ประกันสุขภาพการันตีต่ออายุ คุ้ม อุ่นใจ ไร้กังวล

file

หลักในการเลือกประกันสุขภาพที่เราคุ้นเคย ได้แก่ เบี้ยประกัน ความคุ้มครอง และความเสี่ยงส่วนตัว แต่สิ่งหนึ่งที่มักถูกละเลยและนับว่าสำคัญมาก คือ การรับต่ออายุความคุ้มครองของบริษัทประกัน

การทำประกันสุขภาพที่รับรองหรือการันตีการต่ออายุความคุ้มครองเท่ากับเป็นหลักประกันว่า ในปีต่อๆ ไปเราจะยังได้รับความคุ้มครองจากบริษัทประกันอยู่ หากเรามีการจ่ายเบี้ยต่อเนื่อง แม้ว่าเรามีการเบิกเคลมค่ารักษาในปีที่ผ่านมาแล้วก็ตาม ในขณะที่บริษัทประกันที่ไม่มีการการันตีต่ออายุมีโอกาสปฏิเสธการต่ออายุได้มากกว่า หากมีการเบิกเคลมในจำนวนเงินที่ค่อนข้างสูง หรือมีความถี่ในการเบิกเคลมค่ารักษาที่ค่อนข้างมาก เนื่องจากบริษัทประกันมองว่าผู้เอาประกันมีโอกาสเจ็บป่วยสูงขึ้น และบริษัทประกันอาจไม่คุ้มกับค่าเบี้ยที่จะได้รับจากผู้ทำประกัน

กรณีการถูกปฏิเสธการต่ออายุประกันสุขภาพเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยของผู้ทำประกัน เนื่องจากเมื่อบริษัทประกันเดิมไม่รับต่ออายุความคุ้มครอง ผู้ทำประกันสุขภาพต้องหาประกันสุขภาพใหม่ ซึ่งส่วนมากบริษัทประกันมักไม่รับทำประกันหรือยกเว้นการคุ้มครองในโรคที่ผู้ทำประกันมีประวัติความเจ็บป่วยมาก่อนแล้ว และอาจต้องตรวจสุขภาพใหม่ ซึ่งบางแห่งเพียงแค่ผลตรวจสุขภาพของผู้ต้องการทำประกันแสดงผลออกมาว่ามีปัญหาในเรื่องความดัน หรือปัจจัยด้านสุขภาพอื่นๆ ก็อาจเป็นสาเหตุให้บริษัทประกันไม่รับคุ้มครองแล้ว การหาประกันสุขภาพใหม่หลังจากโดนปฏิเสธการต่ออายุจากบริษัทประกันเดิมจึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ดังนั้น การเลือกทำประกันสุขภาพกับบริษัทที่การันตีต่ออายุความคุ้มครองจึงนับเป็นหลักสำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณาทำประกันสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม ยังมีความเข้าใจผิดอยู่มากว่าการซื้อประกันสุขภาพพ่วงกับประกันชีวิตจะทำให้ได้รับความคุ้มครองในระยะยาวเท่ากับประกันชีวิตที่ทำคู่กัน ผู้ทำประกันมักมีความเชื่อว่าบริษัทประกันจะไม่ปฏิเสธการต่ออายุประกันสุขภาพพ่วงอย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ถูกต้องนัก บริษัทประกันชีวิตสามารถปฏิเสธการต่ออายุประกันสุขภาพที่ทำพ่วงกับประกันชีวิตได้เหมือนกับการทำประกันสุขภาพทั่วไป หากบริษัทประกันพิจารณาแล้วเห็นว่าการรับคุ้มครองประกันสุขภาพต่อไปจะไม่คุ้มต่อค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่ผู้ทำประกันชำระ ยิ่งไปกว่านั้นประกันสุขภาพพ่วงประกันชีวิตมักมีค่าเบี้ยที่สูงกว่าการทำประกันสุขภาพอย่างเดียว หากผู้ทำประกันไม่ได้มีวัตถุประสงค์หลักที่ต้องการความคุ้มครองจากประกันชีวิต การทำประกันสุขภาพพ่วงประกันชีวิตเพียงเพื่อให้อุ่นใจว่าจะได้รับต่ออายุความคุ้มครองอย่างต่อเนื่องจากความเข้าใจผิดจะทำให้เราต้องจ่ายค่าเบี้ยในอัตราที่สูงเกินไปโดยใช่เหตุ

ปัจจุบัน บริษัทประกันบางบริษัทมีการการันตีต่ออายุความคุ้มครองประกันสุขภาพให้กับผู้เอาประกันแล้ว โดยอาจมีเงื่อนไขคือผู้เอาประกันจะต้องมีการทำประกันสุขภาพกับบริษัทมาก่อนช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น บริษัทประกันรับต่ออายุความคุ้มครองถึงอายุ 80 ปี โดยมีเงื่อนไขว่าผู้เอาประกันจะต้องมีการทำประกันในช่วงอายุก่อน 60 ปี ซึ่งโดยทั่วไปคนเราพอเข้าสู่ช่วงอายุ 60 ปีขึ้นไปมักจะมีความเจ็บป่วยบ้างจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับภาวะสุขภาพของแต่ละคน และทำให้ต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในด้านการรักษาพยาบาลที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงค่ายาที่อาจต้องรับประทานอย่างต่อเนื่อง การทำประกันสุขภาพไว้ตั้งแต่ช่วงอายุที่ยังมีความเสี่ยงในด้านสุขภาพไม่สูงมากกับบริษัทประกันที่รับการันตีการต่ออายุความคุ้มครองจึงเท่ากับเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในด้านสุขภาพในอนาคตได้เป็นอย่างดี แม้จะต้องจ่ายค่าเบี้ยในระยะเวลาหนึ่งมาก่อนก็ตาม ทั้งนี้ เบี้ยประกันสุขภาพส่วนมากมักอยู่ในหลักหมื่นและอยู่ในระดับที่เราพอคาดการณ์และวางแผนการจ่ายเบี้ยได้ ในขณะที่ค่ารักษาพยาบาลต่อครั้งอาจพุ่งขึ้นไปเป็นหลักแสนหรือมากกว่านั้นก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่จะคาดเดาและควบคุมได้ยากกว่า

ดังนั้น การทำประกันสุขภาพกับบริษัทประกันที่รับการันตีการต่ออายุความคุ้มครองตั้งแต่ในช่วงที่ยังไม่อยู่ในวัยที่มีภาวะเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจึงเท่ากับเป็นการสร้างหลักประกันว่า เมื่อถึงวัยที่จำเป็นต้องเบิกเคลมค่ารักษาพยาบาลแล้ว เราจะสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี

================================================

เผยแพร่ครั้งแรกในบทความ Health is Wealth กรุงเทพธุรกิจ

บทความล่าสุด

ปรับพอร์ตอย่างไรในช่วงเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว 

โพสต์เมื่อ 27 กรกฎาคม 2567

การปรับพอร์ตการลงทุนตามสถานการณ์เศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้พอร์ตการลงทุนมีความยืดหยุ่นและสามารถรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจได้ดีขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นด้วย โดยมีวิธีปรับตามการวิเคราะห์วงจรเศรษฐกิจ 4 ช่วง

อ่านต่อ >>

ถึงเวลาเพิ่มน้ำหนักหุ้น รับเศรษฐกิจฟื้นตัว

โพสต์เมื่อ 27 กรกฎาคม 2567

เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ช่วงของการฟื้นตัว ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายเริ่มกลับทิศเป็นขาลงภายใต้สถานการณ์นี้ เป็นช่วงที่เหมาะกับการลงทุนใน “หุ้น” ที่สุด

อ่านต่อ >>

3 กลยุทธ์ปรับพอร์ต ก่อนเลือกตั้งสหรัฐฯ

โพสต์เมื่อ 27 กรกฎาคม 2567

ปัจจัยที่นักลงทุนทั่วโลกจับตามองมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการเลือกตั้งสหรัฐฯที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. นี้ ซึ่งจะเป็นการ Rematch ระหว่าง Donald Trump กับ Joe Biden และถือเป็นอีกครั้งในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯนับตั้งแต่ปี 1956 ที่ผู้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้งคู่ต่างเป็น “อดีตประธานาธิบดี”

อ่านต่อ >>