

เบื้องหลัง “กองทุนยอดเยี่ยม” บลจ.ทิสโก้
นิตยสาร Trust ฉบับที่ 54 | คอลัมน์ Exclusive
กลางเดือน ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด ได้รับรางวัล “กองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2020” ประเภทตราสารทุนทั่วไป จากความสำเร็จในการบริหารจัดการ กองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ (TSF) จากเวที Money & Baking Awards 2020 ซึ่งจัดโดยวารสารการเงินธนาคาร
นี่ไม่ใช่รางวัลแรกและรางวัลเดียวที่ บลจ.ทิสโก้ ได้รับในปีนี้ ซึ่งตลอด 28 ปีของการดำเนินงาน บลจ.ทิสโก้ เป็นที่รู้จักในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุนรวมใหม่ๆ ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์การลงทุนที่น่าสนใจ และสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่น เป็นที่ยอมรับในหลายเวที คุณภาวิณี องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ทิสโก้ จะมาเล่าเบื้องหลังความสำเร็จให้ฟัง
เบื้องหลัง “กองทุนยอดเยี่ยม” คือ การทำงานอย่างมืออาชีพ
“รางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2020 ถือเป็นกำลังใจให้กับทีมผู้จัดการกองทุน (Fund Manager) ของเรา เพราะกว่าที่จะพัฒนากองทุนที่มีผลตอบแทนที่ดีออกมาอย่างต่อเนื่อง เราต้องใช้ประสบการณ์ และเวลาค่อนข้างมากในการวิเคราะห์เลือกหุ้น พร้อมกับทุ่มเทเวลาสร้างทีม Fund Manager อยู่หลายปีกว่าจะเป็นทีมที่เก่งได้แบบทุกวันนี้” คุณภาวิณี กล่าว
สำหรับจุดเด่นของกองทุนเปิด ทิสโก้ สแตรทิจิก ฟันด์ (TSF) ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ เป็นกองทุนที่มีนโยบายเน้นการลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มั่นคง และมีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจที่ดี โดยแนวคิดในการเลือกหุ้นมาจาก “ไอเดียที่ดีที่สุด” จากนั้นจึงวิเคราะห์คัดสรรจนเหลือหุ้นที่จะลงทุนเพียง 10-15 ตัว และอีกกุญแจความสำเร็จคือความตื่นตัวในการปรับเปลี่ยนหุ้นให้เท่าทันกับการเปลี่ยนไปของกิจการ และเหมาะสมกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
จากปัจจัยสำคัญดังกล่าวทำให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปีของกองทุน TSF เฉลี่ยสูงกว่า 11% ต่อปี (ข้อมูล ณ 31 ก.ค. 2563) ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่ดีที่สุดในตลาดสำหรับกองทุนหุ้นทั่วไป ขณะที่ดัชนีผลตอบแทนรวม (SETTRI) ย้อนหลัง 3 ปี ติดลบเฉลี่ยกว่า 2% ต่อปี นั่นแปลว่ากองทุน TSF ให้ผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Alpha) สูงกว่า SETTRI ถึงกว่า 12% และยังได้รับการการันตีด้วย Morningstar Thailand ระดับ 5 ดาว สิ่งเหล่านี้ เป็นจุดเด่นให้กองทุน TSF คว้ารางวัลกองทุนยอดเยี่ยมประจำปี

ประสบการณ์ยาวนานใน Active Fund คือจุดแข็งสำคัญ
ช่วงต้นปี 2563 บลจ.ทิสโก้ ยังได้รับรางวัลกองทุนตราสารทุนยอดเยี่ยม ประเภทกองทุนหุ้นขนาดกลางและเล็ก จากความโดดเด่นของกองทุนเปิด ทิสโก้ Mid/Small Cap อิควิตี้ (TISCOMS) ในเวที Morningstar Fund Awards 2020 และรางวัล Pension Fund Provider of The Year Thailand 2020 จากสื่อระดับโลกอย่าง Global Banking and Finance Review เนื่องด้วยความสามารถในการบริหารผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอให้กับสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
คุณภาวิณี เล่าว่า บลจ.ทิสโก้ เน้นลงทุนในตราสารหุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศมาเป็นระยะเวลานาน แม้จะเป็นสินทรัพย์ความเสี่ยงสูง แต่ก็มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่นั้นเป็นลูกค้าเวลธ์ (Wealth) สามารถยอมรับความเสี่ยงที่สูงได้ และมักมีความชื่นชอบสินค้าที่มี “ความยาก” ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ซึ่งนั่นหมายถึง กระบวนการทำงานที่ยากและท้าทายขึ้นเช่นกัน นี่จึงทำให้ บลจ.ทิสโก้ เน้นผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่มีการบริหารแบบเชิงรุก (Active Fund)
“ในยามที่เศรษฐกิจดี ลงทุนกองทุนอะไรก็มักจะดีไปหมด ทำให้แยกออกได้ยากว่าใครเก่งหรือไม่เก่ง แต่ในภาวะที่เศรษฐกิจผันผวนสูง การลงทุนในกองทุนที่เป็น Active Fund จะโดดเด่นขึ้นมา เพราะเป็นกองทุนที่ผู้จัดการกองทุนจะต้องพยายามหากลยุทธ์ที่สร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Alpha) สูง โดยคำนึงถึงคาดการณ์ผลตอบแทนภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม (Risk-adjusted Return) เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีต่อเนื่องในระยะปานกลางถึงระยะยาว”
“สร้างสมดุล-เชี่ยวชาญ-ทุ่มเท-แอคทีฟ” หัวใจความสำเร็จ
“ความยากของการเป็น Active Fund คือ ต้องทุ่มเทเวลาไปกับการติดตามข้อมูลและเทรนด์จากทั่วโลกเพื่อหาธีมและเลือกหุ้นที่มีอนาคต เช่น การไปเยี่ยมชมพูดคุยกับผู้บริหารบริษัทที่เราสนใจลงทุน (Company Visit) อ่านข้อมูลและบทวิเคราะห์กิจการจากทั่วโลก ไปจนถึงการหาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Master-feeder Fund ที่ต้องการลงทุน ฯลฯ กระบวนการเหล่านี้ไม่เพียงต้องใช้เวลาเพื่อความรู้ลึก รู้จริง แต่ต้องติดตามข้อมูลอัพเดตอย่างต่อเนื่อง”
คุณภาวิณี มองว่า พนักงานส่วนใหญ่อยู่กันมานาน โดยเฉพาะทีมที่ดูแลด้านการลงทุน (Investment) และทีมที่ดูแลลูกค้าเวลธ์ (Wealth)ทำให้เข้าใจในความต้องการของลูกค้า เข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ค่อนข้างลึกซึ้ง และเกิดความเชี่ยวชาญ เมื่อบวกกับองค์ความรู้ (Know-how) ฐานข้อมูล และบทวิเคราะห์ที่บริษัทสั่งสมมานาน เวลาที่เกิดความเปลี่ยนแปลงใดที่อาจกระทบกับกองทุน ทีมงานจึงสามารถวิเคราะห์และปรับพอร์ตกองทุนได้อย่างเท่าทัน ส่งผลให้เกิดความสม่ำเสมอในผลการดำเนินงาน
เธอย้ำว่า กระบวนการทำงานทั้งหมดล้วนมุ่งตอบสนองปรัชญาในการบริหารกองทุนของ บลจ.ทิสโก้ ซึ่งมีหลักการสำคัญ ได้แก่ การสร้างสมดุล (Balance) ของพอร์ตการลงทุนทั้งในเรื่องของการเลือกหุ้น การบริหารความเสี่ยงการประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation) และการหาจังหวะในการลงทุน เพื่อนำไปสู่ผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ “ความเชี่ยวชาญ ความทุ่มเท ความแอคทีฟ (Activeness) ถือเป็นหัวใจความสำเร็จอีกข้อของเรา ทีมของเราต้องแอคทีฟตั้งแต่การเลือกหุ้นไปจนถึงการบริหารจัดการพอร์ตลงทุน เพื่อให้ผลตอบแทนดีต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ทำให้ผลการดำเนินงาน ถ้าไม่ติด TOP 3 ก็ต้องอยู่ใน 1st Quartier นอกจากนี้ เรายัง “โปรแอคทีฟ (Proactive)” ในการแนะนำลูกค้าให้ปรับเปลี่ยนพอร์ตล่วงหน้าก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้คือความโดดเด่นที่ต่างจากที่อื่น”
ซีอีโอหญิงกล่าวว่า กระบวนการทำงานเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่หนักมากหากทีมงานที่ไม่มีใจรัก (Passion) ในการทำงาน แต่สำหรับทีมงานของ บลจ.ทิสโก้ เธอเชื่อว่า ทุกคนมี Passion และจุดมุ่งหมายเดียวกัน นั่นคือ การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดเพื่อให้ลูกค้าได้รับผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องในระยะยาว

กองทุน Megatrends ตัวอย่างผลงานแห่งความทุ่มเท
“การลงทุนปีนี้ พิสูจน์ได้ว่า ประสบการณ์และความรอบรู้ของ Fund Manager มีค่ามากในการบริหารกองทุน จะเห็นว่าการเลือกหุ้นแบบ General Equity ไม่ชนะ เพราะต้องเจาะจงเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม หรือเลือกหุ้นรายตัว โดยตั้งแต่ปีที่แล้ว เราเริ่มออกกองทุน Megatrends หุ้นต่างประเทศ แบบเจาะจงลงลึกในอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตสูง และวิกฤต COVID-19 ที่เข้ามาก็ยิ่งตอกย้ำว่า เราเลือกถูก เพราะวันนี้ กองทุน Megatrends ของเราดีดกลับมาสูงกว่าก่อนวิกฤตแล้ว”
ช่วง 1-2 ปีนี้ บลจ.ทิสโก้ ออกกองทุนใหม่ที่มุ่งลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับนวัตกรรมในหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลบอล ดิจิตอล เฮลธ์ อิควิตี้ (TGHDIGI) กองทุนเปิด ทิสโก้ ไบโอเทคโนโลยี เฮลธ์แคร์ (TBIOTECH) กองทุนเปิด ทิสโก้ Cloud Computing อิควิตี้ (TCLOUD) และล่าสุด กองทุนเปิด ทิสโก้ Next Generation Internet (TNEXTGEN) ทำให้หลายคนมอง บลจ.ทิสโก้เป็น “ผู้นำ” ในการบริหารกองทุนเกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีไปแล้ว
คุณภาวิณี มองว่า เหตุที่ บลจ.ทิสโก้ ได้รับยกย่องเช่นนั้น มาจากการ “ทำการบ้าน” อย่างหนักไม่ต่ำกว่า 3 เดือน กว่าที่แต่ละกองทุนจะถูกพัฒนาออกมา บวกกับความทุ่มเทและแอคทีฟในการบริหารกอง ทำให้แต่ละกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ค่อนข้างดี การศึกษาอย่างหนักทำให้ทีมงานมีความเข้าใจค่อนข้างลึกซึ้ง จึงอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่าย อีกทั้ง บริษัทยังให้ความสำคัญกับการสื่อสารข้อมูล “กองทุนแปลกใหม่” ผ่านงานสัมมนาและสื่อช่องทางต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจสิ่งที่จะลงทุนอย่างถูกต้อง
สุดท้ายนี้ คุณภาวิณี ให้คำแนะนำว่า วิกฤต COVID-19 ไม่เพียงทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวยาวนาน ยังทำให้หลายธุรกิจต้องปรับโมเดลธุรกิจ นักลงทุนจำเป็นต้องใช้ทักษะ ความรู้ และความตื่นตัว ในการติดตามวิเคราะห์หาว่ากลุ่มไหนที่จะโตได้ดี กลุ่มไหนที่จะเริ่ม “ฟื้นตัว” และจะกลับมาเมื่อไหร่ ฯลฯ แล้วรีบเข้าไปศึกษาพร้อมกับจับจังหวะลงทุนก่อนจะ “ตกรถ”“การลงทุนใน 1-2 ปีข้างหน้าไม่ง่าย เพราะสภาวะตลาดจะยัง “อึมครึม” ไปอีกระยะหนึ่ง ถ้าไม่รู้จะลงทุนอะไร คำแนะนำง่ายๆ คือ เลือกกองทุนที่เน้นบริหารเชิงรุก ซึ่ง บลจ.ทิสโก้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะเรามีประสบการณ์เป็น Active Fund มานาน ฉะนั้น ถ้าคุณไม่อยากติดตามข้อมูลข่าวสารเอง ก็วางใจให้เราช่วยทำงานส่วนนี้ได้” ซีอีโอหญิงทิ้งท้าย