เปิดมุมความคิด “โชน โสภณพนิช” กับความร่วมมือครั้งสำคัญ TISCO x BLA สู่การวางแผนประกันที่ดูแลคนไทยยาวนานถึงหลังเกษียณ

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 62 | คอลัมน์ People

 

ประกันชีวิตเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่เผชิญกับปัจจัยท้าทายรอบด้าน ทั้งจากการระบาดของ COVID-19 สถานการณ์การแข่งขันสูง ความผันผวนจากผลตอบแทนของการลงทุนและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัว แต่ในความท้าทายนั้น ก็เป็นโอกาสที่ทำให้ประชาชนได้ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงทั้งในด้านชีวิตและสุขภาพมากขึ้น รวมถึงเมกะเทรนด์ของโลกในการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ธุรกิจเติบโต

เช่นเดียวกับบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ที่ดำเนินกิจการด้วยความมั่นคงมาตลอด 70 ปี เผชิญกับความท้าทายรอบด้าน ซึ่งสิ่งที่ทำให้บริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง มาจากวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้ประชาชนเห็นประโยชน์ของการทำประกันชีวิตที่เหมาะสมกับฐานะทางการเงินและคุณค่าของชีวิต TRUST ฉบับนี้ มีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ถึงแนวทางการทำประกันชีวิตที่ตอบโจทย์คุณค่าชีวิตของคนไทย

ออกแบบ “ประกัน” ตอบโจทย์ “เมกะเทรนด์”

คุณโชนกล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ยิ่งเป็นปัจจัยเร่งให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการบริหารความเสี่ยงด้านชีวิตและสุขภาพมากขึ้น รวมทั้งการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุยังเป็นปัจจัยสนับสนุนให้คนหันมาสนใจในเรื่องการวางแผนการเงินอย่างจริงจัง เพื่อเตรียมความพร้อมในเรื่องสุขภาพและชีวิตหลังเกษียณ ซึ่งภาคธุรกิจประกันชีวิตเป็นส่วนหนึ่งที่ทำงานร่วมกับภาคธุรกิจอื่น ๆ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมให้คนเข้าถึงการทำประกันชีวิตมากขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา

file

“บริษัทกรุงเทพประกันชีวิตมีอัตราส่วนเงินกองทุนอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งกว่าที่กฎหมายกำหนด ทำให้สามารถบริหารจัดการผลตอบแทนจากการลงทุนได้ยืดหยุ่นมากขึ้น ตามสถานการณ์การลงทุนและเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไป และที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ในระดับที่ดีมาโดยตลอด” คุณโชนกล่าว

นอกจากนี้ สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก คือการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมลูกค้าในทุกกลุ่มระดับรายได้และช่วงวัย โดยเฉพาะการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และตรงกับกำลังซื้อมากที่สุด โดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล AI และ Big Data เข้ามาช่วยในการออกแบบผลิตภัณฑ์ รวมถึงอำนวยความสะดวกและเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการลูกค้าและตัวแทนตามเป้าหมายที่ต้องการ ให้กรุงเทพประกันชีวิตเป็น Digital Insurance อย่างสมบูรณ์

file

คุณโชนเห็นว่า ปัจจุบันอายุขัยเฉลี่ยของคนไทยและทั่วโลกมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น ทำให้คนหันมาตระหนักถึงคุณภาพชีวิตในวัยหลังเกษียณของตัวเองมากขึ้นว่าจะทำอย่างไรให้เรามีเงินใช้จ่ายอย่างเพียงพอตลอดในช่วงบั้นปลายชีวิต โดยเฉพาะโครงสร้างสังคมปัจจุบันที่ส่วนใหญ่เป็นครอบครัวเดี่ยว หรือไม่มีลูกหลานกันมากขึ้น จึงเป็นโอกาสของอุตสาหกรรมประกันชีวิต ที่จะมีส่วนช่วยและขับเคลื่อนให้ประเทศก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุได้อย่างมีคุณภาพ ผ่านการมอบผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมในเรื่องสุขภาพและการเตรียมความพร้อมสำหรับเกษียณได้ยืนยาวอย่างมีคุณภาพและมีความสุข

“นวัตกรรมทางการแพทย์ทำให้คนมีโอกาสที่จะมีอายุขัยที่ยืนยาวขึ้น ส่งผลให้เทรนด์วางแผนเกษียณและการดูแลสุขภาพได้รับความสนใจมากขึ้น ประกอบกับลูกค้ามีความต้องการความคุ้มครองที่สูงขึ้นและระยะคุ้มครองที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทจึงต้องปรับให้ทันตามเทรนด์และนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงความคุ้มครองและบริการที่จะมอบให้แก่ลูกค้าจะต้องครอบคลุมเทรนด์โรคใหม่ ๆ และเรื่องใหม่อยู่เสมอ อย่างเช่นประกันบำนาญและประกันสุขภาพ ด้วยความคุ้มครองที่ยาวนาน สูงสุดถึงอายุ 99 ปี อีกทั้งยังครอบคลุมกลุ่มลูกค้าในทุกเซกเมนต์ (Segment) และหลากหลายตามความเหมาะสม เพื่อให้ลูกค้าอุ่นใจและไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด เมื่อต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล”

จับมือธนาคารทิสโก้ โปรโมทการวางแผนเกษียณแบบเมกะเทรนด์

นอกจากการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของสังคมผู้สูงอายุแล้ว การร่วมมือกับพันธมิตรก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ลูกค้าเข้าถึงการทำประกันเพื่อวางแผนเกษียณ

“เราสนับสนุนให้คนไทยตระหนักถึงความจำเป็นของการมีประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง และประกันบำนาญเป็นอย่างยิ่ง จึงได้ขยายช่องทางขายไปยังพันธมิตร เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น อย่างเช่นธนาคารทิสโก้ โดยร่วมมือกันให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ลูกค้าในเรื่องการวางแผนเกษียณแบบเมกะเทรนด์ (Megatrends Retirement Planning Advisory) ผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ระหว่างกัน อาทิ Facebook และ YouTube อย่างรายการ BLA Health Channel การจัดสัมมนาแก่ลูกค้าและบุคคลทั่วไป

คุณโชนกล่าวว่า ความร่วมมือกับธนาคารทิสโก้จะช่วยสร้างประโยชน์และมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าของกรุงเทพประกันชีวิต เนื่องจากธนาคารทิสโก้เป็นสถาบันการเงินที่มุ่งเน้นในด้านให้คำปรึกษาการวางแผนการเงินเพื่อการเกษียณ โดยมีความเชี่ยวชาญทั้งในการคัดสรรกองทุนรวมจากหลากหลายบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำ รวมถึงให้คำแนะนำในด้านการวางแผนเพื่อป้องกันความเสี่ยง ทั้งค่าใช้จ่ายในด้านสุขภาพและการสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอหลังการเกษียณอย่างเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย 

ยกตัวอย่างการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ร่วมกับธนาคารทิสโก้ เช่น  TISCO My Care Prestige Health แผนความคุ้มครองสุขภาพที่ครอบคลุมทั่วโลก ให้ความคุ้มครองสูง สามารถเลือกได้ตั้งแต่ 10 - 100 ล้านบาทต่อปี TISCO CI Extra Care ตอบโจทย์ความคุ้มครอง 8 กลุ่มโรคร้ายแรง ครอบคลุมสูงสุดมากถึง 108 โรค TISCO My Wish Retirement ที่สามารถเลือกชำระเบี้ยได้หลายแบบ คุ้มครองถึงอายุ 99 ปี เลือกรับบำนาญได้ทั้งแบบรายเดือนหรือรายปี รับเงินคืนถึง 24% ของทุนประกัน และ TISCO My Wish Easy Health ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่งวางขายกับธนาคารทิสโก้ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยจุดเด่น คือ ครอบคลุมค่าห้องเดี่ยวมาตรฐาน วงเงินค่ารักษาสูงสุด 5 ล้านบาท โดยมีให้เลือกซื้อทั้งแบบมีความรับผิดส่วนแรก (Deductible) และไม่มีความรับผิดส่วนแรก หรือเลือกเป็นค่าชดเชยรายวันได้ในกรณีเป็นผู้ป่วยในแต่ไม่เรียกร้องผลประโยชน์กรณีผู้ป่วยใน

ในฐานะของผู้ประกอบการในธุรกิจประกันชีวิต คุณโชนมีคำแนะนำ 2 ด้าน ที่จะทำให้คนไทยยกระดับคุณภาพชีวิตเมื่อก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ นั่นก็คือ Wealth and Health หรือการสร้างความมั่งคั่งและมั่นคง จะต้องสร้างความสมดุลทั้งสองส่วนอย่างเหมาะสม จึงจะสามารถทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพในช่วงวัยเกษียณที่จะมาถึง ซึ่งประกันบำนาญมีจุดเด่นสำคัญในการลดความเสี่ยงที่ลูกค้าอาจเผชิญในช่วงเกษียณอายุ ทั้งความเสี่ยงจากการลงทุนที่ไม่เป็นไปตามแผนที่คิดไว้ และความเสี่ยงจากการบริหารเงินค่าใช้จ่ายที่ผิดพลาดในช่วงเกษียณทำให้เงินที่มีอยู่หมดไปก่อน เป็นต้น

ไม่เพียงเท่านี้ คุณโชนและกรุงเทพประกันชีวิต ยังบูรณาการความร่วมมือกับหลาย ๆ ภาคส่วน เพื่อช่วยยกระดับงานบริการด้านสาธารณสุข เช่น การพัฒนาระบบการเคลมสินไหมระหว่างโรงพยาบาล เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายกับผู้ถือกรมธรรม์ในการเคลมประกันสุขภาพได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และโครงการความร่วมมือกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เพื่อส่งเสริมการมีสุขภาพที่ดี เป็นต้น นอกจากนี้ ทางกรุงเทพประกันชีวิตยังได้จัดทำโครงการ CSR ต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล และการจัดทำสวนสุขภาพเพื่อให้คนท้องถิ่นได้ตระหนักและเห็นความสำคัญของสุขภาพมากขึ้นอีกด้วย”

file

ชูกลยุทธ์ 5 มิติสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน


คุณโชนกล่าวว่า กรุงเทพประกันชีวิตมุ่งเน้นที่จะสร้างธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการสร้างความสมดุลของมูลค่าธุรกิจใหม่ ๆ ด้วยช่องทางต่าง ๆ พร้อมยกระดับการให้บริการผ่านพนักงานและตัวแทนที่มีคุณภาพ รวมถึงขยายคู่ค้าเพื่อให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งบริษัทได้กำหนดทิศทางการดำเนินธุรกิจสำหรับแผน 3 ปี (2565 - 2567) กับกลยุทธ์หลัก 5 มิติ เพื่อขับเคลื่อนสู่องค์กรแห่งความยั่งยืน ดังนี้

1) มิติด้านสุขภาพ (Excellent Health Services) มุ่งเน้นการให้บริการด้านสุขภาพที่เป็นเลิศ ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของทุกคน ผ่านแผนความคุ้มครองสุขภาพที่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย อาทิ Prestige Health แผนความคุ้มครองทุนประกันสูงสุด 100 ล้านบาท พร้อมคุ้มครองด้านสุขภาพเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า และมีการขายผ่านช่องทางธนาคารทิสโก้ด้วย

ขณะเดียวกัน ยังได้ออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยรับประกันถึงอายุ 80 ปี และรับความคุ้มครองจนถึงอายุ 99 ปี รวมถึงพัฒนาระบบนิเวศด้านสุขภาพ (Health Ecosystem) ด้วย BLA Health Services กับบริการสุขภาพครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น BLA Health Partner ศูนย์บริการข้อมูลสุขภาพ BLA Medivac ความร่วมมือกับพันธมิตรในการให้บริการรถฉุกเฉินทั่วประเทศ BLA Every Care บริการเสริมด้านสุขภาพ และ E-Services

2) มิติด้านความมั่งคั่ง (Wealth) มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการของประชาชนทุกกลุ่ม ด้วยผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่เข้าใจได้ง่าย โดยเฉพาะแบบประกันประเภทสะสมทรัพย์และประกันควบการลงทุน ที่จะช่วยตอบโจทย์การวางแผนชีวิต วางแผนการลงทุน วางแผนการศึกษาบุตร และการวางแผนลดหย่อนภาษี

3) มิติด้านดิจิทัลที่รองรับการก้าวสู่สังคมดิจิทัลในอนาคต (Digital Insurance) โดยทุกกระบวนการรับประกันจะเปลี่ยนไปอยู่ในรูปแบบดิจิทัล ภายใน 4 ปี ตั้งแต่กระบวนการขาย การออกกรมธรรม์ การบริการกรมธรรม์ และการต่ออายุกรมธรรม์ รวมไปถึงการส่งเสริมการใช้งานดิจิทัลสำหรับผู้ถือกรมธรรม์ โดยมีแอปพลิเคชันสำหรับลูกค้า ได้แก่ BLA Happy Life และ Bangkok Life GMC เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าและลดต้นทุนให้ธุรกิจ

“ดิจิทัลจะเป็นความเสี่ยง ถ้าบริษัทไม่มีการปรับตัว แต่หากบริษัทเข้ามาช่วยอย่างถูกวิธีและนำมาใช้ในบริบทต่าง ๆ ที่ไม่ใช่แค่การขายจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้า โดยปัจจุบันช่องทางตัวแทนได้มีการปรับกระบวนการทำงานตั้งแต่การสมัครทำประกัน จนถึงการรับประกันผ่านระบบดิจิทัลแล้ว 95%” คุณโชนเล่า

4) มิติด้านช่องทางการขาย (Channel) มุ่งให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพของช่องทาง และเน้นการขยายช่องทางที่มีคุณภาพเพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและโอกาสทางการตลาด โดยพัฒนาคุณภาพช่องทางตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาทางการเงิน สู่การเป็นผู้บริหารมืออาชีพ ผ่านโครงการ Smart Agent, Smart FA และ Smart Leader โดยมีโครงสร้างแผนรายได้และเครื่องมือสนับสนุนการทำงาน เพื่อให้ทีมขายมุ่งสู่เส้นทางการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนทั้งหมด 13,000 คน โดยเป็นตัวแทนที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน 1,400 คน หรือประมาณ 10% ของตัวแทนทั้งหมด นอกจากนี้ บริษัทยังมีการสร้างความแข็งแกร่งในช่องทางธนาคารและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในด้านความคุ้มครอง และความคุ้มครองสุขภาพแก่ประชาชนทั่วประเทศ

file

5)  มิติด้านความรับผิดชอบต่อสังคมสิ่งแวดล้อม (Social Responsibility) เพื่อขยายบทบาทและหน้าที่ต่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางการเงินเพื่อวางแผนชีวิตให้มั่นคง ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ความต้องการทางสังคม จิตสำนึกการดูแลสิ่งแวดล้อมแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย บริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน โดยยึดหลัก 3 เรื่องคือ Governance (ธรรมาภิบาล) Social (สังคม) Environmental (สิ่งแวดล้อม) หรือ ESG

นอกจากนี้ บริษัทยังได้กำหนดค่านิยมขององค์กรเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจในระยะยาวอย่างยั่งยืน อันดับแรกและเป็นสิ่งสำคัญคือ เรื่องของความศรัทธา ตามมาด้วยความรับผิดชอบ ความจริงใจ การพัฒนาตน และการทำงานเป็นทีม

“กรุงเทพประกันชีวิตต้องการให้ประชาชนเห็นถึงประโยชน์ของการทำประกันชีวิต ที่เหมาะสมกับฐานะทางการเงินและคุณค่าของชีวิต โดยเน้นสร้างความตระหนักและเห็นประโยชน์ของการทำประกันชีวิตให้ประชาชนทุกกลุ่ม ผ่านการขยายช่องทางการขาย และการมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อเสริมสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงให้กับคนไทยในระยะยาว” คุณโชนกล่าวทิ้งท้าย