้ผลักดันให้ลูกค้าและคนไทยเห็นถึงความสำคัญของประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง ซึ่งมีส่วนช่วยอย่างมากในการปิดความเสี่ยงค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ รวมไปถึงส่งเสริมให้ลูกค้าและคนไทยเข้าใจถึงข้อดีของประกันบำนาญ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์การเงินหลักที่จะช่วยสร้างกระแสเงินสดในช่วงชีวิตหลังเกษียณได้

นอกจากนี้ เพื่อให้แผนเกษียณมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกด้านของชีวิต ทิสโก้ได้จัดกิจกรรม Non-Financial เพิ่มเติมจากกิจกรรมด้านการเงินอีกด้วย เช่น งานสัมมนาด้านสุขภาพที่เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และกูรูด้านสุขภาพมาให้ความรู้ทั้งการป้องกันโรค และการรักษาโรค รวมถึงจัดงานสัมมนาเตรียมพร้อมด้านที่อยู่อาศัยในวัยเกษียณ โดยจับมือกับพันธมิตรด้านการตลาดที่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าพาลูกค้าทิสโก้เวลธ์เยี่ยมชมโครงการ และมอบสิทธิประโยชน์สุด Exclusive ให้ลูกค้า ในส่วนการวางแผนการเงินสำหรับลูกค้าวัยเกษียณ ทิสโก้จะช่วยลูกค้าวางแผนการส่งต่อมรดกอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านประกันชีวิตซึ่งจะช่วยบริหารจัดการภาษีมรดกได้เป็นอย่างดี ”

    ด้านกลุ่มธุรกิจรายย่อย จะเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการเงินเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้คนไทย (Financial Inclusion for Better Living) เนื่องจากปัจจุบันหนี้ภาคครัวเรือนของไทยพุ่งสูงขึ้น  Retail Banking จึงเน้นเรื่องการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ควบคู่กับการให้ความรู้ทางการเงินแก่สังคมไปพร้อมกัน ต่อมาคือ กลุ่มธุรกิจบรรษัท จะมุ่งให้บริการทางการเงินแก่ธุรกิจสีเขียวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Mobilization of Green Financing) เช่น การลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน (Renewable Energy) การสนับสนุนให้ลูกค้าปรับตัวไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Energy) หรือถึงขั้นการปลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon Emissions)

ยุทธศาสตร์เติบโตบนเส้นทางความยั่งยืน

    ทิศทางของภาวะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันยังคงมีความผันผวนและสร้างความท้าทายใหม่ๆ ให้กับสถาบันทางการเงินเสมอ ซึ่งคุณศักดิ์ชัยมองว่าด้วยความเชี่ยวชาญของทิสโก้ รวมไปถึงความร่วมมือของพนักงานจะสามารถสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง    

    อย่างไรก็ตาม การปรับตัวได้ไวก็จะยิ่งสร้างความได้เปรียบให้ธุรกิจ จากสถานการณ์ปัจจุบัน ทิสโก้จึงจัดทัพธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มหลัก โดยแบ่งออกเป็นกลุ่ม Flagship, กลุ่ม Sky และกลุ่ม Ocean เพื่อจัดลำดับธุรกิจและทำให้การบริหารงานมองเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น

    สำหรับกลุ่ม Flagship คือ ธุรกิจเรือธงที่สร้างการเติบโตให้กับองค์กร ประกอบไปด้วย กลุ่มสินเชื่อรายย่อยจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ “สมหวัง เงินสั่งได้” ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าขยายสาขาเพิ่มอีก 200 สาขา เป็น 850 สาขาทั่วประเทศ พร้อมขยายฐานลูกค้ากลุ่ม Wealth ที่เป็น Mass Affluent มูลค่าสินทรัพย์ 1 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งกลุ่มนี้จะเกี่ยวข้องไปถึงการเติบโตของธุรกิจกองทุน ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต เพราะทุกธุรกิจเป็นเรื่องของการวางแผนชีวิต และการเงิน ตั้งแต่ต้นจนถึงเกษียณ รวมไปถึงการจัดการเรื่องมรดกตกทอด

    ในกลุ่ม Sky คือ ธุรกิจใหม่ที่เราต้องออกแบบเพิ่มเติม โดยนำ Client Solutions ความต้องการของลูกค้ามาเป็นตัวตั้ง แล้วนำ Financial Product ของทั้งกลุ่มทิสโก้เข้ามาตอบโจทย์ ในกลุ่มสุดท้ายคือ Ocean จะมุ่งเน้นที่กลุ่มธุรกิจที่ยังเป็น Blue Ocean เช่นกลุ่ม Energy โดยเฉพาะพลังงานทางเลือกที่รัฐบาลกำลังให้การสนับสนุน ทิสโก้จะเข้าไปอยู่ในส่วนของ Project Finance ที่คอยให้การสนับสนุนกลุ่มธุรกิจเหล่านี้ และ Red Ocean เช่นธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ที่มีการแข่งขันรุนแรงและการเปลี่ยนผ่านของเครื่องยนต์สันดาปเป็นรถไฟฟ้าที่เรายังต้องรักษาความต่อเนื่องในการให้บริการกับคู่ค้าที่สำคัญและแนวโน้มใหม่ที่เป็น Mega Trend

    ขณะที่การปรับตัวภายในองค์กรเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตคุณศักดิ์ชัยมองว่า ควรมีหลักคิดการทำงาน 3 ด้าน ที่มองภาพเป็นวงกลม 3 วงที่ตัดกัน ได้แก่ Passion–Professional–Planet โดย Passion คือความรักในงานที่ทำ เป็นเรื่องของคนทำงาน Professional คือ การให้บริการอย่างมืออาชีพ ทิสโก้มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะนำเอา Solution ต่างๆ ที่มีอยู่ไปตอบโจทย์ให้กับลูกค้า และPlanet คือ การตอบโจทย์ในสิ่งที่โลกต้องการ

    “ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานก็ดี หรือองค์กรเองก็ดี หากหลักการทำงานของสามวงนี้สอดคล้องกันเมื่อใด ก็จะทำให้เป็นองค์กรที่ยั่งยืนและตอบโจทย์ทุกความท้าทายได้ และมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งทิสโก้เองก็ใช้หลักดังกล่าวเช่นกัน หากขาด P ใด เช่นบางครั้งเรามี Passion และมีความสามารถแต่สังคมหรือตลาดยังไม่พร้อม ก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้” 

    และสิ่งสำคัญสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือ ความมั่นคงและพื้นฐานการทำงานที่แข็งแกร่ง เพื่อให้องค์กรฝ่าคลื่นลมไปได้อย่างตลอดรอดฝั่ง โดยหัวใจสำคัญที่ทิสโก้ใช้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงเสมอมา คือ การรักษามาตรฐานสูงสุดในการดำเนินธุรกิจ ถัดมาคือ มุมมองการบริหารความเสี่ยง Risk and Return ที่เฉียบคม ซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ และที่สำคัญที่สุดคือ การทำงานขององค์กรที่มองภาพรวมให้ครอบคลุม 360 องศา Top Line ถึง Bottom Line

    “ผมเชื่อว่า Governance Standard หรือบริษัทที่มีธรรมาภิบาลที่ดี เป็นจุดสำคัญที่สุดที่จะทำให้องค์กรก้าวต่อไปอย่างยั่งยืนและมั่นคง มาตรฐานการทำงานที่ดีที่สุดของเราไม่ใช่แค่เฉพาะในบริษัทแม่ หรือธุรกิจธนาคาร แต่เป็นหลักยึดของทั้งกลุ่มธุรกิจ เช่น กระบวนการรับลูกค้า เรามีการตรวจสอบอย่างรอบคอบและมีมาตรฐานสูงสุด เช่นเดียวกับเรื่อง Cyber Security ที่ใช้มาตรฐานเดียวกันในทุกกลุ่มธุรกิจ ส่วนในเรื่อง Risk and Return จะต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อประโยชน์สูงสุดร่วมกันทั้งลูกค้า คู่ค้า และกลุ่มธุรกิจเอง”  

55 ปี เดินหน้าส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีแก่สังคม

    ในโอกาสครบรอบ 55 ปีของกลุ่มทิสโก้ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืน ไม่เพียงการให้คำปรึกษาทางการเงินในเชิงธุรกิจ แต่ยังเดินหน้าส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีแก่คนในสังคมไปพร้อมกัน ซึ่งจากการที่ประเทศไทยได้ก้าวสู่สังคมสูงอายุโดยสมบูรณ์ และคนไทยมีโอกาสที่จะอายุยืนยาวขึ้นแต่ก็ใช่ว่าตลอดช่วงที่มีชีวิตอยู่นั้นจะมีสุขภาพที่ดี

    เพราะจากข้อมูลของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระบุว่าเพศชายจะมีค่าเฉลี่ยของสุขภาพดีอยู่ที่ประมาณ 68 ปี ขณะที่เพศหญิงจะมีช่วงชีวิตที่สุขภาพดีที่ 74 ปี โดยสาเหตุการเจ็บป่วยของคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป คือ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non– Communicable Diseases: NCDs) ดังนั้น ทิสโก้จึงเตรียมเปิดตัวหนังสือด้านสุขภาพอย่าง “NCDs โรคร้ายที่คนไทย (อาจ) หนีไม่พ้น” รวบรวมบทสัมภาษณ์แพทย์ผู้ชำนาญการจากโรงพยาบาลชั้นนำของไทย ทั้งสาเหตุที่มาของโรค การป้องกันโรค และนวัตกรรมการรักษาโรค NCDs เพื่อมอบให้กับลูกค้าและผู้ที่สนใจ สำหรับเป็นข้อมูลเบื้องต้นในการดูแลสุขภาพทั้งก่อนเจ็บป่วยและหลังเจ็บป่วย

    ขณะที่ช่วงกลางปีจะจัดคอนเสิร์ตเพื่อการกุศล ระดมทุนให้ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล เพื่อหวังจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยดูแลสุขภาพผู้สูงวัย ทั้งในเชิงป้องกันก่อนเกิดโรค และการรักษาดูแลผู้ป่วยสูงวัยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

    สำหรับด้านการเงิน จะเปิดตัวบริการออกแบบแผนการเงินเพื่อการเกษียณที่ครอบคลุมทุกมิติของชีวิต รองรับการใช้ชีวิตหลังเกษียณที่ยืนยาวมากกว่าในอดีต โดยจะผสานความเชี่ยวชาญของเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับ IC License (Investment Consultant License) ครบทุกราย มาผนวกกับความแม่นยำของระบบ แบบ “Hybrid Advisory”

    “บริการที่เรากำลังเปิดตัวนี้ เป็นการผสมผสานระหว่างการให้ “คำแนะนำที่ดี” ควบคู่กับการมี “ผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม” ให้แก่ลูกค้า และนำ “เทคโนโลยี” เข้ามาช่วยยกระดับบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจยิ่งขึ้นในปี 2567 จะยกระดับให้เจ้าหน้าที่ธนกิจส่วนบุคคลได้รับคุณวุฒิที่ปรึกษาการเงิน (AFPT™) ครบทุกสาขาอีกด้วย”

    นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเพื่อสังคมด้านอื่นๆ เช่น กิจกรรมปลูกป่า กิจกรรมส่งเสริมศิลปะสร้างสรรค์ โครงการสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งจิตอาสา ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะเกิดขึ้นต่อเนื่องตลอดปี 2567 อันเป็นความตั้งใจดีที่กลุ่มทิสโก้ต้องการมอบสิ่งที่ดีกลับคืนสู่สังคมต่อไป

file