
‘เติ้น’ ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ นักแข่งฟอร์มูล่าไทยคนแรก คว้าแชมป์สนาม Formula 3
นิตยสาร Trust ฉบับที่ 74 | คอลัมน์ All Around Me
ทันทีที่รายการแข่งขัน ‘Formula 3 Championship British Round 2025’ ณ สนามซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต ประเทศอังกฤษ จบลงเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ชื่อของ เติ้น-ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ นักแข่งฟอร์มูล่าไทยคนแรกครองแชมป์ในศึก F3 รอบ Sprint Race ก็ถูกจารึกบนหน้าประวัติศาสตร์มอเตอร์สปอร์ตไทยในระดับโลก สร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั่วประเทศ แล้วดูเหมือนว่า...ฟอร์มของ ‘หนุ่มเติ้น’ ที่แม้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้นเส้นทางอาชีพนี้ ในวัย 19 ปี แต่กำลังเป็นที่จับตามองในวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับนานาชาติ ซึ่งว่ากันว่าหากเจ้าตัวยังคงฟอร์มดีต่อเนื่อง คนไทยมีลุ้นให้นักแข่งดาวรุ่งพุ่งแรงคนนี้ไต่ระดับขึ้น Formula 2 ในอนาคตอันใกล้ได้อย่างแน่นอน
“ภูมิใจมาก ๆ ครับ ที่มีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตของประเทศไทย และเป็นโอกาสที่ดีในชีวิตกับการได้ลงแข่งในรายการระดับโลกอย่าง Formula 3 แล้วต่อจากนี้ไปก็จะขอใช้โอกาสซึ่งได้มาพร้อมการซัปพอร์ตจากทุกคน พาให้ตัวเองย้ายขึ้นมาใน F2 และไปต่อในสเตปของ F1 ในอนาคตด้วยเวลาที่ไม่นาน ส่วนวันนี้…เติ้นมั่นใจว่า พร้อมแล้วที่จะไป F2 ก็จะมุ่งมั่นพยายามให้ได้ หากไม่มีอะไรผิดพลาด ปีหน้าก็น่าจะได้ลงแข่งในสนาม Formula 2 ครับ”
นิตยสาร TRUST มีโอกาสได้คุยกับ ‘หนุ่มเติ้น’ ในช่วงที่กลับมาพักผ่อนหลังการแข่งขัน Formula 3 Championshipและเป็นช่วงปิดภาคเรียนของมหาวิทยาลัย (University of London) โดยแชมป์โลกของเราเลือกกลับบ้านที่เมืองไทยเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ก่อนจะกลับไปฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวลงแข่งขันในรายการต่อไป พร้อมจัดสรรเวลาของตารางการเรียนให้ลงตัวด้วยเช่นกัน
เปิดประวัติ ‘เติ้น-ทัศนพล’
‘หนุ่มเติ้น’ เป็นลูกชายคนโตของคุณณุลักษณาและคุณวุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ นักธุรกิจในวงการรถยนต์ทายาทของคุณอนุศักดิ์ อินทรภูวศักดิ์ เจ้าของบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่และรถยนต์เบนท์ลีย์ในประเทศไทย โดยคุณพ่อของเขายังมีดีกรีอดีตนักแข่งรถแชมป์ GT ทั้งระดับประเทศและระดับเอเชีย จึงเรียกได้ว่าเป็นหนุ่มน้อยที่มีดีเอ็นเอของนักแข่งรถ ด้วยคลุกคลีและเติบโตอยู่ในแวดวงนี้มาโดยตลอด
เติ้นเริ่มก้าวสู่วงการรถแข่งตอนสัก 8 ขวบ ด้วยการเข้าร่วมแข่งขันโกคาร์ตรุ่นเด็กที่เจ้าตัวเล่าว่า ส่วนใหญ่นักแข่ง F1 ก็จะเริ่มต้นจากโกคาร์ตแทบทั้งนั้น
“ตั้งแต่เด็ก ๆ เติ้นได้ไปสนามแข่งกับคุณพ่อ แล้วเริ่มลงแข่งขันจริงจังจากโกคาร์ต รายการแรกเลยคือที่สระบุรีแล้วก็ได้แชมป์ด้วย จากนั้นก็มาขับรถที่ใหญ่ขึ้น สำหรับโกคาร์ตถือเป็น Basic Fundamental ของเส้นทางนักแข่งรถแทบทุกประเภท ซึ่งแรก ๆ เราก็แค่อยากลงแข่งเอาสนุก แต่ก็ชอบมากขึ้นทุกวัน ได้ลงแข่งในรายการใหญ่ทั้งระดับประเทศ ระดับเอเชีย และไปถึงระดับโลก โดยลงแข่งตั้งแต่รุ่นเล็กจนไปถึงรุ่นจูเนียร์ พออายุประมาณ 13-14 ปี ก็ตัดสินใจว่าจะไปทางสายนี้ และเป็นช่วงที่ต้องย้ายไปเรียนที่อังกฤษ ตอนนั้นจริงจังกับการแข่งรถและเก็บเลเวลในการแข่งโกคาร์ตเต็มที่ เพื่อเข้าสู่เส้นทาง Formula 4 แต่แล้วมาเจอช่วง COVID-19 ซะก่อน ทุกรายการแข่งขันถูกงดจัดทั้งหมด งดแข่งไปประมาณหนึ่งปี ช่วงนั้นเราเลยได้แค่เตรียมพร้อมอย่างเดียวเลย เตรียมพร้อมร่างกาย หมั่นซ้อม รอเวลาลงแข่งขันเพื่อขึ้นไป F4 ให้ได้”
เมื่อผ่านวิกฤต COVID-19 หนุ่มเติ้นพร้อมเต็มกำลังในเส้นทางฟอร์มูล่าในฝัน ด้วยการลงแข่งขันใน Formula 4 และทำผลงานพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง ในปี 2024 ก็สามารถก้าวขึ้นสู่เวที FIA Formula 3 Championship 2024 ที่เขายังคงรักษาฟอร์มการแข่งขันได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศรอบ Sprint Race รายการ Hungarian Formula 3 Championship ที่ประเทศฮังการี วันนั้นกลายเป็นนักแข่งไทยคนแรกที่ขึ้นโพเดียมรายการระดับ Formula 3 กระทั่งปลายปีที่แล้ว เขาได้เซ็นสัญญาเข้าสู่ทีมคัมโปส เรซซิ่ง เพื่อกลับมาแข่งขันในระดับ F3 อีกครั้งในปี 2025
มุ่งมั่นตั้งใจทั้งเรื่องเรียนและนักแข่งรถในสนามระดับโลก
ปัจจุบันหนุ่มเติ้นสังกัดทีมคัมโปส เรซซิ่ง ทีมสัญชาติสเปนจากเมืองวาเลนเซีย ซึ่งอยู่ใจกลางยุโรป นั่นทำให้เขาสามารถบริหารจัดการเวลาเรียนและเวลาซ้อมแข่งรถได้อย่างลงตัว โดยช่วงไหนต้องลงรายการแข่งขันแล้วทำให้หยุดเรียนไประยะหนึ่ง หลังเสร็จสิ้นภารกิจก็จะกลับมาติววิชาเรียนต่าง ๆ อย่างหนักหน่วง เพื่อให้เรียนตามทันเพื่อน ๆ ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่แม้จะต้องเรียนยากกว่าสาขาวิชาอื่น ๆ แต่เขายินดีที่จะเลือกวิศวะ เพราะต้องการสื่อสารเรื่องหลักการต่าง ๆ และส่วนประกอบของรถยนต์กับวิศวกรในทีมแข่งรถได้เข้าใจและแม่นยำ โดยในภาคการศึกษานี้ เติ้นกำลังเรียนอยู่ในชั้นปีที่ 2
“เติ้นย้ายโรงเรียนตอน Year 9 ครับ ก็ประมาณอายุ 13-14 ปี ไปเข้าเรียนประจำที่ Brooke House College ในเมืองเลสเตอร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เด็กไทยส่วนใหญ่ที่มีความฝันอยากเป็นนักกีฬามืออาชีพ โดยเฉพาะฟุตบอลก็จะไปเรียนกันที่นี่ ข้อดีคือเมื่อเติ้นได้ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมและบรรยากาศการเล่นกีฬา อยู่กับเพื่อน ๆ ที่เป็นนักกีฬา มีแพสชันด้านกีฬา กลายเป็นส่งผลในการพัฒนาตัวเราให้มีวินัยกับไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ การย้ายไปเรียนที่อังกฤษ อยู่ในโซนยุโรป การเดินทางไปแข่งรถรายการต่าง ๆ ก็ง่ายกว่า อย่างตอนที่ยังเรียนเมืองไทย เวลาต้องไปแข่งโกคาร์ตที่อิตาลีใช้เวลาบิน 10 ชั่วโมง พอไปถึงก็ต้องปรับตัวกับเวลา การพักผ่อน ทำให้เราขาดความพร้อมไปหลายอย่าง เลยเป็นอีกเหตุผลที่ตัดสินใจย้ายโรงเรียนเพื่อให้ตัวเองเก็บประสบการณ์การแข่งรถได้เต็มที่กว่า”
สำหรับช่วงแรก ๆ ที่เปลี่ยนจากโกคาร์ตมา Formula 4 เติ้นเล่าว่าด้วยความแตกต่างของรถในระดับที่สูงกว่า ทำให้เขาต้องปรับสไตล์การขับทุกอย่างใหม่ทั้งหมด “ทั้งรูปแบบและความเร็วของรถ น้ำหนักรถที่เยอะขึ้น มีเรื่องของ Arrow Dynamic ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง คือต้องเรียนรู้และฝึกฝนใหม่ทั้งหมด แล้วการขับรถยนต์มีเรื่องของ Management ที่สำคัญกว่าความเร็ว นั่นคือนอกจากการมีรถที่ดี ก็ต้องมีทีมซัปพอร์ตที่ดีถึงจะคว้าความสำเร็จมาได้”
สร้างประวัติศาสตร์นักแข่งไทยคนแรกคว้าแชมป์ F3
เมื่อการแข่งขันในรายการ FIA Formula 3 Championship เดินทางมาถึงสนามที่ 7 ‘Formula 3 Championship British Round 2025’ ณ สนามซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต เมืองซิลเวอร์สโตน ประเทศอังกฤษ ชื่อนักแข่งไทย ‘ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์’ ได้รับการประกาศตำแหน่งแชมป์ F3 คนล่าสุด และขึ้นโพเดียมชูธงไทยพร้อมกับเสียงเชียร์ดังกระหึ่มในรายการนี้ สร้างประวัติศาสตร์ให้แก่วงการมอเตอร์สปอร์ตไทย
และหากติดตามข่าวการแข่งขันรายการดังกล่าว การคว้าแชมป์จากรอบ Sprint Race Results ไม่ได้ราบรื่นนัก เนื่องจากนักแข่งไม่สามารถเปลี่ยนยางแข่งได้ ทำให้ในช่วงแรกของการแข่งขัน เติ้นเลือกที่จะไม่เร่งเครื่องมากเกินไป เพื่อให้ประสิทธิภาพของยางยังใช้การได้ดีไปจนถึงช่วงท้ายของการแข่งขัน ซึ่งตลอดเวลาในระหว่างการแข่งขันมีให้ลุ้นทั้งแบบใจฟูและใจตกหล่นอย่างหวาดหวั่น เพราะอันดับของนักแข่งแต่ละคนปรับเปลี่ยนไปตามความได้เปรียบเสียเปรียบ แต่เมื่อถึงรอบสุดท้าย หนุ่มเติ้นของพวกเราโชว์ฟอร์มได้ดี คว้าชัยกลายเป็นนักแข่งดาวรุ่งของประเทศไทยที่สามารถครองแชมป์อันดับ 1 มาได้สำเร็จ ในจำนวน 18 รอบสนาม ชัยชนะครั้งนี้ทำให้เป็นครั้งแรกที่เพลงชาติไทยดังขึ้นในสนามซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต ประเทศอังกฤษ
“อุปสรรคของสนามล่าสุดเป็นอะไรที่ท้าทายมาก นอกจากความกดดันจากคู่แข่งระหว่างการแข่งแล้ว สนามของรอบนี้อยู่ที่อังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่ฝนตกบ่อย ตอนช่วงปลายของการแข่งขันได้มีฝนตกปรอย ๆ ที่ส่งผลให้ขับยากยิ่งขึ้น สนามลื่นขึ้น” ทว่าสิ่งที่ยากยิ่งกว่าของทุกสนามแข่งขันนั้น คือ ‘รถยนต์’ ที่นักแข่งต้องควบคุมและจัดการให้ได้ ไม่ว่าจะต้องเจอกับอุปสรรคใดก็ตาม
“อากาศในสนามเป็นยังไง ฝนตกหรือไม่ตก หรือความร้อนของสนามที่ผลกับยางรถยนต์ เติ้นต้องสามารถโฟกัสและใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการแก้ไข โดยเราพัฒนาทั้งหมดนี้มาตั้งแต่ตอนขับ F4 อีกทั้งระหว่างการแข่งอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น อย่างตอนแข่งในรายการหนึ่ง เติ้นขับนำอยู่แล้ว แต่เครื่องยนต์พัง เราก็ทำอะไรไม่ได้เลย ต้องจบรายการนั้น มันมีประสบการณ์มากมายที่เราต้องเจอเพื่อให้ฝึกฝน ฝึกแก้ไขปัญหา เรียนรู้ทุกอย่าง เพราะ Goal สุดท้ายของเติ้นคือ Formula 1 ก็ต้อง Push ตัวเองต่อไปให้ได้ พยายามต่อไป จาก F4 ขึ้นมา F3 ก็ทำได้แล้ว ด้วยการฝึกซ้อมพัฒนาตัวเองอย่างหนัก ต่อไปก็จาก F3 ไปสู่ F2 ก็หนักกว่าเข้าไปอีก แล้วไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะไปให้ถึง F1 เติ้นต้องพยายามฝึกฝนอีกมากแค่ไหน เพื่อพัฒนาตัวเองให้ผลงานดียิ่ง ๆ ขึ้นไป”
นอกจากการฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาระดับความสามารถของการขับขี่และการทำงานร่วมกันกับทีมแล้ว การมีวินัยในการออกกำลังกายเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายมีความสมบุกสมบันกับทุกรายการแข่งขันก็เป็นกรอบของการฝึกที่แชมป์ Formula 3 ปฏิบัติมาอย่างสม่ำเสมอ
“การออกกำลังกายสำคัญมาก ๆ อย่างตอนนี้เป็นช่วงเบรกที่เติ้นมีเวลาพัก 1 เดือน นอกจากพยายามใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด เนื่องจากอยู่อังกฤษแทบไม่ได้เจอคุณพ่อ คุณแม่ และน้องสาว มีบ้างบางรายการที่ท่านไปดูเติ้นแข่ง เลยไม่ค่อยได้เจอกัน กลับมาเมืองไทยก็พยายาม Spend Time กับทุกคน ระหว่างนี้ เติ้นยังต้องเทรนร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งในรายการต่อไป โดยเฉพาะสองสัปดาห์ก่อนการแข่งขันที่ต้องไปเก็บตัวกับทีม ฝึกความคุ้นเคยกับสนาม ทำให้ร่างกายพร้อมที่สุด”
เติ้นยังเล่าให้ฟังต่อด้วยว่า เขายังให้ความสำคัญทางด้านจิตใจด้วย จึงฝึก ‘การนั่งสมาธิ’
“หลายคนอาจมองเป็นเรื่องเล็ก แต่มันช่วยนักแข่งอย่างเติ้นได้มาก ๆ และเชื่อว่าดีกับนักกีฬาทุกคนด้วย ซึ่งเติ้นเรียนทำสมาธิกับอาจารย์ปลา (ผศ. ดร.วิมลมาศ ประชากุล นักจิตวิทยาการกีฬาที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักกีฬาไทยมากว่า 20 ปี) ได้มาช่วยเติ้นเรื่องนี้ เติ้นฝึกนั่งสมาธิทุกเช้าและก่อนนอน พยายามฝึกให้ได้ 15-20 นาทีในแต่ละครั้ง การกำหนดจิตจากการนั่งสมาธิ เป็นการฝึกให้จิตเรานิ่ง และโฟกัสไปยังเป้าหมายของการแข่งขัน เพราะในแต่ละการแข่งขันไม่มีทางรู้เลยว่า ต้องเจอกับเรื่องเฉพาะหน้าและความกดดันอะไรบ้าง”
มุ่งมั่นสู่ก้าวที่สำเร็จตามใจฝัน
“หากย้อนกลับไปตอนขับโกคาร์ต เติ้นก็คงไม่เชื่อตัวเองว่าจะสามารถคว้าแชมป์ F3 ได้ แต่เมื่อเข้ามาในแวดวงมอเตอร์สปอร์ตเพราะเป็นเด็กที่มีความฝันอยากเป็นนักแข่งรถ อยากลงสนามแข่งขันเพราะความสนุก โดยความฝันสู่เส้นทางนักแข่งฟอร์มูล่าเกิดขึ้นตอนที่เราได้ชัยชนะในสนามโกคาร์ต แล้วอยากท้าทายตัวเองในระดับ Formula สู่การฝันใหญ่อยากพาตัวเองไปให้ถึง F1 ถึงแม้เราจะเป็นคนไทย อยู่ประเทศไทย แต่นักแข่งหลาย ๆ คนของเราที่ไปแข่งในยุโรปก็แสดงให้เห็นแล้วว่า คนไทยไม่ได้เสียเปรียบใคร เพียงแต่เราต้องมุ่งมั่นอย่างจริงจัง ผลักดันตัวเองให้มีวินัย มีความพยายาม เติ้นเชื่อว่า…ทุกคนทำได้ครับ”
การไปสู่เป้าหมายของนักแข่งฟอร์มูล่า นอกจากความท้าทายในการไต่ระดับจาก F4 ไป F3 ขึ้น F2 และผงาดสู่ F1 ให้ได้แล้ว หนุ่มเติ้นยังบอกด้วยว่า การใช้เวลาอยู่ในแต่ละระดับให้น้อยที่สุด สร้างโอกาสให้ตัวเองไปสเตปต่อไปให้เร็วที่สุดนั้น สำหรับแวดวงนักแข่งฟอร์มูล่าถือว่าเป็นสร้างโปรไฟล์ที่ดีให้กับตัวเอง
“นักแข่งทุกคนจะพยายามอยู่ในระดับนั้น ๆ ให้น้อยที่สุด ยิ่งถ้าเป็นนักแข่งรุกกี้ (Rookie Racer) มือใหม่เข้ามาในระดับอาชีพเป็นครั้งแรก แล้วทำผลงานการแข่งขันได้ดีโดยตลอด ต้นสังกัดก็จะมองว่าเด็กคนนี้ Adapt และทำความรู้จักกับรถคันนี้ได้เร็ว ฟอร์มดีและพัฒนาได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับของเติ้นก็เช่นกัน ปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่กำลังทำผลงานให้ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อขึ้น F2 ในปีหน้าให้ได้”
แน่นอนว่าเมื่อผ่านไปสู่สนาม Formula 2 ได้ ก้าวต่อไปในเวที Formula 1 คือความฝันของหนุ่มเติ้นที่ต้องไปให้ถึงและทำให้สำเร็จ คว้าแชมป์โลกได้เฉกเช่นในสนาม Formula 3 ในตอนนี้
“การที่เติ้นสามารถคว้าแชมป์มา 2 สมัย ที่สนามซิลเวอร์สโตน เซอร์กิต ประเทศอังกฤษ และที่สนามฮังกาโรริง ประเทศฮังการี ในปีนี้ ถือเป็นแรงผลักดันให้ต้องพัฒนาตัวเองขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งในฐานะนักแข่ง เรายังมีสิ่งที่ต้องฝึกฝนและพัฒนาอีกเยอะ เพื่อให้ตัวเองไปสู่รายการ Formula 1 ให้ได้ แต่ในเวลาข้างหน้าที่ต้องโฟกัสจากนี้ คือการต้องพยายามอย่างหนักเพื่อทำผลงานแบบที่ผ่านมาให้ได้สม่ำเสมอ โชว์ให้เห็นศักยภาพของเราว่าสามารถทำได้และมีความพร้อมจะไปต่อใน F2 สำหรับ F1 เติ้นวาง Plan ให้ตัวเองว่า ไม่น่าจะเกิน 2-3 ปีจากนี้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แรงใจจากคนไทยที่ส่งกันมาให้ก็เป็นอีกพลังสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เติ้นมีความพยายามและตั้งใจฝึก พัฒนาผลงานให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ”
ล่าสุด ณ สนามแข่งรถแห่งชาติมอนซา ประเทศอิตาลี ซึ่งเป็นสนามปิดฉากฤดูกาลแข่งสุดยิ่งใหญ่ของรายการ FIA Formula 3 Championship 2025 หนุ่มเติ้นทำผลงานสุดยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชมป์ในรอบ Feature Race สนามที่ 10 ได้สำเร็จ นำธงไตรรงค์ขึ้นโบกสะบัดพร้อมเสียงเพลงชาติไทยกึกก้องในสนามระดับโลกอีกครั้ง โดยคะแนนรวมอยู่ที่ 74 แต้ม เป็นอันดับที่ 7 บนตารางคะแนนสะสมทั้งฤดูกาล ซึ่งหากผลงานยังดีขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้ เราเชื่อว่า…รายการแข่งขัน Formula 2 ในปีหน้ามีชื่อ ‘เติ้น’ ทัศนพล อินทรภูวศักดิ์ ลงสนามแข่งด้วยอย่างแน่นอน
คนไทยทุกคนขอเป็นกำลังใจให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นในทุกสนามแข่งขันของหนุ่มเติ้นและทีม สามารถคว้าธงชัยความสำเร็จดังที่ตัวเองวาดฝันและมุ่งมั่นตั้งใจไว้ มาครอบครองให้ได้




