ส่องบ้านพักวัยเกษียณทั่วโลก บั้นปลายชีวิตไม่เหงา อยู่ยาวมีความสุข
นิตยสาร Trust ฉบับที่ 62 | คอลัมน์ Global Trend
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “เทรนด์สังคมผู้สูงอายุ” ถูกพูดถึงอย่างมาก เนื่องด้วยอัตราเร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสังคมผู้สูงอายุ โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ว่า จำนวนประชากรโลกที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จะเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ทำให้ปัจจุบันจำนวนประชากรผู้สูงอายุคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 13 ของจำนวนประชากรทั่วโลกหรือประมาณ 1,000 ล้านคน โดยคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1,400 ล้านคนในปี 2030 และเพิ่มเป็น 2,000 และ 3,000 ล้านคนในปี 2050 และ 2100 ตามลำดับ
ขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็ได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์แล้วในปี 2022 และในปี 2033 ประเทศไทยจะเข้าสู่การเป็น “สังคมผู้สูงอายุระดับสุดยอด” ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ชีวิตเกษียณของผู้สูงอายุที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป ทั้งการอยู่อาศัยคนเดียว หรือเน้นการพึ่งพาตัวเองมากขึ้น และการอยู่กันเพียงคู่สามีภรรยา ต่างก็เริ่มมองหา “ที่อยู่อาศัย” ที่สามารถมอบความสะดวกสบาย และวางใจได้ว่าจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี แม้ไม่มีลูกหลานคอยดูแล
คอลัมน์ Global Trend ฉบับนี้ จึงจะพาไปส่องบ้านพักวัยเก๋าทั้งต่างประเทศและในประเทศ ที่ต่างมีความหรูหรา สะดวกสบาย และช่วยให้บั้นปลายชีวิตของผู้สูงอายุไม่มีเหงา พร้อมอยู่ยาวอย่างมีความสุข

ชาร์ม พรีเมียร์ ฟูกาซาวะ (Charm Premier Fukasawa)
นี่คือตัวอย่างของเนิร์สซิงโฮมสุดหรูหราในประเทศญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงโตเกียว ซึ่งบริหารจัดการโดย Charm Care Corporation หนึ่งในพาร์ตเนอร์ของบริษัท มิตซูบิชิ จิโช เรสซิเดนซ์ จำกัด บริษัทในเครือมิตซูบิชิ เอสเตท ภายใต้คอนเซปต์การตกแต่งและออกแบบในสไตล์อาร์ตแกลเลอรี เพื่อให้ผู้สูงอายุได้ใช้ชีวิตอย่างสบาย ปลอดภัย และมีสุนทรียะจากการเสพงานศิลป์ของนักศึกษากว่า 100 ชิ้น
สำหรับพื้นที่ภายในของ ชาร์ม พรีเมียร์ ฟูกาซาวะ ยังได้รับการออกแบบให้สอดรับกับพฤติกรรมของผู้สูงอายุ โดยจัดสรรให้เป็นส่วนของห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางเพื่อใช้ทำกิจกรรมร่วมกัน ทำให้ทุกวันของการพักอาศัยที่นี่ รู้สึกเหมือนเป็นชุมชนของการอยู่อาศัยที่มีความสุข โดยภายในประกอบไปด้วย ห้องออกกำลังกายเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย ที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมสันทนาการ เป็นต้น
ส่วนด้านนอกเป็นสวนพร้อมระเบียงไม้ให้ผู้สูงอายุออกไปเดินเล่นและนั่งชมสวนได้ในวันที่อากาศดี และเพื่อให้ผู้สูงอายุได้ใช้ชีวิตในบ้านพักแห่งนี้ด้วยความสุขอย่างยั่งยืน ที่นี่จึงมีบริการและกิจกรรมมากมายที่ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคล ไม่ว่าจะเป็น คอนเสิร์ต การแสดงมายากล ยิมนาสติกเพื่อการฟื้นฟูร่างกาย กิจกรรมทางวัฒนธรรม หรือแม้แต่เมนูอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ และอาหารมื้อพิเศษในโอกาสต่าง ๆ
และสิ่งที่ทำให้ชาร์ม พรีเมียร์ ฟูกาซาวะแตกต่างจากเนิร์สซิงโฮมทั่วไปก็คือ การมีพนักงานดูแลผู้สูงอายุที่ได้รับการศึกษาเฉพาะทางมาคอยช่วยเหลือในกิจกรรมประจำวันต่าง ๆ ในอัตราส่วนพนักงาน 1 คนต่อผู้สูงอายุเพียง 2 คนเท่านั้น ทำให้สามารถดูแลผู้สูงอายุได้อย่างใกล้ชิด โดยที่นี่ได้เปิดให้เข้าพักในรูปแบบของระบบเช่าอยู่ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 165,000 – 295,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับรูปแบบของห้อง โดยผู้จะเข้าพักได้ต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีใบรับรองแพทย์มาแสดงเพื่อให้ทราบว่าต้องการการดูแลในระดับใด



เอเทรีย เวสต์ 86 (Atria West 86)
ผู้เกษียณวัยเก๋าที่มีเงินเก็บจำนวนมาก และมีจิตวิญญาณที่ยังกระปรี้กระเปร่าแบบวัยรุ่นอยู่ เอเทรีย เวสต์ 86 โรงแรมสุดหรูที่ตั้งอยู่ในเขตอัปเปอร์เวสต์ไซด์ ซึ่งเป็นย่านทันสมัยและร่วมสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของแมนฮัตตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับชาววัยเกษียณ เพราะการได้อาศัยอยู่กลางเมืองใหญ่ที่คึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แวดล้อมด้วยบรรยากาศอันแสนจะมีชีวิตชีวาตลอดเวลา น่าจะเป็นความสุขในช่วงหลังเกษียณที่หลายคนใฝ่ฝัน
เอเทรีย เวสต์ 86 ตกแต่งในสไตล์อาร์ต เดโค (Art Deco) ที่เน้นความหรูหรา งดงาม ห้องพักของที่นี่จึงได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน และตกแต่งด้วยสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้สูงอายุ เช่น ห้องครัวที่มีอุปกรณ์ตระเตรียมไว้ให้อย่างครบครัน เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียง ตลอดจนของใช้ต่าง ๆ ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี อาทิ ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เพื่อเอาใจสายแฟชั่น หน้าต่างบานใหญ่ที่สูงจากพื้นจรดเพดานให้ความรู้สึกกว้างขวาง ปลอดโปร่ง และรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ เป็นต้น
อีกทั้งยังมีบริการเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง บริการทำความสะอาด บริการดูแลส่วนบุคคล ที่จะคอยช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ อาทิ ความช่วยเหลือด้านยาและการแต่งกาย เป็นต้น ที่สำคัญอาหารทุกมื้อของที่นี่ถูกปรุงโดยเชฟมืออาชีพที่คำนึงถึงสุขภาพของผู้สูงอายุเป็นหลัก
นอกจากนี้ เอเทรีย เวสต์ 86 ยังตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกบนดาดฟ้าพร้อมทิวทัศน์ของเมืองและแม่น้ำฮัดสัน การออกกำลังกายในศูนย์ออกกำลังกายเพนต์เฮาส์ หรือจะออกกำลังกายท่ามกลางธรรมชาติที่งดงามของสวนริเวอร์ไซด์ซึ่งใกล้แม่น้ำฮัดสัน ก็เดินทางได้อย่างง่ายดาย หรือจะจิบกาแฟยามเช้า ดื่มค็อกเทลกับเพื่อน ๆ ในช่วง Happy Hour ก็มีคาเฟ่บริเวณใกล้เคียงมากมาย และหมดห่วงได้หากเจ็บป่วย เพราะที่นี่อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลหลายแห่ง โดยเปิดให้เช่าในราคาเริ่มต้น 7,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือน


เบธเลเฮม ชอร์ส (Bethlehem Shores)
หากคุณเป็นชาวเกษียณที่รักในการใช้ชีวิตอิสระแต่ต้องการชุมชนที่เป็นมิตร สถานที่พักอาศัยที่ปลอดภัยและอยู่แล้วมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง เบธเลเฮม ชอร์ส เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของหมู่บ้านเพื่อการเกษียณอายุอย่างแท้จริง
การได้พักอาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้ เปรียบเสมือนการได้ใช้ชีวิตอยู่ในรีสอร์ทหรูระดับ 5 ดาวตลอดเวลา เพราะนอกจากบ้านของคุณจะอยู่ใกล้กับชายฝั่งแม่น้ำที่มีบรรยากาศสวยงามแล้ว ในทุก ๆ วัน คุณจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ขึ้นแบบพาโนรามาและจบวันด้วยพระอาทิตย์ตกที่งดงาม พร้อมเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ของเทือกเขา Kaimai สำหรับบ้านของที่นี่ถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความเป็นส่วนตัว ความบันเทิง และความปลอดภัยเป็นหลัก ในรูปแบบวิลล่า 2 และ 3 ห้องนอนที่มีขนาดตั้งแต่ 180 – 330 ตารางเมตร ซึ่งมีเพดานสูง 2.7 เมตรที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย มีหน้าต่างบานใหญ่ที่มองเห็นภูมิทัศน์ได้อย่างชัดเจนและโอบล้อมด้วยสวนอันเขียวขจี อีกทั้งมีห้องครัวที่ตกแต่งอย่างสวยงาม และโรงจอดรถแบบเดี่ยวและคู่ไว้ให้ชาววัยเกษียณที่รักในการเดินทาง ทั้งยังมีบริการจัดหาผู้ช่วยงานบ้านและพยาบาลที่เชี่ยวชาญและมากด้วยประสบการณ์อีกด้วย
นอกจากนี้ เบธเลเฮม ชอร์ส ยังให้ความสำคัญในเรื่องของชีวิตทางสังคม ภายในหมู่บ้านจึงมีคลับเฮาส์ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกด้านนันทนาการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น คาเฟ่ โรงภาพยนตร์ขนาด 50 ที่นั่ง ฟลอร์เต้นรำ บาร์เปียโน ห้องสมุดอันอบอุ่นที่มีเตาผิงหินสคิสต์อันงดงาม สปาเพื่อสุขภาพที่มีสระน้ำอุ่นในร่มขนาด 20 เมตร บิวตี้ซาลอน และยิมพร้อมคลาสออกกำลังกาย หรือถ้าคุณต้องการจัดงานสังสรรค์ในครอบครัว ที่นี่ก็มีคาเฟ่ขนาด 150 ที่นั่ง ที่พร้อมสำหรับการจัดงานส่วนตัว อีกทั้งผู้พักอาศัยของที่นี่จะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงสโมสรชุมชนเพื่อการเกษียณอายุที่ใหญ่ที่สุดในนิวซีแลนด์ ซึ่งรับรองได้ว่าอยู่ที่นี่ คุณจะได้รับอิสระอย่างเต็มที่และไม่เหงาแน่นอน โดยสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้น 795,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปจนถึง 2.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ




ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Aspen Tree The Forestias)
สำหรับประเทศไทย MQDC บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวคิดใหม่ เปิดตัวดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซึ่งไม่ใช่แค่ที่พักอาศัยแต่เป็นบ้านสำหรับอยู่อาศัยตลอดชีวิต (สำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป) ภายใต้แนวคิด Aging-in-place ที่มุ่งเน้นการสร้างสังคมสำหรับผู้สูงอายุให้อยู่อาศัยได้อย่างมีคุณภาพและมีความสุข เพื่อเป็นต้นแบบของการดูแลผู้สูงอายุในระดับสากล ด้วยโปรแกรม Health & Wellness ที่เน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ ใส่ใจในทุกองค์ประกอบของการออกแบบเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการทั้งในปัจจุบันและอนาคต ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของทุกช่วงชีวิต ภายในโครงการจึงมีเวลเนส คลับเฮ้าส์ (Wellness Clubhouse) และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ สระว่ายน้ำในร่มและกลางแจ้ง ฟิตเนสและสตูดิโอโยคะ มุมอ่านหนังสือและร้านเบเกอรี สปาและบิวตี้ซาลอน ห้องนั่งสมาธิ ห้องคาราโอเกะ สวนบำบัด คลินิกเฉพาะทางสำหรับผู้สูงอายุ และ Business Lounge เป็นต้น
ที่สำคัญ ที่นี่ยังมีศูนย์ส่งเสริมและฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุ (Health & Brain Center) ซึ่งพร้อมให้การดูแลทั้งสุขภาพกาย ใจ และสมอง โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง ไม่ว่าจะเป็นคลินิกสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพระยะสั้น ศูนย์ดูแลสมองและความจำ บริการดูแลผู้สูงอายุรายวัน และศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในระยะยาว
และเพื่อให้การพักผ่อนสมบูรณ์แบบที่สุด ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ จึงได้ออกแบบโปรแกรมและกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาพและสุขภาวะที่ดีมารองรับการใช้ชีวิตอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ด้วยตัวเอง โปรแกรมสุขภาพและออกกำลังกาย กิจกรรมเสริมสร้างแรงบันดาลใจ กิจรรมเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนกิจกรรมทางสังคมต่าง ๆ เป็นต้น หากได้พักอาศัยที่นี่ เสมือนได้พักอยู่ในเมืองซิวิไลซ์ที่ครบครันขนาดย่อม ๆ ก็ว่าได้
โครงการของดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นโครงการรูปแบบคอนโดมิเนียม ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 28 ล้านบาทต่อยูนิต สูงสุดอยู่ที่ 70 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งสามารถพักอาศัยได้ห้องละ 2 – 3 คน และคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2023




นอกจากโครงการฯ ดังกล่าวแล้ว ประเทศไทยยังมีโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะอีกมากมาย เช่น โครงการแสนสรา (SANSARA) ราคาเริ่มต้น 6.9 – 16.8 ล้านบาทต่อยูนิต โครงการนายา เรสซิเดนซ์ (NAYA Residence) จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่พักผู้สูงอายุแห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับใบอนุญาตสถานประกอบกิจการดูแลผู้สูงอายุประเภท Independent Living ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุในกลุ่มวัยอิสระโดยเฉพาะ นั่นก็คือบุคลลที่ยังมีสุขภาพแข็งแรง สามารถดูแลตนเองได้และชอบที่จะแสวงหาคุณค่าในตัวเอง ที่ราคาเริ่มต้น 11 ล้านบาทต่อยูนิต โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ (Jin Wellbeing County) จ.ปทุมธานี ราคาเริ่มต้น 4.3 ล้านบาทต่อยูนิต โครงการเวลเนส ซิตี้ (Wellness City) อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ราคาเริ่มต้น 1.5 – 3.4 ล้านบาทต่อยูนิต และโครงการศุภวัฒนาลัย (Supalai Wellness Valley) จ.สระบุรี ราคาเริ่มต้น 1.1 – 1.3 ล้านบาทต่อยูนิต
จะเห็นว่า มีโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง หลากประเทศที่ออกมารองรับการดูแลผู้สูงอายุ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ค่าใช้จ่ายก็สูงไปตามความสะดวกสบายที่แต่ละโครงการมอบให้ หากคุณต้องการเกษียณอย่างมีความสุข พำนักอาศัยในสถานที่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่คุณเลือกได้ คงต้องเริ่มวางแผนทางการเงินตั้งแต่วันนี้ เพื่อความแฮปปี้ในช่วงบั้นปลายของชีวิต
“ค่าใช้จ่าย” ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ
นอกจากโครงการฯ ดังกล่าวแล้ว ประเทศไทยยังมีโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุโดยเฉพาะอีกมากมาย เช่น โครงการแสนสรา (SANSARA) ราคาเริ่มต้น 6.9 – 16.8 ล้านบาทต่อยูนิต โครงการนายา เรสซิเดนซ์ (NAYA Residence) จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นโครงการที่พักผู้สูงอายุแห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับใบอนุญาตสถานประกอบกิจการดูแลผู้สูงอายุประเภท Independent Living ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุในกลุ่มวัยอิสระโดยเฉพาะ นั่นก็คือบุคลลที่ยังมีสุขภาพแข็งแรง สามารถดูแลตนเองได้และชอบที่จะแสวงหาคุณค่าในตัวเอง ที่ราคาเริ่มต้น 11 ล้านบาทต่อยูนิต โครงการจิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ (Jin Wellbeing County) จ.ปทุมธานี ราคาเริ่มต้น 4.3 ล้านบาทต่อยูนิต โครงการเวลเนส ซิตี้ (Wellness City) อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ราคาเริ่มต้น 1.5 – 3.4 ล้านบาทต่อยูนิต และโครงการศุภวัฒนาลัย (Supalai Wellness Valley) จ.สระบุรี ราคาเริ่มต้น 1.1 – 1.3 ล้านบาทต่อยูนิต
จะเห็นว่า มีโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง หลากประเทศที่ออกมารองรับการดูแลผู้สูงอายุ แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ค่าใช้จ่ายก็สูงไปตามความสะดวกสบายที่แต่ละโครงการมอบให้ หากคุณต้องการเกษียณอย่างมีความสุข พำนักอาศัยในสถานที่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่คุณเลือกได้ คงต้องเริ่มวางแผนทางการเงินตั้งแต่วันนี้ เพื่อความแฮปปี้ในช่วงบั้นปลายของชีวิต
