อมร ทองธิว ปักธงพา “วิริยะประกันภัย” เป็นองค์กรยั่งยืน

นิตยสาร Trust ฉบับที่ 69 | คอลัมน์ New Generation

file


ความผันผวนจากหลากหลายสถานการณ์ที่โลกยุคปัจจุบันกำลังเผชิญ กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อทุกวงการธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมประกันภัย ทว่าวิริยะประกันภัยก็ยังครองความเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยหลักการและคุณภาพที่ยึดถือมาตลอดระยะเวลา 77 ปี และยิ่งเป็นที่น่าจับตามองเมื่อมีการส่งไม้ต่อให้ทายาทรุ่นที่ 3 อย่างคุณอมร ทองธิว ที่ก้าวขึ้นรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ภายใต้การบริหารงานด้วยความเชื่อมั่นในการทำธุรกิจที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม หวังยืนระยะรักษาความเป็นเบอร์หนึ่งตลอดกาล พร้อมมุ่งหน้าก้าวสู่เป้าหมายใหญ่ในการเป็นองค์กรที่ยั่งยืนไปถึงร้อยปีพันปี  

ทิศทางธุรกิจประกันภัยในโลกยุคใหม่ 

    ธุรกิจประกันภัยเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โลกปัจจุบันที่มีความไม่แน่นอนสูง ทั้งเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี” กรรมการผู้จัดการวิริยะประกันภัย เริ่มต้นบทสนทนาด้วยการมองเทรนด์ธุรกิจก่อนพลิกให้เห็นเหรียญอีกด้านว่าภายใต้ความเสี่ยงนั้น เป็นโอกาสในการเติบโตด้วยเช่นกัน

    “ดังนั้น ทางบริษัทประกันวินาศภัยเองก็ต้องเตรียมพร้อมในการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้ข้อมูลที่มีอยู่ การคิดคำนวณที่แม่นยำ การบริหารจัดการความเสี่ยง การทำสินไหมทดแทนเพื่อตอบรับกับความเสี่ยงที่มากยิ่งขึ้น  ต้องอาศัยการพัฒนาในทุก ๆ ด้านตลอดเวลา ทั้งคน เครือข่าย และเทคโนโลยี นอกจากนั้นยังจำเป็นจะต้องร่วมมือกับพันธมิตรให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เวลาเกิดปัญหาอะไรก็จะส่งเสริมช่วยเหลือกันได้”

ครองเบอร์หนึ่งตลาดธุรกิจประกันภัยด้วยหัวใจบริการ

    วิริยะประกันภัยถือเป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่คนไทยคุ้นเคยและยืนหนึ่งในตลาดประกันภัยมาเนิ่นนาน ล่วงเข้าปีที่ 77 นี้แล้ว มีผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้า  ยืนยันด้วยผลดำเนินงานเมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังครองส่วนแบ่งการตลาดประกันวินาศภัย อันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 31 (2535-2566) โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 14% เช่นเดียวกับตลาดประกันภัยรถยนต์ วิริยะประกันภัย ยังครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 36 (2530-2566)  โดยมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 22%  ซึ่งกุญแจสำคัญที่ทำให้ครองความเป็นหนึ่งได้อย่างยาวนานเช่นนี้ ได้รับคำยืนยันจากกรรมการผู้จัดการว่าเป็นเพราะใส่หัวใจลงไปในงานบริการ

    “วิริยะประกันภัยยังคงมุ่งเน้นที่จะเป็นหลักประกันความเสี่ยงให้กับสังคมด้วยความเป็นธรรมตามนโยบายหลักของเรา และเรายังตั้งเป้าทำงานบริการให้ดีมาตั้งแต่ต้น ปัจจุบันวิริยะประกันภัยมีศูนย์สาขากระจายทั่วประเทศมากถึง 150 กว่าแห่ง มีพนักงานเคลมที่ดูแลบริการด้านสินไหมทดแทนประมาณ 2,000 คน เพราะต้องการเน้นงานบริการ เกิดเหตุที่ไหนเครือข่ายต้องรองรับได้ จะไปตั้งจุดรอตรวจสอบอุบัติเหตุเพิ่มตรงจุดเกิดเหตุเยอะๆ เพื่อที่จะให้บริการได้อย่างทั่วถึงครบทุกผลิตภัณฑ์   

    “หากมีเทคโนโลยีอะไรใหม่ ๆ เราจะนำมาใช้ในการเสริมงานบริการ ทำให้มั่นใจว่าพร้อมกับการปรับเปลี่ยนของทุกสถานการณ์ ยกตัวอย่างเช่น บริการ VClaim on VCall สำหรับรถยนต์ สามารถทำเคลมออนไลน์ผ่านวิดีโอคอลได้เลย ในช่วงวิกฤต COVID-19 บริการนี้เป็น[นส2] ที่นิยมมาก นอกจากนี้ยังมีการนำ AI เข้ามาช่วยตรวจสอบสภาพรถยนต์ก่อนการรับประกันภัยผ่านระบบ V-Inspection  ส่วนผลิตภัณฑ์เด่นในตอนนี้ยังคงเน้นงาน Personal Line การขายประกันสำหรับรายบุคคล ทางด้าน Motor เราเพิ่งซอฟต์ลอนช์ PayLite : จ่ายเท่าที่ขับ ส่วนอีกประเภทเป็น 2+ Good Drive คืนเบี้ยให้ถึง 30% ตอนจบความคุ้มครองหากไม่เกิดอุบัติเหตุหรือเป็นฝ่ายผิด ส่วนฝั่ง Non-Motor มีการคิดผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบสนองแนวคิด ESG Responsibilities ในรูปแบบ Green Insurance เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”

file

“วิริยะประกันภัย” ภายใต้การบริหารของทายาทรุ่น 3 

    หลังจากใช้เวลาอยู่หลายปีกับการดูแลงานในฐานะรองกรรมการผู้จัดการ นับตั้งแต่วันที่ตัดสินใจเข้ามาช่วยธุรกิจครอบครัวที่มีคุณตาเล็ก วิริยะพันธุ์ เป็นผู้ก่อตั้ง และมีคุณแม่สุวพร ทองธิว ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ช่วงเวลาปีเศษที่ทายาทรุ่นที่ 3 อย่างคุณอมร ทองธิว ก้าวขึ้นรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ จึงไม่ใช่การเข้ามาแบบ “มือใหม่” หากแต่มาพร้อมความคุ้นเคยและความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้น    

    วิริยะประกันภัยค่อนข้างมีคนทำงานหลากหลายเจเนอเรชันทำให้มีส่วนผสมของประสบการณ์ที่มากมายทั้งทางผู้บริหารเดิม ซึ่งมีความชำนาญด้วยประสบการณ์เป็นจุดแข็งมาผสมผสานกับคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะมีเรี่ยวแรง มีมุมมองใหม่ ๆ กว้างขวาง  ส่วนตัวผมเองก็เข้ามาเสริมทีมให้แข็งแกร่งในการนำข้อมูลที่มีมากมายอยู่แล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดยิ่งขึ้น

    “ในการบริหารงานบริหารคน ผมเองก็อยากใช้กุศโลบายเดียวกับคุณแม่ หรือท่านประธานกรรมการ ที่ให้โอกาสและให้อิสระในการทำงานเต็มที่กับทุก ๆ เรื่องภายใต้การต้องพูดคุยกัน ผมจะลงไปคอยติดตามให้เป็นไปตามแผน ถ้าส่วนไหนติดขัดก็ตเป็นหน้าที่ผมที่จะต้องมาคุย แล้วหาโซลูชันไปด้วยกัน ผมมีความเชื่อว่าการทำงานต้องสนุกและมีแพสชัน ต้องมีอิสระในการที่จะแสดงความคิด จะยิ่งทำให้บรรยากาศการทำงานดี แล้วผลงานก็จะออกมาดี

    แม้ไม่ได้วาดฝันไว้ตั้งแต่ต้นว่าจะต้องเข้ามาสานต่อกิจการครอบครัว แต่ด้วยความเคยคุ้นและเห็นการอุทิศตนเพื่องานมาตั้งแต่เด็กทำให้ไม่ลังเลรับคำเมื่อผู้เป็นมารดาต้องการคนมาช่วยงาน ประกอบกับภูมิหลังด้านการศึกษาที่จบด้านเศรษฐศาสตร์การเงิน ทั้งระดับปริญญาตรี (คณะเศรษฐศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ จุฬาฯ) และปริญญาโท (London School of Economics and Political Sciences) จึงยิ่งต่อยอดความสนใจและงานเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว พร้อมสานต่อปณิธานที่ผู้ก่อตั้งวางไว้ นั่นคือ “ทำธุรกิจเพื่อสังคมที่ดีกว่า ไม่ใช่เพื่อหวังประโยชน์ส่วนตนโดยไม่สนใจผลกระทบต่อสังคม ธุรกิจที่ดีต้องมีกำไร แต่ต้องมีขอบเขต มีคุณธรรม เกิดประโยชน์ และไม่เอารัดเอาเปรียบกัน

    ผมตีความว่าการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมก็คือการทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี และโดยส่วนตัวมองว่าอาชีพประกันวินาศภัยเป็นอาชีพหนึ่งที่มีประโยชน์ เพราะเราได้บรรเทาความเสียหายกับทางผู้ประสบภัย นอกจากนี้ก็ยังต้องเป็นหลักประกันที่ดี สร้างความมั่นคงน่าเชื่อถือกับสังคม เป็นอาชีพที่มีเกียรติแล้วก็มีประโยชน์กับคนทั่วไปและสังคมด้วย ก็เลยชอบงานนี้ครับ (ยิ้ม)”  

file

 ความท้าทายยืนระยะรักษาความเป็นหนึ่งตลอดกาล

    “อุปสรรคความท้าทายมากที่สุดคงเป็นเรื่องของความผันผวนไม่แน่นอนจากสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือกันและพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง”

    และหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินคาดหมายและต้องเตรียมตั้งรับให้ทันท่วงที คือการมาถึงของรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV (Electric Vehicle)  “มั่นใจว่าด้วยข้อมูลที่มีอยู่ เราสามารถเสนอเบี้ยประกันและความคุ้มครองที่เหมาะสมให้กับผู้ใช้รถ EV ได้  วิริยะประกันภัยพร้อมที่จะรับประกันเต็มที่ 

    “อีกจุดหนึ่งที่ท้าทายสำหรับงานด้านบริการคงจะต้องเท้าความกลับไปถึงช่วงระบาดของ COVID-19 จะเห็นว่าวิริยะประกันภัยเป็นบริษัทที่ไม่ประสบปัญหาคนร้องเรียนว่าเบิกเงินไม่ได้หรือเบิกช้า เพราะเราวางนโยบายไปเลยว่าต้องรีบจ่ายเงินประกันให้ได้เร็วและทั่วประเทศ ยอมรับว่าวิกฤตนั้นส่งผลกระทบต่อกองทุนของบริษัทส่วนหนึ่ง แต่ก็ถือเป็น Lesson Learned ที่ช่วยตอกย้ำว่าการสำรองความเสี่ยงภัยอย่างถูกต้องตามหลักการและเพียงพอจะช่วยรองรับความเสี่ยงภัยให้บริษัทสามารถผ่านพ้นวิกฤตได้ทุกสถานการณ์ครับ”     

ก้าวสู่ฝันใหญ่ พา “วิริยะประกันภัย” ไปเป็นองค์กรเกินร้อยปี

    “อยากจะให้วิริยะประกันภัยเป็นองค์กรที่อยู่ไปร้อยปีพันปีให้ได้” คุณอมรประกาศเป้าหมายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลที่สวนทางกับแววตามุ่งมั่น อย่างไรก็ตาม การเดินทางไปสู่ปลายทางที่ฝันไว้ได้สำเร็จ นอกจากจะต้องยืนหยัดในหลักการของวิริยะประกันภัยที่ประสบความสำเร็จในด้านการบริการแล้ว ยังต้องมองไปถึงเรื่องของการสั่งสมและถ่ายทอดองค์ความรู้ เป็นโจทย์สำคัญที่ต้องฝากไว้กับคนทำงาน ซึ่งปัจจุบันมีพนักงานอยู่กว่า 6,700 คน ทั่วประเทศ 

    “ในช่วงประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา จึงได้จัดตั้งหน่วยงานกลางรับผิดชอบเฉพาะกิจขึ้นมาเพื่อให้ความสำคัญกับการเก็บรวบรวมองค์ความรู้เหล่านี้ไปใช้ในการเทรนนิ่ง ไปทดสอบกับบุคลากรใหม่ ๆ พยายามจัดระบบระเบียบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าความรู้ความสามารถเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดไปจากรุ่นสู่รุ่นได้

    “สำหรับเป้าหมายส่วนตัวชองผมเอง พอมาอยู่ตรงนี้แล้วก็คงต้องทำหน้าที่ตัวเองให้ดี อยากทำวิริยะประกันภัยให้มั่นคงยั่งยืน  จึงตั้งเป้าไว้ว่าอนาคตจะต้องทำให้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายพัฒนาตัวเองไปได้เรื่อย ๆ ครับ”     

file