
‘โยคะหัวเราะ’ ศาสตร์ดูแลร่างกายและจิตใจ ให้มีความสุขจากเสียงหัวเราะ
นิตยสาร Trust ฉบับที่ 74 | คอลัมน์ Exclusive Health
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ‘Sound Healing’ หรือ ‘การบำบัดด้วยเสียง’ ถูกพูดถึงในวงกว้างและกลายเป็นกระแสทางเลือกการดูแลสุขภาพของผู้คนยุคใหม่ ที่มีหลายงานวิจัยพบว่า การใช้คลื่นเสียงหรือจังหวะเสียงที่มีความถี่ในระดับเฉพาะจะสามารถกระตุ้นร่างกายและจิตใจให้เข้าสู่ภาวะสมดุล โดยเฉพาะเสียงสะท้อนนุ่มลึกจาก ‘ขันทิเบต (Tibetan Singing Bowl)’ เป็นเครื่องมือสร้างคลื่นเสียงทำให้ร่างกายตอบสนองไปกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท และทำให้เกิดการผ่อนคลายอย่างมีคุณภาพ เช่นเดียวกับเสียงใสกังวานจาก ‘คริสตัล โบวล์ (Crystal Bowl)’ ซึ่งคุณปีเตอร์-รัฐกานต์ หาเรือนกิจ นักบำบัดและผู้ให้บริการด้านสุขภาพองค์รวม ผู้ก่อตั้ง Ratha Healing และสตูดิโอ Urban Healing Space Bangkok บอกว่าเป็นสองเครื่องมือ ‘บำบัดด้วยเสียง’ ที่กำลังได้รับความนิยมในเมืองไทย
เสียงกังวานสั่นสะเทือนลึก สู่การบำบัดร่างกายและใจ
“สิ่งที่บำบัดจริง ๆ เราเรียกว่า Vibration หรือแรงสะเทือนที่มาพร้อมเสียงจากการเคาะอุปกรณ์ เช่น ขันทิเบต คริสตัล โบวล์ ฯลฯ จากนั้นเสียงก็จะวิ่งเข้าสู่ร่างกาย โดยเริ่มจากระดับร่างกายที่เนปาลและฝั่งทิเบตเรียกระดับนี้ว่า ‘การนวดด้วยเสียง (Sound Massage)’ เพราะแรงสั่นสะเทือนจะเข้าไปที่ผิวหนัง กล้ามเนื้อ และน้ำในร่างกาย เช่น เลือด น้ำเหลือง เหงื่อ ระบบปัสสาวะ ฯลฯ โดยสามารถคลายความปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้ รวมถึงสามารถทำให้ร่างกายเกิดการดีท็อกซ์ โดยน้ำซึ่งมีอยู่ 70% ของร่างกายจะค่อย ๆ ถูกขับออกมา”
คุณปีเตอร์เล่าถึงการนวดด้วยเสียงที่เกิดผลลัพธ์ต่อร่างกายที่เห็นชัดเจนด้วยวิธีการนี้ คือ นำขันทิเบตมาวางบนตัว โดยไม่ต้องกดจนระบมเหมือนการนวดแผนไทย แต่เป็นการใช้อุปกรณ์ที่ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนของเสียง ส่งไปสู่ร่างกายที่สามารถผ่อนคลายได้ในหลายระดับ โดยคลื่นเสียงจะเข้าไปทำงานกับกล้ามเนื้อ ของเหลว และต่อมไร้ท่อภายในร่างกาย ช่วยปรับสมดุล ขับสิ่งที่เป็นพิษออกไป นอกจากนี้ ยังทำงานกับคลื่นสมองโดยปรับคลื่นสมองให้อยู่ที่ระดับ Theta Level ซึ่งเป็นระดับที่เราไม่ต้องใช้ความคิด เป็นการพักผ่อนระดับลึก เมื่อเข้าถึงคลื่นสมองระดับนี้ ร่างกายจะผ่อนคลาย จิตใต้สำนึกจะเปิด ทำให้เอาสิ่งที่อยู่ภายในใจออกมาเยียวยาได้
มนุษย์เรามีคลื่นสมอง 5 ระดับ คือ 1. Gamma Waves (การแก้ไขปัญหา ความจำ การเรียนรู้ต่าง ๆ) 2. Beta Waves (การคิดวิเคราะห์ การสนทนา การตัดสินใจ) 3. Alpha Waves (ความสงบ ความสบายใจ สภาพจิตใจที่สงบนิ่ง เกิดขึ้นขณะที่ตื่นตัวแต่ผ่อนคลาย) 4.Theta Waves (ความผ่อนคลายขณะกึ่งหลับกึ่งตื่น เชื่อมโยงการฝัน ความคิดสร้างสรรค์ สัญชาตญาณ) และ 5. Delta Waves (การฟื้นฟูร่างกาย เกิดขึ้นในช่วงหลับลึก หลับสนิทโดยไม่ฝัน มีความสำคัญต่อการฟื้นฟูร่างกาย)
Urban Healing Space Bangkok
เสียงบำบัดจากขันทิเบตและคริสตัล โบวล์
คุณปีเตอร์มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้คลื่นเสียงจากอุปกรณ์บำบัดเช่นขันทิเบต โดยเลือกใช้ขันหิมาลายันฟูลมูน คริสตัล โบวล์ และฆ้อง Symphonic Gong แต่หากเป็นคลาส Sound Healing ของ Urban Healing Space Bangkok จะเน้นบรรเลงเพื่อการบำบัดจากขันทิเบตและคริสตัล โบวล์
“ถามว่าทำไมต้องเป็นขันทิเบต จริง ๆ ทุกคนทดสอบลองตีมาหมดแล้วค่ะ แต่ขันที่เสียงดังกังวานจนสามารถบำบัดได้จริง ต้องมีส่วนผสมโลหะถึง 7 ชนิดขึ้นไป เป็นงาน Hand Made ที่เป็นองค์ความรู้ของฝั่งเนปาลและทิเบต ส่วนคริสตัล โบวล์ มีผลิตอยู่สองแหล่งหลัก ๆ คือ สหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งบ้านเราเริ่มให้ความสนใจใช้คริสตัล โบวล์ เพราะเขามาด้วยเสียงใสบริสุทธิ์จนเข้าไปถึงอารมณ์ส่วนลึกได้ดี หลายคนฟังแล้ว ‘ร้องไห้เลย’ ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยค่ะ”
ส่วนพลังแห่งเสียงสู่การบำบัดทั้งร่างกายและจิตใจ คุณปีเตอร์มีเคสที่บำบัดด้วย Sound Healing แล้วเห็นผลมาแชร์ให้ฟังด้วยว่า “เตอร์มีเคสน้องคนหนึ่งเป็นมะเร็งมาค่ะ มาใช้ขันหิมาลายันฟูลมูนตีบำบัดและคุยเรื่องทางใจ ซึ่ง Feedback จากนั้นคือ ค่าเลือด และค่าที่เกี่ยวกับสุขภาพต่าง ๆ ดีขึ้นเป็นผลบวก ส่วนอีกเคสเป็นลูกสาวที่มีคุณแม่เป็นภาวะอัลไซเมอร์ แล้วอยากมาเรียนเพื่อไปใช้บำบัดกับคุณแม่ด้วยตัวเอง ตอนแรกเตอร์ใช้การบำบัดด้วยหินบำบัดอย่างเดียวแต่ไม่เวิร์ก เลยลองเปลี่ยนเป็นขันทิเบต หลังจากเขาตีบำบัดให้คุณแม่ไปแล้วราว ๆ หนึ่งสัปดาห์ พอไปเช็กสุขภาพกับคุณหมอ ก็ได้ผลลัพธ์เรื่องค่าต่าง ๆ ของสุขภาพดีขึ้นเช่นกัน แล้วสมองของคุณแม่เขาทำงานดีขึ้นด้วย นี่คือเคสทางร่างกายที่ได้ผลลัพธ์กลับมาค่ะ”
แต่ Sound Healing ที่สามารถบำบัดได้ดีที่สุด มี Feedback กลับมาเยอะสุดในทุกคลาส คือ การตีขันแล้วกลับไปนอนหลับสนิท หลับลึก และนอนหลับแต่ละคืนได้เร็วขึ้น ดังนั้น ยุคที่ผู้คนต่างเผชิญความเครียดที่สะสมกันมา และกำลังมองหาวิธีผ่อนคลายที่ไม่ต้องพึ่งยา นี่คือวิธีบำบัดอีกทางเลือกที่ใช้พลังของเสียงเข้าไปเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ ลองเปิดใจให้ ‘คลื่นเสียง’ ดูแลคุณสักครั้ง โดยเลือกผู้บำบัดที่มีความรู้ความเข้าใจเพื่อปรับคลื่นเสียงได้เหมาะกับแต่ละบุคคล




