ผู้อยู่เบื้องหลังแพลนต์เบสคอมมิวนิตีแห่งแรกในไทย เปรมมิกา ศรีชวาลา

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 72 | คอลัมน์ All Around Me

เมื่อแพสชันในอาหารแพลนต์เบส (Plant-based Food) มาบรรจบเข้ากับการทำธุรกิจในช่วงเวลาอันเหมาะสม คุณแพม-เปรมมิกา ศรีชวาลา ได้ถ่ายทอดความรักและแรงบันดาลใจจากอาหารแห่งความผูกพันของสมาชิกในครอบครัว สู่การสร้างสรรค์แพลนต์เบสคอมมิวนิตีแห่งแรกของไทย ภายใต้ชื่อ EMK6 ที่พร้อมมอบหลากหลายโมเมนต์แห่งความสุข ผ่านประสบการณ์การดูแลสุขภาพแสนรื่นรมย์ในธีม Every Kind Moment

ระยะเวลาเกือบสองปีแล้วที่แพลนต์เบสคอมมิวนิตี EMK6 ได้เข้าไปอยู่ในใจคนรักสุขภาพจำนวนไม่น้อย ด้วยเหตุผลความครบครันของสินค้าแพลนต์เบส และบริการที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายในที่เดียว โดยมีคุณแพมเป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในฐานะผู้ก่อตั้งโครงการแห่งนี้

ไลฟ์สไตล์แพลนต์เบสที่เริ่มต้นจากครอบครัว

คุณแพมเล่าย้อนถึงที่มาของการเริ่มต้นทำความรู้จักกับอาหารแพลนต์เบสในวัยเด็ก เรื่อยไปจนถึงประสบการณ์เปลี่ยนชีวิตที่ส่งให้เธอได้ริเริ่มสร้างแบรนด์ไอศกรีมเป็นของตัวเอง โดยมีลูกชายสองคนเป็นแรงผลักดันสำคัญ

“การเลือกทานอาหารแพลนต์เบสของแพมมีจุดเริ่มต้นมาจากการเติบโตในครอบครัวมังสวิรัติ สมาชิกในบ้านไม่ทานเนื้อสัตว์กันอยู่แล้ว พอโตขึ้นและมีโอกาสได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็ค้นพบว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่งดเว้นเนื้อสัตว์ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป จึงทำให้เป็นการเปิดโลกของแพลนต์เบสและวีแกนที่กว้างขึ้นกว่าเดิม”

แต่จุดเปลี่ยนสำคัญของคุณแพมคือการที่ลูกชายทั้งสองคนมีภาวะแพ้นม “คนโตแพ้แบบแอบแฝง ส่วนคนเล็กแพ้ค่อนข้างรุนแรง ในฐานะคนเป็นแม่ก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกได้ทานสิ่งที่ชอบ และหนึ่งในของโปรดของพวกเขาคือไอศกรีม ซึ่งหากย้อนกลับไปช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไอศกรีมที่ไม่มีส่วนผสมของนมยังไม่มีขายแพร่หลายเหมือนทุกวันนี้ เราเลยเลือกที่จะลองทำเองตามสูตรจากอินเทอร์เน็ต ผลปรากฏว่าลูก ๆ ชอบกันมาก และถามว่าทำไมคุณแม่ถึงไม่ทำขาย เป็นการจุดประกายจากลูกเลยค่ะ และได้นำมาสู่การเริ่มต้นทำแบรนด์ไอศกรีมชื่อว่า Beyond Pops ซึ่งนอกจากไม่มีส่วนผสมของนมแล้ว ยังปราศจากกลูเตน น้ำตาล สารกันบูด และเลือกใช้วัตถุดิบออร์แกนิกที่มีคุณภาพมาผลิตเป็นไอศกรีม”

จากแบรนด์ไอศกรีมโฮมเมด สู่แพลนต์เบสคอมมิวนิตีแห่งแรกในไทย

การเดินทางสู่บทบาทใหม่ในฐานะผู้ก่อตั้ง EMK6 ได้เริ่มต้นขึ้นหลังการปั้นแบรนด์ไอศกรีมโฮมเมดจนติดตลาด ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับการค้นพบพื้นที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้างแพลนต์เบสคอมมิวนิตีที่คุณแพมฝันไว้

“หลังจากเริ่มทำแบรนด์ไอศกรีมตั้งแต่ช่วง COVID-19 ผลตอบรับดีขึ้นเรื่อย ๆ จนเวลาผ่านมาประมาณ 2 ปี สามีที่ทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้มีโอกาสพัฒนาที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของ EMK6 ในปัจจุบัน โดยความตั้งใจแรกจะสร้างเป็น Service Apartment แต่ด้วยความตั้งใจของเจ้าของที่ดินที่ไม่ต้องการสร้างตึกสูง เราเลยลองเสนอว่าจะทำคอมมิวนิตีมอลล์เล็ก ๆ สุดท้ายก็ได้นำเอาแพสชันที่เกี่ยวกับอาหารแพลนต์เบสมาเป็นคอนเซปต์หลัก จนเกิดเป็นแพลนต์เบสคอมมิวนิตีที่เปิดให้บริการมาได้ประมาณ 2 ปีแล้ว”

คุณแพมเล่าว่า ชื่อ ‘EMK6’ นอกจากตั้งตามซอยเอกมัย 6 ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการแล้ว ยังมีความหมายที่แฝงไว้ในทุกตัวอักษร คือ E: Every K: Kind และ M: Moment ซึ่งทุกครั้งที่ลูกค้าได้มาใช้เวลากับที่นี่ จะได้เก็บเกี่ยวโมเมนต์ดี ๆ พร้อมกับได้มอบ Kindness หรือความเมตตาต่อตัวเอง คนรอบข้าง สิ่งแวดล้อม รวมไปถึงสัตว์เลี้ยง

“ด้วยคอมมิวนิตีของเราเปิดในรูปแบบ Pet-Friendly ทำให้คนรักสัตว์และน้องหมา น้องแมว ได้มีอีกหนึ่งสถานที่ในการดูแลสุขภาพและพักผ่อนหย่อนใจร่วมกัน ภายใต้บรรยากาศของธรรมชาติ ซึ่งเราเก็บรักษาต้นไม้ใหญ่ไว้ครบทุกต้น นอกจากความร่มรื่น พื้นที่ของโครงการยังมีทิศทางการถ่ายเทลมและพลังงานที่ดีตามหลักฮวงจุ้ย”

พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารเพื่อคนรักสุขภาพ

ไม่เพียงทำหน้าที่บริหารคอมมิวนิตีมอลล์ คุณแพมยังสวมอีกหนึ่งบทบาท นั่นคือเจ้าของธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่ Kyndness Kulture ที่หากใครได้มาสัมผัสกับรสชาติของอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแล้ว จะไม่พลาดในการกลับมาเยือนที่นี่อีกครั้ง

“Kyndness Kulture เป็นทั้งคาเฟ่และร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูฟิวชั่นแพลนต์เบส ภายใต้คอนเซปต์ Wholesome Plant-based Food โดยทุกเมนูถูกออกแบบอย่างพิถีพิถัน อาหารมีให้เลือกหลากหลายสัญชาติ เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสวัฒนธรรมการกินที่หลากหลาย นอกเหนือจากรสชาติที่อร่อย เราเน้นให้แต่ละจานประกอบไปด้วยพรีไบโอติกส์และโพรไบโอติกส์ จุลินทรีย์ธรรมชาติที่ช่วยสร้างสมดุลให้กับลำไส้และระบบย่อยอาหาร ทุกครั้งที่ได้มาทานอาหารที่ร้าน ลูกค้าทุกคนจะได้ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก”

แหล่งชอปผลิตภัณฑ์แพลนต์เบส

อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของ EMK6 คือร้านชำ Plenti Grocer ที่จะเรียกว่าเป็นสวรรค์ของสายแพลนต์เบสเลยก็ว่าได้ เพราะรวบรวมสินค้าไว้อย่างครบครัน ตั้งแต่วัตถุดิบในการทำอาหาร อาหารพร้อมรับประทาน ขนม เครื่องดื่ม รวมถึงสกินแคร์ ของใช้ และสินค้าไลฟ์สไตล์อีกมากมาย

“นอกจาก Kyndness Kulture แพมยังมีอีกหนึ่งธุรกิจคือ Plenti Grocer เป็นร้านชำแพลนต์เบสที่ได้ชักชวน Small Vender ที่ผลิตสินค้าหลากหลายชนิดให้มาวางจำหน่ายร่วมกัน เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้ออย่างสะดวกสบายในที่เดียว โดยทุกผลิตภัณฑ์คัดเลือกมาด้วยตัวเองทั้งหมด ในส่วนของอาหารจะไม่มีส่วนผสมของน้ำมันปาล์ม ผงชูรส และสารกันบูด ทุกคนมั่นใจได้ว่าจะได้สิ่งที่ดีต่อสุขภาพกลับบ้านไปอย่างแน่นอน”

รวบรวมพันธมิตรธุรกิจที่มีแพสชันเดียวกัน

นอกจากร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านชำ สถานที่แห่งนี้ยังถูกเติมเต็มด้วยหลากหลายสินค้าและบริการ ซึ่งผู้ประกอบการทุกคนที่นี่ล้วนมีความเชื่อและรักในสิ่งเดียวกัน

“สำหรับเจ้าของธุรกิจอื่น ๆ ที่เข้ามาเช่าพื้นที่ของโครงการ ทุกคนแฮปปี้กับคอนเซปต์ที่เราตั้งใจทำ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการคัดสรรสินค้าและการให้บริการของแต่ละท่าน มีทั้งร้านทำผมออร์แกนิก ร้านทำเล็บวีแกน ร้านอาบน้ำตัดขนสุนัข-แมวที่ใช้ผลิตภัณฑ์วีแกน รวมไปถึงฟิตเนสและเวลเนสเซนเตอร์ที่ให้ลูกค้าได้มาดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ ทั้งหมดรวมกันเป็นคอมมิวนิตีที่เปิดให้ผู้คนมา Connect กันด้วยเรื่องราวของสุขภาพ เป็น One Stop Service ที่สามารถมาได้บ่อย ๆ เราพร้อมต้อนรับคนทุกเพศ ทุกวัย

“ในช่วงแรกของการตั้งกลุ่มเป้าหมาย เราวางไว้ที่ช่วงอายุระหว่าง 30-40 ปีขึ้นไป แต่เมื่อเปิดให้บริการจริง มีลูกค้าหลากหลายกลุ่มอายุเข้ามาใช้บริการ ส่วนใหญ่จะบอกต่อกันปากต่อปาก และไม่ได้จำกัดอยู่แค่กลุ่มลูกค้าแพลนต์เบสเท่านั้น เพราะหลายคนติดใจรสชาติอาหารของเราจนกลับมาเป็นลูกค้าประจำ และค่อย ๆ เปิดใจกับอาหารแพลนต์เบสมากขึ้น”

แนวทางเพื่อสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจ

แม้คอมมิวนิตีมอลล์แห่งนี้จะเปิดดำเนินการมาได้เพียง 2 ปี แต่เจ้าของโครงการอย่างคุณแพมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กร ซึ่งเธอเชื่อว่าความชัดเจนในตัวตนคือหนึ่งในแกนหลักสำคัญ

“หากต้องการจะสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ แพมมองว่าเราต้องยืนหยัดในสิ่งที่เราเป็น หลายคนอาจเลือกจะเปลี่ยนแปลงการขายสินค้าหรือการให้บริการไปตามเทรนด์ในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่นั่นไม่ใช่แนวทางของเรา แน่นอนว่าทุกธุรกิจย่อมมีขึ้นมีลง หากความหวั่นไหวเกิดขึ้น การสูญเสียตัวตนมีสิทธิ์จะเกิดขึ้นได้ แต่เรายังเลือกที่จะคงเส้นทางเดิม เพราะแพลนต์เบสคือส่วนหนึ่งในชีวิตของแพมมาตลอดหลายปี”

ดูแลคนทำงานด้วยความเข้าใจ

นอกเหนือจากความทุ่มเทในการดูแลภาพรวมธุรกิจอย่างเต็มที่ คุณแพมยังใส่ใจรายละเอียดในงานด้านทรัพยากรบุคคล เพื่อให้แน่ใจว่าพนักงานทุกคนจะทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข และได้ฝึกฝนทักษะต่าง ๆ จนเกิดความเชี่ยวชาญ

“ด้วยความที่เป็นองค์กรขนาดเล็ก เราอยู่ร่วมกันเหมือนครอบครัว น้อง ๆ สามารถสื่อสารกับแพมได้โดยตรง เวลาเกิดปัญหาก็แก้ไขไปด้วยกัน อยากให้ทุกคนได้ฝึกฝนการทำงาน เรียนรู้ และสั่งสมประสบการณ์อย่างเต็มที่ ที่สำคัญ แพมจะไม่ปิดโอกาสคนทำงาน ถ้าใครมีศักยภาพที่จะออกไปเติบโตข้างนอก มีเส้นทางใหม่ ๆ เข้ามาให้เลือก เราพร้อมจะยินดีกับความสำเร็จขั้นต่อไปของพวกเขา นี่คือความสุขในการบริหารคนในแบบฉบับของแพม”

เป้าหมายต่อไปคือ แพลนต์เบสคอมมิวนิตีแห่งใหม่

จากความสำเร็จก้าวแรกของ EMK6 ผู้บริหารวิสัยทัศน์ไกลได้มองไปถึงแผนการขยายธุรกิจในอนาคต โดยตั้งเป้าหมายว่าจะเปิดให้บริการแพลนต์เบสคอมมิวนิตีแห่งที่ 2 ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

“เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา แพมได้เรียนรู้และเติบโตขึ้น ทั้งในแง่ของผู้ก่อตั้งคอมมิวนิตี และผู้ประกอบการร้านอาหาร สำหรับแผนธุรกิจที่มองไว้ในระยะ 3-4 ปีต่อจากนี้ คือการขยายแพลนต์เบสคอมมิวนิตีแห่งที่ 2 โดยเรากำลังมองหาสถานที่ รวมถึงศึกษาความเป็นไปได้อย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างราบรื่น ซึ่งพื้นฐานสำคัญคงหนีไม่พ้นการสร้างความแข็งแรงให้กับองค์กรที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อเป็นฐานในการต่อยอดความสำเร็จในอนาคต”

สิ่งสำคัญที่เป็นแรงผลักดันให้คุณแพมอยากไปต่อในธุรกิจนี้ คือผลตอบรับจากลูกค้าที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง “อีกทั้งยังเป็นการช่วยยืนยันว่า สิ่งที่เรากำลัง On The Right Track ซึ่งแพมก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า EMK6 สาขาต่อไปจะสามารถเข้าไปอยู่ในใจคนรักแพลนต์เบสได้อีกครั้ง”

การเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดแพลนต์เบส

คุณแพมยังได้เผยถึงสถานการณ์การแข่งขันในตลาดแพลนต์เบสที่เข้มข้นขึ้นปีต่อปี แต่ภายใต้การต่อสู้กับคู่แข่ง เธอเปรียบทุกองค์กรเหมือนพันธมิตรที่ช่วยกันยกระดับมาตรฐานธุรกิจแขนงนี้ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อมอบสิ่งที่ดีกว่าให้กับผู้บริโภค โดยได้เล่าว่า คู่แข่งธุรกิจของเธอไม่ใช่ร้านอาหารแพลนต์เบส แต่เป็นร้านอาหารทั่วไปที่กำลังเริ่มแพลนต์เบสให้เข้าไปอยู่ในเมนูอาหาร เพราะความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค

“ความรู้สึกของเราคือดีใจ เพราะอาหารที่เรารักได้ขยายความนิยมไปอย่างกว้างขวาง แพมมองว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ดี นอกจากหลายคนจะเปิดใจลองทานแล้ว เชื่อว่ายุคนี้มีข้อมูลให้คนได้ศึกษาเพิ่มเติมมากมายในโลกออนไลน์ เมื่อเข้าใจและเข้าถึงมากขึ้นมันจะเป็นแรงกระเพื่อมให้ภาคธุรกิจตื่นตัวในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้นไป สุดท้ายกำไรและผลประโยชน์จะตกอยู่กับผู้บริโภค”

แพลนต์เบส อาหารแห่งอนาคต ?

เราปิดท้ายบทสนทนากับคุณแพมด้วยคำถามที่ว่า แพลนต์เบสกำลังจะกลายเป็นอาหารแห่งอนาคตหรือไม่

“แพมขอตอบว่าแพลนต์เบส คือ อาหารของวันนี้มากกว่า ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันมีคนให้ความสนใจอาหารประเภทนี้มากขึ้นตามลำดับ ด้วยเทรนด์การดูแลสุขภาพที่กำลังมาแรง สุดท้ายแล้ว มันคือการที่เราย้อนกลับไปหาสิ่งที่เบสิกที่สุด ท่ามกลางการบริโภคอาหารที่สารอันตรายพร้อมจะเข้าสู่ร่างกายเราได้ตลอดเวลา ทุกคนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับทุกอย่างที่อยู่บนจานอาหาร จะเป็นแพลนต์เบสหรือไม่ นั่นไม่สำคัญไปกว่าขั้นตอนการทำและการปรุงรส เพราะสิ่งนี้เป็นจุดแบ่งที่สำคัญว่าอาหารที่เลือกมาอย่างดีแล้วว่าจะเป็นประโยชน์หรือโทษกับร่างกาย”

ส่วนตัวคุณแพมรู้สึกดีใจที่อาหารแพลนต์เบสได้กลายเป็นทางเลือกหลักของหลายคน “แต่แพมอยากบอกว่า เหนือไปกว่านั้นคือ การเลือกอาหารที่มีความเหมาะสม ง่ายที่สุดคือการหมั่นเช็กสุขภาพเป็นประจำ เพื่อได้ทราบว่า ร่างกายกำลังขาดหรือได้รับบางอย่างมากเกินไป เพื่อที่สุดท้ายเราจะสามารถเลือกอาหารที่ดีและเหมาะสมกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นวันนี้หรือในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้า”