เมื่อ ‘Optimistic Nihilism’ ตีความใหม่ในโลกยุคใหม่  นำสู่วิถีชีวิต-ความสำเร็จที่เป็นนิยามเฉพาะตัว

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 71 | คอลัมน์ Global Trend

11 3 scaled

‘สุญนิยม’ หรือ ‘Nihilism’ เป็นแนวคิดทางปรัชญาที่มีมาหลายศตวรรษ หลักการสำคัญ คือ การมองว่าชีวิตไม่มีความหมาย จุดมุ่งหมาย หรือคุณค่าที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ในอดีตแนวคิดดังกล่าวมักนำไปสู่ความสิ้นหวังหรือการมองโลกในแง่ร้าย เพราะหากทุกสิ่งล้วนแต่ไร้ความหมาย แล้วคนเราจะใส่ใจกับการให้คุณค่าสิ่งต่าง ๆ เพื่ออะไร แต่น่าสนใจว่า...ในปัจจุบันปรัชญาแขนงนี้ได้วิวัฒน์ไปสู่มุมมองที่ส่งเสริมชีวิตในด้านบวกมากขึ้น นั่นคือ ‘การมองโลกในแง่ดีท่ามกลางความว่างเปล่า’ หรือ ‘Optimistic Nihilism’ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินวิถีชีวิตของคนหลากหลายกลุ่มในปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มเจนซี (Generation Z หรือคนที่เกิดระหว่างปี 1997-2012)

        การตีความดังกล่าวได้ปรับมุมมองต่อปรัชญาที่มืดหม่นให้กลายเป็นพลังในการดำรงชีวิตเมื่อยอมรับว่า ชีวิตไม่มีความหมายโดยธรรมชาติ นั่นหมายความว่า ทุกคนย่อมมีอิสระที่จะสร้างความหมายเฉพาะตัว ทำให้เกิดวิถีชีวิตที่แตกต่างอย่างชัดเจนจากเส้นทางแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็น การเรียนมหาวิทยาลัย อาชีพที่ (แลดู) มั่นคง การซื้อบ้าน การแต่งงาน ฯลฯ ทั้งหมดนี้ จึงไม่ได้สื่อถึงชีวิตที่ประสบความสำเร็จสำหรับทุกคนอีกต่อไป เพราะความสำเร็จไม่ได้วัดด้วยค่ามาตรฐานดั้งเดิม แต่เป็นการให้ความสำคัญหรือให้คุณค่ากับสิ่งเหล่านี้มากกว่า คือ… 

    •      ‘สมดุลของชีวิตการทำงานมากกว่าความก้าวหน้าในอาชีพ 
    •      ‘ความยืดหยุ่นของการดำเนินชีวิตมากกว่าความมั่นคง
    •      ‘การเติบโตส่วนบุคคลมากกว่าการสะสมวัตถุ
    •      ‘ความสุขในปัจจุบันมากกว่าการกังวลกับการวางแผนอนาคต
    •      ‘คุณค่าที่เกิดจากประสบการณ์ที่แท้จริงมากกว่าการครอบครองทรัพย์สิน 
    •      ‘เส้นทางที่ตัวเองเชื่อมั่นมากกว่าเป้าหมายที่สังคมกำหนดไว้

         ผู้คนที่โอบรับแนวคิดนี้ไม่ได้ปฏิเสธความหมายทั้งหมด แต่เลือกที่จะนิยามความหมายด้วยตัวเอง เพื่อพร้อมรับความเป็นไปได้อันไร้ขีดจำกัดของชีวิต โดยปราศจากภาระของความคาดหวังที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้ามาหลายต่อหลายยุคสมัย เมื่อยอมรับว่าชีวิตไม่มีความหมายโดยธรรมชาติ จึงนำไปสู่การเผชิญชีวิตด้วยมุมที่แข็งแกร่งมากขึ้นนั่นเอง

ชีวิตรูปแบบใหม่ในโลกที่อะไรก็ไม่แน่นอน

         ความเป็นอิสระจากพันธนาการความหมายในแง่มุมต่าง ๆ และทัศนคติที่ว่า ความไม่แน่นอนเป็นโอกาสที่จะได้ทดลองและสร้างประสบการณ์ใหม่ มากกว่าที่จะเป็นภัยคุกคามความก้าวหน้า จึงก่อให้เกิดความยืดหยุ่นในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการสร้างค่านิยมส่วนตัวที่เป็นอิสระจากกรอบแบบดั้งเดิม การยึดถือแนวทางที่ตนให้คุณค่าแม้ไม่ใช่เส้นทางสายหลักของสังคม แต่เป็นการโอบรับอิสระในการบุกเบิกเส้นทางที่เป็นเอกลักษณ์ก็สามารถพบเจอความสุขระหว่างทางได้ โดยไม่ต้องกังวลกับการวางเป้าหมายในระยะไกล  

         ดังนั้น หนึ่งในแง่มุมที่โดดเด่นที่สุดของ ‘Optimistic Nihilism จึงเป็นการให้ความสำคัญกับปัจจุบัน กลุ่มคน Gen Z  จึงลงทุนกับการสร้างประสบการณ์ที่ตนพึงใจสร้างและรักษาความสัมพันธ์ที่มีความหมายต่อตนเองโดยปราศจากความคาดหวังที่ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า ประกอบอาชีพหรือทำงานที่สอดคล้องกับคุณค่าที่ตนยึดถือ และต้องการที่จะค้นพบตัวเอง สร้างการเติบโตในทิศทางที่มีความหมายต่อตนเอง 

          ขณะที่หลาย ๆ คนอาจมองว่า คนรุ่น Gen Z ดูราวกับไม่ใส่ใจการวางแผนแบบดั้งเดิม แต่ที่จริงแล้วพวกเขากลับมีนวัตกรรมต่อการดำเนินชีวิต พวกเขาให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวเองเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน หลายคนกำลังบุกเบิกวิธีการทำงาน และการใช้ชีวิตแบบใหม่ที่ไม่ขัดต่อความเชื่อและค่านิยมส่วนบุคคล เกิดการพัฒนาแนวทางใหม่ ๆ ในการเดินทางสู่เป้าหมายที่วางไว้ โดยไม่ยึดติดกับความคาดหวังของสังคม พวกเขาจึงเรียนรู้ที่จะยอมรับวิถีการดำเนินชีวิตที่แตกต่าง รวมถึงรับรู้และต่างก็สนับสนุนเส้นทางสู่ความสำเร็จเฉพาะตัวของกันและกัน 

11.2

แม้ไร้ความหมายแต่ไม่ใช่เรื่องผิวเผิน

          สิ่งเหล่านี้อาจดูเหมือนการแยกตัวจากค่านิยมดั้งเดิม แต่เมื่อพิจารณาลึกลงไป แนวคิดนี้สะท้อนแง่มุมที่มีต่อชีวิตอย่างลึกซึ้ง ผู้ที่ยึดถือปรัชญานี้แสดงให้เห็นถึงความกล้าที่จะตั้งคำถามกับบรรทัดฐานที่มีอยู่ รวมถึงการริเริ่มสร้างสรรค์การสร้างค่านิยมส่วนตัว ความกล้าที่จะเผชิญความไม่แน่นอน และการสร้างความสุขที่ไร้กรอบจำกัด โดยไม่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขว่าต้องเดินตามขั้นตอนต่าง ๆ จนบรรลุสู่จุดที่ได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จของตนเอง เมื่อนั้นจึงจะมีความสุข  

           การเติบโตของแนวคิด ‘Optimistic Nihilism’ ในหมู่คน Gen Z จึงไม่ใช่การปฏิเสธความหมายแบบขวางโลก แต่เป็นการสร้างนิยามใหม่ต่อวิธีการสร้างความหมายและการรับรู้ของสังคม แม้วิธีการเหล่านี้จะแตกต่างจากเส้นทางแบบดั้งเดิม แต่ผลลัพธ์ก็ล้วนมุ่งไปสู่การแสวงหาความสมบูรณ์และความพึงพอใจในชีวิต ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ไม่แตกต่างกันของผู้คนทุกยุคสมัย 

           กุญแจสำคัญจึงอยู่ที่การเปิดรับและทำความเข้าใจว่า แม้มีวิธีการที่แตกต่างในการค้นหาความหมาย แต่คนทุกรุ่นทุกชีวิต ก็สามารถอยู่ร่วมกันและช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยปรัชญาชีวิตเหล่านี้ได้เกิดจากการตีความเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนผ่านนั้น อาจนำพาเราไปค้นพบอิสรภาพในการสร้างสรรค์คุณค่าเฉพาะตัว เพื่อก้าวสู่ชีวิตที่สมบูรณ์และแท้จริงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นไหนก็ตาม 

Scroll to Top
ไอคอน PDPA

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานเว็บไซต์ของท่านให้ดียิ่งขึ้น และนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของท่าน โดยท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้ กรุณากดยอมรับเพื่อยินยอมให้เราใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็น

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึกการตั้งค่า