
Exergaming มากกว่าความสนุก คือสุขภาพดี
นิตยสาร Trust ฉบับที่ 61 | คอลัมน์ Exclusive Sport

หากไม่อยากให้การออกกำลังกาย เป็นวงการที่เข้าแล้วออกเลย เพราะความเหนื่อยยากจนหมดกำลังใจ หรือความเบื่อหน่ายที่ต้องลุกขึ้นมาทำแบบเดิมซ้ำๆ ขอแนะนำ “เอ็กซ์เซอร์เกมมิ่ง” (Exergaming) ผู้ช่วยการออกกำลังกายสายบันเทิง ที่จะพาคุณขยับร่างกายเพื่อเผาผลาญไขมันภายในบ้านไปพร้อม ๆ กับการเล่นเกมอย่างสนุกสนาน จนลืมว่ากำลังดูแลสุขภาพอยู่
เกมออกกำลังกาย หรือเอ็กซ์เซอร์เกมมิ่ง คือการออกกำลังกายที่มีการปฏิสัมพันธ์กับหน้าจอแบบเรียลไทม์ (Real-time Interaction) ซึ่งอาศัยเทคโนโลยีที่ติดตามการเคลื่อนไหวของร่างกายหรือปฏิกิริยาตอบสนอง
โดยผู้เล่นจะต้องขยับร่างกายไปตามที่เกมได้ออกแบบท่าทางไว้ โดยจะมีเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว พร้อมกับแสดงการเก็บคะแนนในรูปแบบที่น่าตื่นเต้น สำหรับอุปกรณ์หลัก ๆ แค่เพียงมีสมาร์ตโฟน อินเทอร์เน็ต และเครื่องเล่นเกมเฉพาะบางเกมเท่านั้น ก็สามารถออกกำลังกายในรูปแบบนี้ได้อย่างง่ายดาย
Exergaming อีกทางเลือกหนึ่งของการออกกำลังกาย
การออกกำลังกายแบบเอ็กซ์เซอร์เกมมิ่ง ผู้เล่นจะได้ฝึกร่างกายจากกิจกรรมหลัก โดยเป็นการออกกำลังกายที่สามารถปรับระดับความเข้มข้นได้ตั้งแต่ระดับต่ำ ระดับกลาง ไปจนถึงระดับสูง ขณะเดียวกันก็จะได้ฝึกทักษะทางด้านสมอง ไม่ว่าจะเป็น การจัดการ การเพ่งความตั้งใจ ความจำ และการฝึกให้มีสมาธิไปพร้อมกัน อีกทั้งในขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับการเล่น การรับรู้ความเหนื่อยก็จะถูกเบี่ยงเบนความสนใจออกไป ส่งผลให้สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น และมีความสุขสนุกมากกว่าการออกกำลังกายรูปแบบเดิมนอกจากนี้ ผลจากการวิจัยเบื้องต้นยังพบว่า เอ็กซ์เซอร์เกมมิ่งนั้นเป็นการออกกำลังกายที่เป็นประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะกับผู้สูงอายุ เพราะนอกจากจะช่วยในด้านการเคลื่อนไหว ความคล่องแคล่ว และการสอดประสานของร่างกายแล้ว ยังช่วยละความสนใจจากความเจ็บปวดต่าง ๆ ที่ผู้สูงอายุกำลังเผชิญอยู่ได้ด้วย
Exercise + Gaming ฟิตจริงไม่ต้องพึ่งเทรนเนอร์
ปัจจุบัน การออกกำลังกายแบบเอ็กซ์เซอร์เกมมิ่ง มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ อาทิ
เกมผจญภัยโดยใช้อุปกรณ์ห่วง เช่น “Nintendo Switch Ring Fit Adventure” ที่เปลี่ยนการออกกำลังกายให้เป็นการเคลื่อนไหวในเกม โดยมีอุปกรณ์เฉพาะอย่าง Ring Fit Controller (Ring-Con) เป็นตัวบังคับ ซึ่งแบ่งเป็นสองชิ้นคือ ชิ้นที่เป็นวงกลมสำหรับไว้ใช้เล่น และชิ้นที่เป็นเซนเซอร์สำหรับไว้ติดขา ในส่วนของการเล่นเกมตามเนื้อเรื่องนั้น เราจะต้องวิ่งจนเซ็นเซอร์ที่ต้นขาทำงานและใช้ Ring-Con ในการเก็บของ พร้อมทำภารกิจระหว่างทางไปเรื่อย ๆ ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ต่างจากแนวคิดการออกกำลังกายสมัยใหม่แบบคาร์ดิโอ (Cardio Exercise) ที่เน้นการเสริมความแข็งแรงของหัวใจและปอด เพราะเราจะต้องทั้งวิ่ง ทำบอดี้เวท ยืดเส้นยืดสาย ก่อนกลับไปทำซ้ำใหม่สลับไปมา ซึ่งรับรองได้ว่า ทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่จะได้รับการพัฒนาเต็มที่อย่างแน่นอน

เกมออกกำลังกายผ่านโทรศัพท์มือถือ เช่น “Fitforce” เกมออกกำลังกายจากฝีมือผู้พัฒนาชาวไทย ที่สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งในสมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์ โดยจะมีสองอุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกันคือ หนึ่ง “ตัวเกม” ที่จะแสดงผลในจอคอมพิวเตอร์ และสอง การใช้งานจาก “เซนเซอร์” ของสมาร์ตโฟนที่เราถือไว้ เพื่อตรวจจับสัญญาณการขยับของร่างกาย สำหรับการเล่น Fitforce นั้นจะแบ่งออกเป็นเกมย่อย ๆ ที่ใช้การเคลื่อนไหวร่างกายแตกต่างกัน อาทิ การวิ่ง กระโดดตบ ปั่นจักรยานอากาศ สควอท โดยจะมีรายละเอียดแสดงให้เห็นถึงจำนวนแคลอรีที่เผาผลาญได้ และส่วนของกล้ามเนื้อที่ใช้ เป็นต้น
เกมจำลองการเล่นกีฬา “Fitness Boxing” หนึ่งในเกมจำลองการต่อยมวยที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ โดยเมื่อเริ่มเกมจะมีการคำนวณน้ำหนักและส่วนสูง เพื่อประเมินรูปแบบของการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับผู้เล่น และการไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่ง Fitness Boxing อยู่ในแพลตฟอร์มเครื่องเล่นเกม Nintendo Switch สำหรับวิธีการเล่นก็เพียงแค่คล้องจอยคอน (Joy-Con) ที่เป็นตัวควบคุมเข้ากับข้อมือทั้งสองข้าง กำไว้ให้แน่นเสมือนว่ากำลังจะต่อยมวย จากนั้นก็ปล่อยท่าฮุกซ้าย ต่อยขวา หมัดตรง หรือท่าอื่น ๆ ตามแต่ที่เกมกำหนดมาให้ ซึ่งยิ่งต่อยให้เข้ากับจังหวะเพลงก็จะยิ่งได้คะแนนดี และเตือนไว้นิดหนึ่งว่าใครที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแต่อยากลอง น่าจะมีปวดแขนกันบ้างไม่มากก็น้อย

เกมออกกำลังกายด้วยการเต้น เกมเต้นยอดนิยม ณ ตอนนี้ต้องยกให้ “Just Dance” กับภาคล่าสุด Just Dance 2022 ที่มาพร้อมกับ 40 เพลงฮิต ทั้งเพลงสากลและเพลงเค-ป๊อประดับโลกอย่าง Blackpink ส่วนท่าทางการเต้นนั้น ได้รับการถ่ายทอดโดยนักออกแบบท่าเต้น (Choreographer) ฝีมือดี ที่ร่วมมือกับผู้ออกแบบท่าเต้นต้นฉบับ ทั้งนี้ Just Dance มีหลายโหมดการเล่นให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น โหมด Sweat การเต้นแบบเน้นการออกกำลังกาย ที่ท้าทายแคลอรีด้วยเพลงชุดยาว ๆ โหมด Co-op ไว้เต้นจอยกับเพื่อนฝูง และโหมด Kids เพลงสำหรับเด็กกับการเต้นที่เบาแรงกว่านั่นเอง
Exercise + Gaming ฟิตจริงไม่ต้องพึ่งเทรนเนอร์
เมื่อปีที่ผ่านมา กลุ่มนักศึกษาวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งของอิหร่าน ได้ศึกษากลุ่มผู้สูงอายุจำนวนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในบ้านพักคนชรา โดยให้รับการฝึกโปรแกรมออกกำลังกายด้วย “VR” (Virtual Reality) การจำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริงสามมิติ ตามด้วย “Xbox Kinect” ระบบที่สามารถจำลองความสมดุลในการออกกำลังกาย จดจำการเคลื่อนไหวด้วยกล้องและเซนเซอร์ ซึ่งหลังจากทดลองครั้งละ 30 – 45 นาที เป็นจำนวน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ รวมระยะเวลา 6 สัปดาห์ ผลจากการศึกษาพบว่า การรักษาสมดุลของร่างกายและความเสี่ยงในการล้มมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เมื่อเทียบระหว่างก่อนกับหลังฝึก อีกทั้งค่าคะแนนการกลัวการหกล้มก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ไม่เพียงเท่านี้ จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Medical Internet Research ซึ่งศึกษาผลกระทบทางสังคมของเอ็กซ์เซอร์เกมมิ่งต่อผู้สูงอายุ พบว่า ผู้สูงอายุที่ออกกำลังกายแบบเอ็กซ์เซอร์เกมมิ่งมีแนวโน้มความสัมพันธ์ที่ดีต่อสังคม ทั้งยังช่วยลดความเหงา ลดระดับความวิตกกังวล และเพิ่มทัศนคติที่ดีต่อผู้อื่นได้ อย่างไรก็ตาม ผู้สูงวัยในแต่ละรายมีข้อจำกัดทางร่างกายที่แตกต่างกันไป ดังนั้น การใช้เอ็กซ์เซอร์เกมมิ่งในบริบทของการฟื้นฟูสมรรถภาพที่บ้าน ควรจะต้องได้รับคำแนะนำและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ นักกายภาพ หรือนักเวชศาสตร์การกีฬาอย่างเคร่งครัด
