From Ice Bath to Wim Hof Method จากภูมิปัญญาโบราณ ‘แช่น้ำแข็ง’ สู่ศาสตร์การบำบัดวิถี วิม ฮอฟ
นิตยสาร Trust ฉบับที่ 71 | คอลัมน์ Exclusive Health

การบำบัดด้วยการแช่น้ำแข็งหรือไอซ์บาธ (Ice Bath) ซึ่งกำลังเป็นที่นิยม ไม่ใช่เรื่องใหม่ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณราว 3,500 ปีก่อนคริสตกาล มีบันทึกการใช้ความเย็นเพื่อบำบัดอาการต่าง ๆ ไว้ในตำราการแพทย์ (Edwin Smith Papyrus) ต่อมาในยุคกรีกโบราณ ฮิปโปเครติส (Hippocrates) บิดาแห่งการแพทย์ ได้นำความเย็นมาใช้รักษาไข้สูงและห้ามเลือด จนกระทั่งในศตวรรษที่ 18-19 การแช่น้ำเย็นก็ถูกจัดให้เป็นวิธีการรักษาที่แพร่หลายในโรงพยาบาลและสถานพยาบาล
จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์พบว่า ‘การแช่น้ำแข็ง’ ไม่เพียงช่วยในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและลดอาการปวดเมื่อยหลังออกกำลังกาย แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพองค์รวม เหตุนี้ในยุคปัจจุบันจึงได้กลายเป็นกิจกรรมที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ป่วยหรือนักกีฬาอีกต่อไป แต่ไอซ์บาธมีให้บริการตามที่ต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นยิม สปา และรีสอร์ทต่าง ๆ
ท่ามกลางกระแสความนิยมการแช่น้ำแข็งในทั่วโลก ครั้งหนึ่ง ‘วิม ฮอฟ (Wim Hof)’ ผู้เป็นนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมชาวดัตช์ก็ได้พัฒนาวิธีการแช่น้ำแข็งผสานการหายใจและการฝึกจิตใจเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ ที่กลายเป็นวิถีเฉพาะและได้รับการยอมรับระดับโลก วันนี้ Exclusive Health พาไปทำความรู้จักกับศาสตร์นี้ ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการการบำบัด รวมทั้งฝึกร่างกายและจิตใจในรูปแบบใหม่ ๆ
ศาสตร์แห่งพลังภายใน ช่วยเสริมสุขภาพแบบองค์รวม
วิม ฮอฟ (Wim Hof) มีสมญานามว่ามนุษย์น้ำแข็ง (The Ice Man) เขาค้นพบศักยภาพของร่างกายตนเองพร้อมความรู้สึกสดชื่นซึ่งไม่เคยรู้สึกมาก่อน จากการแช่น้ำเย็นจัดที่อุณหภูมิ 0 องศา สิ่งนี้นำไปสู่การพัฒนาเทคนิคการหายใจแบบเฉพาะ จนกลายเป็นวิธีการที่ได้รับการยอมรับผ่านบทพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ และสร้างสถิติระดับโลก (Guinness World Records) เกี่ยวกับสมรรถภาพทางร่างกายที่ทนต่อสภาวะความเย็นมากมายหลายรายการ โดยคุณฮอฟบอกว่า
‘สิ่งต่าง ๆ ที่เขาทำได้ไม่ใช่เพราะเขามีร่างกายที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ แต่เกิดจากการฝึกอย่างต่อเนื่อง หากเขาทำได้ทุกคนย่อมทำได้ เมื่อได้รับการฝึกฝนอย่างถูกวิธี’ และนั่นทำให้ ‘วิธีการแบบวิม ฮอฟ’ หรือ ‘Wim Hof Method’ เกิดขึ้น เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ที่สั่งสมจากประสบการณ์ตรงเป็นระยะเวลาหลายปี ไปสู่ผู้คนทั่วทุกมุมโลก จากผู้ฝึกสอนที่ได้รับการอบรมและผ่านการรับรองโดยตรงจากสถาบันของวิม ฮอฟ
‘สามเสาหลัก’ สู่การมีสุขภาพดีขึ้น ที่ไม่ใช่แค่บำบัดจากความเย็น
วิธีการของวิม ฮอฟ โดดเด่นด้วยเสาหลักสามประการ นั่นคือ การหายใจ การสัมผัสความเย็น และการฝึกจิตใจ แต่ละองค์ประกอบล้วนมีประโยชน์ในตัวเอง และเมื่อผสานรวมกันก็จะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งต่อสุขภาพ สิ่งนี้ทำให้วิธีการแบบวิม ฮอฟเป็นมากกว่าเพียงการแช่น้ำแข็งโดยทั่วไป
‘พลังแห่งลมหายใจ (Breathing)’ จุดเริ่มต้นของวิธีการนี้ในรูปแบบการฝึกหายใจลึก 30-40 ครั้ง และทำซ้ำ 3-5 รอบสำหรับการฝึกแต่ละครั้ง นี่คือเทคนิคที่การศึกษาทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าสามารถควบคุมระบบประสาทอัตโนมัติได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เคยเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้มาก่อน นอกจากนี้ การฝึกหายใจยังช่วยให้ผู้ฝึกสามารถควบคุมร่างกายได้ดีขึ้นในสภาวะที่มีความเย็นจัด ช่วยลดความเครียดของร่างกายและจิตใจ รวมทั้งช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการทนต่อความเย็น
‘การสัมผัสความเย็นจากการแช่น้ำแข็ง (Cold Exposure)’ เพื่อปลุกพลังธรรมชาติภายในร่างกาย ในสังคมสมัยใหม่ต่างห่างเหินจากความเย็นตามธรรมชาติที่บรรพบุรุษของเราเคยเผชิญ ร่างกายจึงไม่มีโอกาสแสดงศักยภาพที่แท้จริง วิธีการของวิม ฮอฟ เป็นการนำการสัมผัสความเย็นกลับมาอย่างมีระบบตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ โดยจากการศึกษาพบว่า อุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส ช่วยกระตุ้นการตอบสนองที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และยิ่งได้ผลดีขึ้นเมื่อต่ำกว่า 9 องศาเซลเซียส การสัมผัสความเย็นเพียง 20 วินาที ช่วยกระตุ้นการต้านการอักเสบที่คงอยู่ได้ถึง 6 วัน
‘การฝึกจิตใจ (Mindset)’ เป็นเสาหลักที่สามที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพื่อสร้างพลังแห่งจิตใจ เพื่อปรับเปลี่ยนการฝึกทางกายภาพให้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาสุขภาพแบบองค์รวม ผ่านความมุ่งมั่นและการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง


ผลลัพธ์สุขภาพที่พิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์
การศึกษาวิจัยได้บันทึกการตอบสนองวิธีการแบบวิม ฮอฟ สามารถส่งผลทางสรีรวิทยาอย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนโดปามีนถึง 250% คงอยู่นาน 6 ชั่วโมงหลังการสัมผัสความเย็น รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของจำนวนเม็ดเลือดขาวที่คงอยู่นาน 6 วัน ช่วยลดอาการอักเสบของร่างกาย จึงช่วยเร่งการฟื้นตัวหลังการออกกำลังกาย รวมทั้งเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันทำให้ร่างกายมีความสามารถในการดูแลตัวเองได้ดีขึ้น อีกทั้งช่วยเสริมคุณภาพของการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น
วิธีการนี้ยังมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านบวกแก่สุขภาพใจ (Mental Health) อีกด้วย เพราะช่วยลดความรู้สึกเครียดอย่างมีนัยสำคัญ จึงช่วยบรรเทาความรู้สึกซึมเศร้า รวมทั้งเพิ่มสมาธิและความชัดเจนทางความคิด ต่อยอดไปสู่การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และช่วยฟื้นฟูจิตใจจากภาวะหมดไฟ (Burnout) และอีกส่วนสำคัญยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพราะช่วยเพิ่มระดับพลังงาน แรงจูงใจ และเสริมความสามารถในการตัดสินใจ
การฝึกวิธีการแบบวิม ฮอฟ ในประเทศไทย
ในประเทศไทย ‘การฝึกวิธีการแบบวิม ฮอฟ’ อยู่ภายใต้การดูแลของผู้ฝึกสอน 2 ท่านที่ผ่านการฝึกอบรมโดยตรงจากวิม ฮอฟ คือ คุณสจ๊วต วิลสัน (Stuart Wilson) ซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนระดับ 2 เพียงคนเดียวในประเทศไทย และคุณแก้ม–วริศรา กัญพันธ์ คนไทยคนแรกและคนเดียวที่ผ่านการรับรองและเป็นผู้ฝึกสอนวิธีการแบบวิม ฮอฟ โดยขณะนี้เป็นผู้ฝึกสอนหญิงคนเดียวที่เปิดสอนหลักสูตรในเอเชีย
“จากที่รู้สึกไม่มีความสุขและมีอาการเริ่มแรกของภาวะซึมเศร้าในช่วงที่ COVID-19 ระบาด ทำให้แก้มได้ลองฝึกตามวิธีการของวิม ฮอฟ จากการแนะนำของคุณสจ๊วต ซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนของวิม ฮอฟอยู่แล้ว การได้แช่น้ำแข็งเพียงสองนาทีในวันแรก ทำให้แก้มรู้สึกสดชื่นและมีพลังตลอดทั้งวัน ลุกขึ้นมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นรู้สึกหมดแรง ไม่มีกำลังใจจะทำอะไรเลย จนตัดสินใจที่จะลองแช่น้ำแข็งอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 100 วัน และรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกายและจิตใจพอได้ลองกับตัวเองแล้ว ก็อยากจะเรียนเป็นผู้ฝึกสอนเพื่อนำศาสตร์นี้มาส่งต่อให้คนไทยค่ะ” คุณแก้มได้บอกเล่าถึงที่มาของการเป็นผู้ฝึกสอนวิธีการแบบวิม ฮอฟ หลังจากพิสูจน์ด้วยตนเองว่าศาสตร์นี้ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกแก่ร่างกายและจิตใจของเธอ

วิธีการที่เหมาะสำหรับผู้คนทุกช่วงอายุเมื่อมีสภาพร่างกายพร้อม
คุณแก้มเล่าว่า ผู้เข้าฝึกอบรมของเธอมีอายุน้อยที่สุดที่ 4 ขวบ และมีอายุมากที่สุดที่ 80 ปี ดังนั้น ตราบใดที่ร่างกายพร้อมและไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ อายุก็ไม่ใช่ข้อจำกัดสำหรับผู้เข้าฝึก อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้ก็มีข้อจำกัดสำหรับผู้มีปัญหาสุขภาพหรือมีภาวะบางอย่าง เช่น ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ผู้มีโรคประจําตัวเกี่ยวกับระบบหัวใจ ระบบเส้นเลือด ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงที่ไม่สามารถควบคุมได้ ผู้ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัด ผู้ป่วยลมบ้าหมู ผู้มีปัญหาเรื่องสุขภาพไต ผู้ที่เป็นไมเกรน ฯลฯ และเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ก่อนเข้ารับการอบรมวิธีการแบบวิม ฮอฟ ผู้สนใจจึงต้องทำแบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพ และหากไม่แน่ใจว่าสามารถเข้าฝึกได้หรือไม่ ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนการตัดสินใจเข้าฝึก
ความปลอดภัย คือ รากฐานของการฝึกวิธีการแบบวิม ฮอฟ
ในการฝึกให้ได้ประโยชน์และปราศจากโทษ ทุกครั้งที่ฝึกวิธีการแบบวิม ฮอฟ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกหายใจ หรือการแช่น้ำแข็ง จึงควรปฏิบัติตามข้อกำหนดของมาตรการความปลอดภัย เนื่องจากการฝึกหายใจตามวิธีการของวิม ฮอฟ อาจส่งผลต่อการควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย และในบางกรณี (พบได้น้อย) อาจทำให้หมดสติได้ ดังนั้น ควรนั่งหรือนอนราบขณะฝึกเทคนิคการหายใจ ห้ามฝึกในน้ำและห้ามฝึกใกล้แหล่งน้ำโดยเด็ดขาด รวมทั้งห้ามฝึกขณะขับขี่ยานพาหนะหรือห้ามฝึกในสถานการณ์ใด ๆ ที่อาการหมดสติอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตัวเองหรือผู้อื่น
ส่วน ‘การแช่น้ำแข็ง…ต้องทำเมื่อสภาพร่างกายพร้อมเท่านั้น’ และควรมีการฝึกหายใจเพื่อเตรียมพร้อมร่างกายก่อนสัมผัสความเย็น ในกรณีที่ผ่านการอบรมครั้งแรกกับผู้ฝึกสอนแล้ว และต้องการแช่น้ำแข็งเองที่บ้าน ในทุกครั้งที่ฝึกต้องมีคนอื่นที่สามารถเข้าช่วยเหลือได้หากต้องการอยู่ใกล้ ๆ ตัวคุณ ห้ามฝึกตามลำพังเด็ดขาด เนื่องจากความเย็นมีผลต่อการตอบสนองของระบบประสาท อาจทำให้ร่างกายขยับตัวได้ช้ากว่าที่สมองสั่ง บางครั้งอาจต้องการความช่วยเหลือขณะก้าวออกจากอ่างน้ำแข็ง
นอกจากคุณประโยชน์มากมายต่อร่างกายและจิตใจที่สามารถพิสูจน์ได้ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์แล้ว สิ่งที่ทำให้วิธีการแบบวิม ฮอฟ โดดเด่นและแตกต่าง คือ รากฐานที่มาจากความสามารถตามธรรมชาติของมนุษย์ ผ่านการผสมผสานอย่างเป็นระบบของการหายใจ การสัมผัสความเย็น และการฝึกจิตใจ เพื่อให้ผู้ฝึกได้ค้นพบพลังตามธรรมชาติที่ไม่เคยรู้ว่ามีอยู่ในตัวเอง