file

มูลนิธิทางการแพทย์ในพระบรมราชูปถัมภ์

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 41 | คอลัมน์ Giving

เป็นที่ทราบกันดีว่า บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขเป็นปัญหา ใหญ่ระดับประเทศ ข้อมูลล่าสุดจากรายงานทรัพยากรสาธารณสุข สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า จำนวน แพทย์ปฏิบัติงานในสถานบริการสาธารณสุข คิดเป็นสัดส่วนต่อ ประชากรเท่ากับ 1: 2,428 คน ในขณะที่ความต้องการที่เหมาะสม อยู่ที่ 1:1,500 –1,800 คน แม้ภาครัฐจะพยายามผลักดันและแก้ไขระบบ บริการสุขภาพให้ครอบคลุมและทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นด้านการผลิต บุคลากร การขยายสถานบริการพยาบาล การพัฒนาเทคโนโลยี/เครื่องมือ แพทย์ที่ทันสมัย รวมทั้งจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานสาธารณสุข ต่างๆ แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับจำนวนประชากรและความต้องการที่ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ประเทศไทยกำลัง ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นวัยที่มาพร้อมกับปัญหาทางสุขภาพมากมาย ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีชั้นสูงและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการดูแล ซึ่งมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

ด้วยเหตุนี้ การจัดตั้งมูลนิธิของโรงพยาบาลต่างๆ เพื่อระดมทุนจาก ผู้มีจิตศรัทธาในการดำเนินงานภายใต้โครงการพัฒนาและช่วยเหลือ ประชาชนให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข จึงเป็นอีก ช่องทางหนึ่งในการสนับสนุนการยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนที่ขาดแคลน ทุนทรัพย์ในการรักษา ด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงพระราชทานพระราชา นุเคราะห์รับไว้ในพระบรมราชูปถัมป์หลายโครงการที่ยังคงต้องการ การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

ด้วยปณิธานที่จะดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในการสร้าง ประโยชน์แก่ส่วนรวมเท่าที่จะสามารถกระทำได้ กลุ่มธนาคารทิสโก้ จึงร่วมในการสนับสนุนมูลนิธิทางการแพทย์ที่ได้ดำเนินการเพื่อผู้ป่วย ที่ขาดแคลนจำนวนมาก ด้วยการส่งมอบหนังสืออันทรงคุณค่า ‘ภาพถ่าย ฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว’ แก่มูลนิธิทางการแพทย์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แก่ สภากาชาดไทย มูลนิธิรามาธิบดี ศิริราช มูลนิธิ มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี และมูลนิธิเพื่อโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อนำไปใช้ในการระดมทุนสนับสนุนพันธกิจและ โครงการต่างๆ ของมูลนิธิ หลายโครงการจัดตั้งขึ้นจากแนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ด้วยความห่วงใยที่ ทรงมีต่อพสกนิกร และยังต้องการเงินสนับสนุนจากผู้มีจิตศรัทธาอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในระยะยาว คือให้ประชาชนเข้าถึง บริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพและได้รับการรักษาอย่างทั่วถึงทุกระดับได้ถึง 400 เตียง ซึ่งคาดว่าจะยิ่งเพิ่มน้ำหนักความน่าสนใจให้ กับตัวโครงการมากยิ่งขึ้น ด้วยคุณค่าอันประเมินมิได้ของหนังสือเล่มนี้

 

Bootstrap Image Preview

มูลนิธิรามาธิบดีฯ “สานต่อการให้จากมุมมองมหาราช”

มูลนิธิรามาธิบดีในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการจัดหาทุนเพื่อ พัฒนาทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ โดยช่วยเหลือ ผู้เจ็บป่วยจำนวนมากที่ขาดแคลนเงินทอง ให้ได้รับโอกาสในการรักษา โดยเท่าเทียม ผ่านการดำเนินงานของคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล รามาธิบดี

ปัจจุบันทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัย มหิดล ยังคงเดินหน้าผลักดันโครงการเพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวไทย และสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก่อสร้างสถาบันการ แพทย์จักรีนฤบดินทร์ ซึ่งเกิดจากพระราชปรารภและพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่มีพระราชประสงค์ให้มี สถานพยาบาลหรือโรงพยาบาลของรัฐขนาดใหญ่ระดับโรงเรียนแพทย์ ขึ้นที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อให้การตรวจรักษาประชาชนในพื้นที่ รวมทั้ง เป็นศูนย์กลางการแพทย์ให้กับประชาชนในจังหวัดแถบชายฝั่งตะวันออก

แน่นอนว่าหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทางมูลนิธิรามาธิบดีฯ โดย ผศ.นพ.ธงชัย พงศ์มฆพัฒน์ กรรมการ บริหารมูลนิธิรามาธิบดี ได้รับมอบจากธนาคารทิสโก้ จะถูกนำมาใช้ เป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อจัดหาทุนสร้างสถาบัน แห่งนี้ ตามวัตถุประสงค์ในการจัดสร้างโรงเรียนที่ผลิตบุคลากรทาง การแพทย์ที่มีคุณภาพสู่สังคม และเป็นโรงพยาบาลที่รองรับผู้ป่วย ทุกระดับได้ถึง 400 เตียง ซึ่งคาดว่าจะยิ่งเพิ่มน้ำหนักความน่าสนใจให้ กับตัวโครงการมากยิ่งขึ้น ด้วยคุณค่าอันประเมินมิได้ของหนังสือเล่มนี้

“ทุกวันนี้การบริจาคหรือทำบุญกับทางโรงพยาบาลยังคงมีมาเรื่อยๆ ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ โดยบริจาคตามแต่กำลังทรัพย์ อาจจะคนละ เล็กละน้อย แต่เมื่อรวมแล้วก็เป็นยอดที่ใหญ่ได้ ไม่เพียงช่วยผู้ที่เจ็บไข้ ได้ป่วยให้พ้นทุกข์จากโรคภัย เงินที่บริจาคยังถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระมหากษัตริย์ผู้เป็นรักยิ่งของพวกเราคนไทยด้วย” ร่วมบริจาคสมทบทุนมูลนิธิรามาธิบดีได้ที่ โทร. 0 2201 1111 หรืออีเมล info@ramafoundation.or.th
 

ศิริราชมูลนิธิ “การส่งต่อที่ไม่สิ้นสุด”

อีกหนึ่งมูลนิธิที่ทำงานแบบปิดทองหลังพระมาโดยตลอด คือ ศิริราช มูลนิธิ ซึ่งทำหน้าที่จัดหาทุนทรัพย์เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย ช่วยเหลือรักษาผู้ป่วยที่ยากไร้ของโรงพยาบาลศิริราช อีกทั้งยังสนับสนุน การศึกษาและการค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนาบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล

คุณสุนันท์ สิรประภาธรรม์ ผู้ช่วยหัวหน้าสำนักงาน ศิริราชมูลนิธิ กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางมูลนิธิได้เปิดรับการบริจาค รวมทั้งจัดหาทุนผ่าน โครงการต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสให้ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาได้มีส่วนร่วม ทำบุญ รวมทั้งร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสมหามงคลต่างๆ

วันนี้แม้พระองค์จะเสด็จสู่สวรรคาลัย แต่ทางโรงพยาบาลศิริราช และศิริราชมูลนิธิก็ยังคงสืบสานพระราชดำริตามที่พระองค์ท่านได้ พระราชทานแนวทางไว้ อาทิ การแก้ปัญหาน้ำท่วมหรือรถติดใน โรงพยาบาลศิริราช ตลอดจนสืบสานเจตนารมณ์ทำความดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน ซึ่งหนังสือภาพถ่าย ฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทางมูลนิธิได้รับมา ก็จุด ประกายให้เกิดการบริจาคเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในเวลานี้

“ต้องขอบพระคุณอย่างยิ่งที่ทางทิสโก้ได้มอบหนังสือเล่มนี้ เรายินดี ที่ได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่าน ให้เป็นที่ประจักษ์ รวมทั้งได้เปิดรับบริจาคเพื่อกองทุนที่เกี่ยวเนื่องกับ พระองค์ท่าน คือ โครงการรักษาผู้ป่วยด้อยโอกาศด้วยเทคโนโลยี่ชั้นสูงและ ค่าใช้จ่ายสูง เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

ทั้งนี้ เราพิจารณาแล้วว่ามีผู้ป่วยในโครงการนี้จำนวนมากที่รอคอย ความช่วยเหลือ เพราะการรักษาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ การผ่าตัด ด้วยหุ่นยนต์ การผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม การผ่าตัดหัวใจเทียม มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก อย่างหัวใจเทียมดวงละ 1 ล้านบาท ทางมูลนิธิฯ ก็จะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยส่งมอบหนังสือที่ควรค่าแก่การ + ภาพจำ ลองสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ เก็บรักษาให้กับผู้มีจิตศรัทธาเป็นการตอบแทน”

 

Bootstrap Image Preview
 

 

คุณสุนันท์เล่าว่า ที่ผ่านมาศิริราชมูลนิธิมีส่วนประสานทำงานเกื้อกูล กับหน่วยงานในพระบรมราชูปถัมภ์มาโดยตลอด ทั้งทางตรงและ ทางอ้อม เช่น เหตุการณ์อุทกภัยปี 2554 ทางมูลนิธิฯ ได้เป็นสื่อกลาง ในการรับบริจาคเงินและสง่ ต่อให้กับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ เพื่อนำ ไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆ

อีกหนึ่งโครงการที่น่าภาคภูมิใจคือ การสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา ซึ่งถือเป็นโครงการสุดท้ายที่พระองค์พระราชทานไว้เพื่อช่วย แก้ปัญหาให้แก่โรงพยาบาลศิริราช โดยจะเป็นอาคารรวมผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยใน ความสูง 25 ชั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 ปีข้างหน้า ทว่าก็ยังคงต้องการการสนับสนุนด้านทุนทรัพย์อย่างต่อเนื่อง

“แหล่งทุนส่วนหนึ่งได้มาจากผู้มีจิตศรัทธาที่เข้ามารักษาตัวที่ โรงพยาบาล แล้วประทับใจในการบริการ บางคนได้รับการช่วยเหลือมา ก่อน ก็กลับมาช่วยเหลือคืนสู่สังคมอีกทีหนึ่ง บางคนมีก􀁬ำลังทุนทรัพย์ แต่มาโรงพยาบาลแล้วเห็นความทุกข์ยากของผู้ป่วย ก็อยากจะช่วยเหลือ นี่คือความหมายของการส่งต่อที่ไม่สิ้นสุด”

ร่วมบริจาคสมทบทุนศิริราชมูลนิธิได้ที่ โทร. 0 2419 7658-60 ต่อ101-104

หรืออีเมล donate_siriraj@hotmail.com

 

มูลนิธิเพื่อโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ “ที่ระลึกบันทึกทางประวัติศาสตร์”

ด้วยแรงศรัทธาของศิษย์เก่า ประชาคมธรรมศาสตร์ และประชาชน ทั่วไปผู้มีจิตศรัทธา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งจึงได้ก่อสร้างขึ้น ย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อปี 2530 เพื่อรักษาพยาบาลผู้เจ็บไข้ ได้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยในแถบภาคกลาง ภาคเหนือและอีสานตอนล่าง โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนิน ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ และพระราชทานนามว่า โรงพยาบาล ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

ทุกวันนี้ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเป็นโรงเรียน แพทย์ที่สังกัดอยู่ในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้บริการรักษาผู้ป่วยนอก เฉลี่ยวันละ 2,000-3,000 คน รองรับผู้ป่วยในประมาณ 600 เตียง รวมทั้งเป็นจุดรับ-ส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลอื่นๆ อีกจำนวนมาก แม้ว่า ทางโรงพยาบาลจะได้รับงบประมาณสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี แต่ก็ยังคงไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วยที่มีโรคหลากหลายและซับซ้อน ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง

นี่ยังไม่นับรวมผู้ป่วยยากไร้ หรือผู้ป่วยที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกัน สุขภาพ ซึ่งทางโรงพยาบาลจะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการรักษา พยาบาลอีกจำนวนไม่น้อย

“จึงเป็นหน้าที่ของมูลนิธิเพื่อโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิม พระเกียรติ ในการจัดหาทุนเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลในหลายๆ ด้าน อาทิ การจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ การพัฒนาการดำเนินงานของ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ให้มีประสิทธิภาพสูง การส่งเสริมการรักษา พยาบาลและการป้องกันโรคภัยไข้เจ็บของประชาชนทั่วไป การให้ทุน การศึกษาและวิจัยในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพและวิทยาศาสตร์ การแพทย์ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ตาม เราจะคำนึงถึงประโยชน์อันเป็น สาธารณกุศลตามศรัทธาของผู้ให้เป็นำคัญเสมอ”

คุณสุริศา สฤทธิ์บูรณ์ กรรมการและเหรัญญิก มูลนิธิเพื่อ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เผยถึงสิ่งที่ทางมูลนิธิทำมา ตลอดด้วยจิตอาสา พร้อมกล่าวขอบคุณธนาคารทิสโก้ที่มุมานะตั้งใจ จัดทำหนังสือเล่มนี้ออกมาสู่สังคม ถือเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่มี คุณประโยชน์อย่างมากต่อการศึกษาเรียนรู้ ซึ่งทางมูลนิธิฯ จะนำหนังสือ ไปดำเนินการจัดหาทุนเพื่อทำสาธารณประโยชน์ต่อไป ตามวัตถุประสงค์ ที่ทางทิสโก้ได้มอบให้ไว้”

นอกจากการจัดหาทุนทรัพย์เพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ทางมูลนิธิฯ ยังดำเนินกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาวะ ประชาชน โดยทุกเดือนจะมีการเชิญคุณหมอผู้เชี่ยวชาญจาก โรงพยาบาลมาบรรยายเกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพ รวมทั้งนิมนต์ พระสงฆ์มานำ สวดมนต์ และให้โอวาทธรรม ประชาชนผู้สนใจสามารถ เข้าฟังได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ที่สำนักงานมูลนิธิฯ บนถนน ศรีอยุธยา

ร่วมบริจาคสมทบทุนมูลนิธิเพื่อโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติได้ที่ โทร. 0 2354 4092 หรือ 0 2640 4313

 

“... หนังสือ ‘ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ฯ’ เล่มนี้ถือว่ามีคุณค่าทางจิตใจมาก ทำให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับพระองค์ท่าน อยู่ตลอดเวลา แม้พระองค์ท่านจะเสด็จ สู่สวรรคาลัย แต่พระมหากรุณาธิคุณ ยังคงแผ่มาถึงมูลนิธิฯ ในการหาทุนเพื่อ ช่วยเหลือผู้ป่วยทุกระดับต่อไป...”

 

มูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี “สืบสานเจตนารมณ์จากผู้ให้ถึงผู้รับ”

โรงพยาบาลราชวิถีถือเป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ ทั้งยังเป็น โรงพยาบาลศูนย์วิชาการที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรมการแพทย์ กระทรวง สาธารณสุข ทุกวันนี้มีผู้ป่วยจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมารักษาตัวที่นี่ กว่า 4,000 รายต่อวัน จนกระทั่งอาคารสถานที่ ห้องตรวจโรค ตลอด จนเตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอที่จะรองรับ

ด้วยเหตุนี้ ทางโรงพยาบาลราชวิถีจึงได้ริเริ่มโครงการก่อสร้าง อาคารศูนย์การแพทย์ราชวิถีขึ้น เพื่อทดแทนอาคารหลังเก่าที่ยืนหยัด ให้บริการผู้ป่วยมานานกว่า 30 ปี อย่างไรก็ดี แม้จะได้รับงบประมาณ จากภาครัฐมาส่วนหนึ่ง ทว่าก็ยังไม่เพียงพอ ทางโรงพยาบาลจึงได้ เชิญชวนให้ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาได้มีส่วนร่วมสบทบทุนสร้างอาคาร หลังใหม่นี้

“นับเป็นโอกาสอันดีที่ทางธนาคารทิสโก้มอบหนังสือภาพถ่าย ฝีพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้กับทางมูลนิธิโรงพยาบาล ราชวิถี เราตั้งใจว่าจะนำไปใช้ในการประชาสัมพันธ์เพื่อระดมทุน ก่อสร้างอาคารศูนย์การแพทย์ราชวิถี ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการ รักษาพยาบาลให้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพิ่มโอกาสให้คนไข้ได้รับการ รักษา และลดการสูญเสียชีวิตของประชาชนทุกระดับ”

คุณนิตา รามสูต หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี กล่าว และเสริมว่า หากอาคารศูนย์การแพทย์ราชวิถีก่อสร้างเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า จะสามารถช่วยเหลือแบ่งเบาภาระสังคมได้ อย่างมาก โดยเฉพาะการรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่ยากไร้และอาการหนัก ซึ่งส่วนใหญ่ถูกส่งตัวมาจากต่างจังหวัด หนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ก็จะเป็นเหมือน ‘ลมหายใจ’ ที่จะช่วยต่อชีวิตให้กับผู้ป่วยได้อย่างมาก

“เพียงแค่เห็นหนังสือ ก็ทำให้ระลึกนึกถึงพระองค์ท่านทุกครั้ง สำหรับมูลนิธิฯ และโรงพยาบาลราชวิถี หนังสือเล่มนี้ถือว่ามีคุณค่า ทางจิตใจมาก ทำให้เรารู้สึกเชื่อมโยงกับพระองค์ท่านอยู่ตลอดเวลา แม้พระองค์ท่านจะเสด็จสู่สวรรคาลัย แต่พระมหากรุณาธิคุณยังคง แผ่มาถึงมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถีในการหาทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย ทุกระดับต่อไป”

ทั้งนี้ ทางมูลนิธิฯ พร้อมที่จะส่งมอบหนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ เล่มนี้ให้กับผู้ที่เห็นคุณค่าและร่วมทำบุญสบทบทุนกับโครงการ ทุกบาท ทุกสตางค์ที่ได้รับบริจาค ก็จะนำไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ ไม่เพียง ก่อสร้างอาคารศูนย์การแพทย์ แต่ยังรวมถึงการจัดซื้อเครื่องมือ การแพทย์ที่จำเป็น การตกแต่งภายในและสร้างศูนย์การแพทย์ต่างๆ ในอนาคต เช่น ศูนย์โรคมะเร็ง ศูนย์โรคไต ฯลฯ เพื่อสนับสนุนให้ ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างเต็มประสิทธิภาพ ตามเจตนารมณ์จากผู้ให้ ถึงผู้รับอย่างแท้จริง

ร่วมบริจาคสมทบทุนมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี ได้ที่ โทร. 0 2354 7997-9 หรือ rajavithihospitalfoundation@gmail.com

 

สภากาชาดไทย “เป็นสิริมงคลในการเก็บรักษาไว้”

สภากาชาดไทย ดำเนินภารกิจภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยบุคลากรทุกคนพร้อมที่ จะปฏิบัติหน้าที่ตามรอยพระยุคลบาทในเรื่องของความเสียสละ ความ รับผิดชอบ รวมทั้งส่งต่อความห่วงใยที่พระองค์ท่านมีต่อประชาชน คนไทยทั้งประเทศ ผ่านภารกิจของสภากาชาดไทยที่มีอยู่ด้วยกัน 4 ด้าน ได้แก่ การบริการทางการแพทย์ การบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยพิบัติ การบริการโลหิต และการส่งเสริมคุณภาพชีวิต เช่น การนำเรือเวชพาหน์ ที่พระองค์ได้พระราชทาน มาออกให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย ที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึงความช่วยเหลือ

คุณจันทร์ประภา วิชิตชลชัย รองผู้อำนวยการสำนักงานจัดหา รายได้ สภากาชาดไทย กล่าวว่า หนังสือภาพถ่ายฝีพระหัตถ์เป็นหนังสือ ที่ทรงคุณค่าและคิดว่าหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ส่วนที่สภากาชาดได้รับ มอบมา ส่วนหนึ่งจะเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ของสภากาชาดไทย เพื่อส่งต่อ ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และจะมอบแก่ผู้บริจาคเงิน ให้แก่สภากาชาดไทย เก็บไว้เป็นสิริมงคล

“ที่บอกว่าเป็นสิริมงคล เพราะว่าภาพถ่ายที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนี้ เป็นฝีพระหัตถ์ของพระองค์ท่านให้ผู้คนได้เก็บไว้ระลึกถึง ซึ่งคงจะเป็น ความทรงจำที่ผู้ได้รับมอบหนังสือเล่มนี้จดจำไว้ตราบนานเท่านาน”

นอกเหนือจากการนำไปส่งต่อเพื่อเกิดประโยชน์ในการระดมทุนแล้ว คุณจันทร์ประภาเผยว่าสภากาชาดไทยเองก็ได้มีการจัดทำหนังสือเช่นกัน ชื่อ ‘สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ’ เพื่อร่วมเผยแพร่พระราชกรณียกิจ และโครงการในพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 โดยมีการเชิญ ผู้มีชื่อเสียงหรือบุคคลที่มีการน้อมนำแนวพระราชดำริไปปฏิบัติกับตนเอง ครอบครัว หรือองค์กร มาถ่ายภาพเพื่อร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 89 ท่าน 89 โครงการ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการจัดพิมพ์ คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนสิงหาคม ก็จะเป็นหนังสือทรงคุณค่า อีกเล่มหนึ่งที่พร้อมจะส่งต่อไปถึงผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลาย

ร่วมบริจาคสมทบทุนสภากาชาดไทยได้ที่ Call Center 1664 หรืออีเมล webmasteratredcross.or.th